นายกฯ สั่งทบทวนมาตรการต่อกัมพูชาอื่นๆอีก หลังเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิด ชี้หากไม่ชี้แจงอาจยกเลิกปฏิญญา พร้อมเน้นย้ำเตรียมรับมือสถานการณ์น้ำและผันน้ำ

สำนักข่าวบริคอินโฟ – นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.) ได้มีข้อสั่งการภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยประเด็นหลักที่น่าสนใจคือการสั่งการให้มีการทบทวนมาตรการที่เกี่ยวข้องกับประเทศกัมพูชาทั้งหมด รวมถึงการเตรียมความพร้อมดูแลประชาชนในพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดนที่ติดต่อกับกัมพูชา ภายหลังจากมีรายงานเหตุการณ์ทหารไทยประสบอุบัติเหตุจากการเหยียบกับระเบิด นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้กำชับให้ทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำท่วม และวางแผนแจ้งเตือนประชาชนให้ชัดเจนก่อนดำเนินการผันน้ำ

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีว่า นายกฯ ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่ ทหารไทยเหยียบกับระเบิด เมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยได้สั่งการไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมให้ยุติการดำเนินการตามปฏิญญาที่เกี่ยวข้องทั้งหมดไว้ก่อน ขณะเดียวกัน กระทรวงการต่างประเทศ ได้ยื่นประท้วงประเทศกัมพูชาแล้ว และหากไม่มีการชี้แจงหรือแสดงท่าทีใด ๆ รัฐบาลไทยจะพิจารณา ยกเลิกปฏิญญา ต่อไป นอกจากนี้ หากมีความจำเป็นต้องมี มาตรการทางทหาร นายกรัฐมนตรีได้ขอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมดำเนินการได้ตามสมควร แล้วรายงานให้ทราบ และกำชับให้ทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ทบทวนมาตรการต่าง ๆ ที่เป็นการดำเนินการเกี่ยวกับประเทศกัมพูชา เพื่อให้เกิดความเหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เช่น มาตรการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าว ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน (Ministry of Labour) จะเสนอต่อ ครม. ในวันนี้

ในส่วนของการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ตามแนวชายแดน นายกรัฐมนตรีขอให้ กระทรวงมหาดไทย (มท.) และ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เตรียมการซักซ้อมมาตรการอำนวยความสะดวกในกรณีฉุกเฉินสำหรับประชาชนทั้ง 7 จังหวัดที่มีชายแดนติดต่อกับ กัมพูชา (Cambodia) รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการแพทย์ การดูแลโรงพยาบาลให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด โดยเฉพาะการปกป้องโรงพยาบาลและการอพยพผู้ป่วย หรือการเตรียมแผนการรองรับสถานการณ์ที่อาจรุนแรงขึ้น นอกจากนี้ยังให้ครอบคลุมถึงโรงเรียนและชุมชน หมู่บ้านที่มีความเสี่ยงสูงด้วย

สำหรับ สถานการณ์น้ำท่วม นายกรัฐมนตรีได้รับรายงานจาก นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ว่า ช่วงนี้เป็นช่วงที่ต้องติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการระบายน้ำจาก เขื่อนภูมิพล ซึ่งการระบายน้ำนี้อาจทำให้ปริมาณน้ำใน แม่น้ำเจ้าพระยา ที่ไหลลงมายังภาคกลางและกรุงเทพมหานคร มีปริมาณสูงขึ้น ดังนั้น การบริหารจัดการน้ำอาจจำเป็นต้อง ผันน้ำออก ทาง 2 ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่เกษตรกรรมและบ้านเรือนของประชาชนที่อาศัยบริเวณโดยรอบ

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้กำชับไปยังทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) และ กรมชลประทาน รวมถึงทางจังหวัด ให้ประสานงานกันเพื่อแจ้งเตือนและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบจากการผันน้ำให้รับทราบ ล่วงหน้าอย่างชัดเจน เพื่อให้มีเวลาเตรียมตัวและขนย้ายข้าวของ พร้อมเร่งรัดการให้ความช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่จะได้รับผลกระทบจากการดำเนินการดังกล่าวโดยเร็วที่สุด โดยมอบหมายให้ นายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าทีม ร่วมกับ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ดูแลการช่วยเหลือประชาชน อย่างรวดเร็ว และให้แบ่งหน้าที่รับผิดชอบในแต่ละพื้นที่กันให้ชัดเจน นอกจากประเด็นดังกล่าว นายกฯ ยังสั่งการให้ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เร่งชี้แจงสร้างความเข้าใจแก่ประชาชน ผู้ประกอบการ และนักท่องเที่ยว เกี่ยวกับข้อห้ามและสิ่งที่สามารถดำเนินการได้ตาม พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฉบับใหม่ พร้อมกำชับให้ดำเนินการประชาสัมพันธ์อย่างเร่งด่วน