Connect with us

ข่าว

“เพลงพื้นบ้านหลิวซานเจี่ย” วัฒนธรรม “ซานเกอ” ของกว่างซี ที่ถูกสานต่อโดย “ทายาทรุ่นใหม่ 2000s” ให้ผลิบานในยุคสมัยใหม่

Published

on

วัฒนธรรม "ซานเกอ" (Shan'ge) หรือ "เพลงพื้นบ้านหลิวซานเจี่ย" (Liu Sanjie's folk songs) ของกว่างซี กำลังได้รับการสืบทอดโดยคนรุ่นใหม่ '00s' ผ่านเทคโนโลยีและนวัตกรรม พร้อมการสนับสนุนจากภาครัฐและพิพิธภัณฑ์หลิวซานเจี่ย เพื่อก้าวสู่ระดับโลก

สำนักข่าวบริคอินโฟ – วัฒนธรรมเพลงพื้นบ้าน “ซานเกอ” (Shan’ge) หรือ “เพลงพื้นบ้านหลิวซานเจี่ย” (Liu Sanjie’s folk songs) อันเก่าแก่ของเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง (Guangxi Zhuang Autonomous Region) ประเทศจีน กำลังได้รับการสืบทอดและฟื้นฟูชีวิตใหม่จากคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ โดยเฉพาะกลุ่ม “2000s” หรือผู้ที่เกิดหลังปี 2000 ในเมืองเหอฉือ (Hechi) ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็น “บ้านเกิดของหลิวซานเจี่ย” ผ่านการผสมผสานเข้ากับชีวิตยุคใหม่และเทคโนโลยีที่หลากหลาย นักสืบทอดรุ่นเยาว์เหล่านี้กำลังนำเอาบทเพลงแห่งชนชาติจ้วงออกมาเผยแพร่สู่สาธารณะและบนโลกออนไลน์เพื่อรักษาเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมนี้ไว้

โจว เหยียนหาน (Zhou Yanhan) นักร้องสืบทอดเพลงซานเกอวัย 12 ปี หนึ่งในผู้ที่ได้รับสมญานาม “ทายาทตัวน้อยของหลิวซานเจี่ย” เมื่อปี 2022 กล่าวถึงความฝันของเธอในการให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน ว่า “ความฝันของฉันคือการนำเพลงซานเกอไปร้องให้โลกได้ยิน เพื่อให้โลกได้ยินเสียงของพวกเราชาวจ้วง”

เหยียนหานเริ่มเรียนรู้เพลงซานเกออย่างเป็นทางการมา 5 ปีแล้ว และกล่าวว่าเธอซึมซับบทเพลงเหล่านี้มาตั้งแต่เด็กจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต

เธอยอมรับว่าในช่วงแรกของการเรียนรู้นั้นแทบไม่พบเพื่อนรุ่นเดียวกันที่สนใจเพลงประเภทนี้เลย ทำให้เธอพยายามปรับเนื้อหาของเพลงซานเกอโบราณให้เข้ากับเรื่องราวในรั้วโรงเรียนและการรณรงค์ด้านกฎหมาย เพื่อมอบความหมายใหม่ ๆ ให้กับทำนองแบบดั้งเดิม “ตอนนี้เพื่อนร่วมชั้นหลายคนพอได้ฟังฉันร้องก็ชอบ และยังเข้ามาเรียนรู้เองด้วยความเต็มใจ นี่คือสิ่งที่ฉันภูมิใจที่สุด” เหยียนหานกล่าวเสริมว่าสำหรับเพลงที่มีท่วงทำนองซับซ้อน เธอก็จะฝึกฝนซ้ำ ๆ จนกว่าจะทำได้

เหวย จื้อเป่า (Wei Zhibao) “กลุ่ม 1995s” หรือผู้ที่เกิดหลังปี 1995 ซึ่งเติบโตในเสียงเพลงของเมืองอี๋โจว (Yizhou) ก็มีความคล้ายคลึงกัน เขาย้อนความหลังว่าในอดีตเกือบทุกคนในอี๋โจวจะร้องเพลงซานเกอได้ ซึ่งบทเพลงเหล่านี้ไม่เพียงเป็นความบันเทิง แต่ยังเป็นสื่อกลางในการแสดงอารมณ์ความรู้สึกที่สอดแทรกอยู่ในพิธีแต่งงาน งานศพ การทำงาน และชีวิตประจำวันของคนในท้องถิ่น แต่เมื่อความบันเทิงสมัยใหม่อย่างดนตรีป๊อปหรือการเต้นลานสาธารณะเริ่มได้รับความนิยม บรรยากาศของเพลงซานเกอก็เริ่มจางหายไป และการสืบทอดก็มีช่องว่างทางอายุเกิดขึ้น

