ข่าว
ตลาดคอนโดฯ ปี 2569 ยังชะลอตัวต่อเนื่อง กูรูคาด “กำลังซื้อจีน” ฟื้นตัวหนุนตลาดที่อยู่อาศัยไทย
ตลาดคอนโดฯ ปี 2569 ยังชะลอตัวต่อเนื่อง กูรูคาด “กำลังซื้อจีน” ฟื้นตัวหนุนตลาดที่อยู่อาศัยไทย
ตลาดคอนโดฯ ไตรมาส 3/2568 เปิดตัว 6,618 ยูนิต – เน้นทำเล BTS สายสีเขียว
ในช่วงไตรมาส 3 ปี 2568 ที่ผ่านมา ตลาดคอนโดมิเนียมมีการเปิดตัวโครงการใหม่เพิ่มขึ้นประมาณ 6,618 ยูนิต ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในทำเลตามแนวรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว ทั้งนี้ นายสุรเชษฐ กองชีพ หัวหน้าฝ่ายวิจัยและที่ปรึกษา คุชแมน แอนด์ เวคฟีลด์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า โครงการที่เปิดขายใหม่หลายแห่งมีราคาสูง และบางโครงการใช้วิธีเปิดขายแบบให้จองบางชั้นเพื่อทดลองตลาดก่อนเปิดขายอย่างเป็นทางการ ข้อมูลที่น่าสนใจคือ มีเพียง 11% ของโครงการใหม่เท่านั้นที่อยู่ตามแนวรถไฟฟ้าสายสีอื่น ๆ อย่างสายสีชมพู และสายสีน้ำเงิน
โดยโครงการคอนโดฯ กว่า 89% ในไตรมาส 3/2568 แม้จะอยู่ในแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียว แต่ส่วนใหญ่กลับเข้าไปอยู่ในซอยที่แยกจากถนนหลัก และอยู่ห่างจากสถานีมากกว่า 1 กิโลเมตร หรือบางแห่งไกลกว่า 2 กิโลเมตร แต่ยังมีราคาสูง เนื่องจากตั้งอยู่ในทำเลที่มีราคาที่ดินสูง เช่น ตามแนวถนนสุขุมวิท และเจริญกรุง เป็นต้น นอกจากนี้ ราคาขายคอนโดฯ ใหม่โดยรวมยังปรับสูงขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าถึงประมาณ 47% ซึ่งอาจเป็นผลจากโครงการในไตรมาส 2/2568 ที่มีราคาไม่สูงนักเนื่องจากอยู่ในทำเลรอบนอกกรุงเทพฯ และนอกเส้นทางรถไฟฟ้า
แนวโน้มครึ่งปีหลัง 2568 กำลังซื้อในประเทศยังต่ำ
สำหรับช่วงที่เหลือของปี 2568 แนวโน้มตลาดคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ ยังคงอยู่ในช่วงชะลอตัว สาเหตุหลักมาจากความเชื่อมั่นในระยะยาวของคนไทยต่อภาวะเศรษฐกิจและความมั่นคงในการทำงานยังอยู่ในระดับต่ำ ทำให้คนไทยยังระมัดระวังในการใช้จ่ายและสร้างหนี้สินระยะยาว ประกอบกับสถาบันการเงินยังคงเข้มงวดในการพิจารณาสินเชื่อ แม้ว่าความต้องการที่อยู่อาศัยจะยังมีอยู่ก็ตาม ส่งผลให้การเช่าที่อยู่อาศัยกลายเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยม โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เพิ่งเริ่มทำงานไม่นาน แม้ผู้ประกอบการบางรายจะพยายามเข้ามาช่วยเหลือผู้ซื้อที่มีปัญหาเรื่องสินเชื่อ เช่น การให้คำปรึกษา การให้เช่าก่อนซื้อ หรือการร่วมมือกับสถาบันการเงินก็ตาม
ปี 2569 ลุ้นการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลใหม่ และการฟื้นตัวของกำลังซื้อต่างชาติ
นายสุรเชษฐ คาดการณ์ว่า แนวโน้มตลาดคอนโดมิเนียมในปี 2569 จะยังคงไม่แตกต่างจากปี 2568 มากนัก เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองและการลงทุนยังคงต้องรอความชัดเจนจากการเลือกตั้งที่อาจเกิดขึ้นในปีหน้า ซึ่งหากมีการยุบสภาหรือเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ อาจส่งผลให้ความเชื่อมั่นในการลงทุนและนโยบายต่าง ๆ หยุดชะงัก ผู้ประกอบการอาจจะรอดูสถานการณ์ในช่วงต้นปี 2569 ก่อน อย่างไรก็ตาม หากการเลือกตั้งหรือการเปลี่ยนรัฐบาลเป็นไปอย่างราบรื่น อาจช่วยให้ภาวะเศรษฐกิจดีขึ้นและกระตุ้นความเชื่อมั่นคนไทยได้
นอกจากนี้ นายสุรเชษฐ ยังได้กล่าวถึงกำลังซื้อชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีน ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ผู้ประกอบการพยายามเข้าถึงมาโดยตลอด
“กำลังซื้อต่างชาติโดยเฉพาะชาวจีน อาจจะมากขึ้นในปี 2569 เพราะสถานการณ์ต่าง ๆ เริ่มดีขึ้น ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับเรื่องของความปลอดภัยในประเทศไทยเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นมากแล้ว แม้ว่าจะมีชาวจีนส่วนหนึ่งเลือกไปประเทศอื่น ๆ มากกว่าประเทศไทยในปีนี้ แต่ถ้าพิจารณาจากความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยแล้ว ประเทศไทยยังคงอยู่อันดับต้น ๆ หรือ อันดับ 1 เสมอในความคิดของชาวจีน ไม่ว่าจะเป็นการจัดอันดับโดยองค์กรหรือหน่วยงานใดก็ตาม เพียงแต่ช่วงที่ผ่านมาชาวจีนอาจจะมีปัญหาเรื่องการเงินเพราะตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศจีนเองยังไม่ฟื้นตัว แต่ค่อย ๆ ดีขึ้นต่อเนื่อง”
ผู้ประกอบการหลายรายยังคงหาช่องทางเข้าถึงกำลังซื้อต่างชาติโดยตรง ไม่ผ่านคนกลาง เช่น การร่วมมือหรือจัดตั้งบริษัทร่วมกับบริษัทนายหน้าต่างชาติ นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มนายหน้าสัญชาติอื่น ๆ เช่น รัสเซีย และ เมียนมาร์ ที่เข้ามาช่วยขายคอนโดฯ โดยเฉพาะโครงการในเมืองท่องเที่ยว ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการค่อนข้างมาก