Advertisement

เพื่อสืบสานวัฒนธรรมเพลงซานเกอ จื้อเป่าจึงตัดสินใจเป็นศิษย์ของ หวง เยว่เซียง (Huang Yuexiang) ผู้สืบทอดระดับเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง สำหรับโครงการมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของจีนในสาขาเพลงพื้นบ้านหลิวซานเจี่ย ตั้งแต่ปี 2016 เพื่อศึกษาการเรียบเรียงและแต่งเพลงอย่างเป็นระบบ “ผู้เฒ่าผู้แก่หลายคนสามารถแต่งเพลงได้ แต่ไม่ถนัดการสอน”

จื้อเป่ากล่าว โดยระบุว่าอาจารย์หวง เยว่เซียงได้นำทฤษฎีจังหวะของเพลงซานเกอมาจัดระเบียบ ทำให้เขาพัฒนาจาก “แค่ร้องเป็น” เป็น “แต่งเป็น” และสามารถแต่งเพลงแบบสด ๆ ได้ ในมุมมองของจื้อเป่า เพลงพื้นบ้านหลิวซานเจี่ยไม่เพียงเป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรม แต่ยังเป็น “บทกวี” และ “สารานุกรม” ของชนชาติจ้วง เนื่องจาก “ประวัติศาสตร์หลายอย่างที่ไม่มีการบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร ล้วนถูกเก็บรักษาไว้ในเสียงเพลง”

หวง เยว่เซียง อาจารย์ผู้สืบทอดเพลงซานเกอ แสดงความเห็นว่า “เพลงซานเกอก็ต้อง ‘ตามสมัย’ ด้วย” เธอทุ่มเทมานานหลายปีเพื่อส่งเสริมให้เพลงพื้นบ้านหลิวซานเจี่ยฟื้นคืนชีพในยุคสมัยใหม่ โดยไม่เพียงแค่แต่งเนื้อเพลงที่สะท้อนชีวิตและแนวคิดใหม่ ๆ แต่ยังใช้เครื่องมือใหม่ ๆ ในการเผยแพร่วัฒนธรรมเพลงซานเกอ ปัจจุบันเธอถ่ายทอดการสอนผ่านการไลฟ์สดทางโซเชียลมีเดียวันละ 2-3 ชั่วโมง และมีผู้ติดตามเกือบหมื่นคน ลูกศิษย์ของอาจารย์หวงมีอยู่ทั่วกว่างซี รวมถึงขยายไปยังมณฑลกวางตุ้งและกุ้ยโจวด้วย เธอยังเคยสอนเพลงซานเกอในกิจกรรมที่มีแขกต่างชาติเข้าร่วม โดยหวังที่จะใช้สื่อและการแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศผลักดันให้เพลงพื้นบ้านหลิวซานเจี่ยก้าวสู่เวทีโลก

“ฉันยินดีที่จะรับ ‘ศิษย์ชาวต่างชาติ’ มาก” เธอกล่าว

นอกจากการสืบทอดโดยนักร้องท้องถิ่นแล้ว เพลงพื้นบ้านหลิวซานเจี่ยยังได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐและการส่งเสริมอย่างสร้างสรรค์จากสถาบันทางวัฒนกรรม โดยมี “พิพิธภัณฑ์หลิวซานเจี่ย” (Liu Sanjie Museum) ซึ่งเปิดอย่างเป็นทางการในเดือนมิถุนายน ปี 2017 เป็นศูนย์กลางสำคัญในการจัดแสดงวัฒนธรรมนี้

หวง อวี่ (Huang Yu) ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์หลิวซานเจี่ย กล่าวว่าพิพิธภัณฑ์ได้รวบรวมและจัดแสดงวัฒนธรรมเพลงพื้นบ้านหลิวซานเจี่ย รวมถึงเก็บรักษาเอกสาร เพลงประกอบฉากภาพยนตร์ โปสเตอร์ และวัตถุจัดแสดงเสริมอื่น ๆ ที่มีคุณค่า ปัจจุบันทางพิพิธภัณฑ์กำลังวางแผนที่จะนำเทคโนโลยี VR มาใช้ในการสร้างห้องจัดแสดงประสบการณ์เสมือนจริง เพื่อ

“ให้นักท่องเที่ยวสามารถสัมผัสถึงฉากการถ่ายทอดและการร้องเพลงตอบโต้ของหลิวซานเจี่ยได้อย่างสมจริง การใช้เทคโนโลยีได้เปิดโอกาสใหม่ ๆ ให้กับการสืบทอดเพลงซานเกอ” ผู้อำนวยการหวง อวี่กล่าวสรุป

Advertisement
Continue Reading
Advertisement