Connect with us

ข่าวบันเทิง

จบแล้วยังไง? Seishun 18×2 Kimi e to Tsudzuku Michi : รักเรา ยังคิดถึง ไม่ใช่แค่หนังโรแมนติก แต่เป็นหนังที่ทำให้เราหันกลับมามองชีวิตและถนอมความรู้สึกของตัวเอง

Published

on

Seishun 18×2 Kimi e to Tsudzuku Michi

จำไม่ได้ว่าหนังประกาศตอนไหน แต่สิ่งหนึ่งที่จำได้เลยก็คือ เราบอกกับตัวเองไว้ว่า ถ้า Seishun 18×2 Kimi e to Tsudzuku Michi : รักเรา ยังคิดถึง ไม่เข้าไทย เดี๋ยวจะบินไปดูไม่ที่ไต้หวันก็ญี่ปุ่น เพราะไวป์ของหนังที่เป็นเรื่องราวการเดินทางเพื่ออยู่กับตัวเองและตามหาบางสิ่งในชีวิต คือตรงใจจนอยากที่จะดู อันนี้คือเหตุผลหลักเลย แต่ถ้าเอาเหตุผลรองก็คือ น้องคิโยฮาระ คายะ กับเป็นงานของผกก.ฟูจิอิ มิจิฮิโตะ จาก The Journalist, The Last 10 Years & The Parades และสุดท้ายก็มีค่ายในไทยซื้อมาฉายในที่สุด

“Seishun 18×2” ว่าด้วยเรื่องราวของ จิมมี่ นักพัฒนาเกมวัย 36 ที่ได้ตัดสินใจออกเดินทางไปญี่ปุ่น เพื่อออกตามหา อามิ รักแรกที่เขาเจอที่ไต้หวัน ในช่วงที่เขาเรียนม.ปลายและทำงานพาร์ทไทม์อยู่ที่ร้านคาราโอเกะด้วยกัน ซึ่งในตอนนั้นเธอได้กลับญี่ปุ่นอย่างกระทันหัน การเดินทางในครั้งนี้ จิมมี่ จะได้ค้นพบความจริงบางอย่างที่จะทำให้ชีวิตเขาเปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิม

Seishun 18×2 Kimi e to Tsudzuku Michi

“พักบ้าง เพื่อให้เราออกเดินได้ไกลขึ้น, การเดินทางที่ไม่มีจุดหมายนี่แหละที่ทำให้มันน่าสนุก”

ตัวหนังจัดตัวเองอยู่ในหมวดโรแมนติก แต่สำหรับเรานอกจากโรแมนติกแล้ว อีกหนึ่งหมวดที่หนังเรื่องนี้ควรอยู่ด้วยก็คือ Road Movie หรือเราจะคุ้นชินกับคำว่า Road Trip มากกว่า ด้วยความที่หนังพาเราออกเดินทางตลอดทั้งเรื่อง ไปทัวร์ ไถหนาน, ไต้หวัน และ ญี่ปุ่น ใน 2 ช่วงอายุของตัวละครในเรื่อง

ตลอด 2 ชั่วโมงที่ จิมมี่ ได้ออกเดินทางไปพร้อมกับความรู้สึกที่รัก เอมิ ตั้งแต่อายุ 18 มาจนถึงอายุ 36 เป็นเส้นทางที่เต็มไปด้วยทั้งความสุขและความทุกข์ ในแต่ละวันที่เราได้ใช้ชีวิตท่ามกลางกระแสเวลาที่ไหลผ่านไป ใช้เวลาอยู่กับปัจจุบัน เพื่อเดินหน้าไปยังอนาคตในทุกๆ วัน

Advertisement

ซึ่งการใช้ชีวิตในทุกวันของเรานั้นก็คือการเดินทางในรูปแบบนึง เจอเรื่องราวทั้งทุกข์และสุข พบเจอกับผู้คนมากหน้าหลายตา เพียงแต่ว่า เรานั้นใช้ชีวิตอยู่กับคนอื่น โฟกัสกับสิ่งต่างๆ รอบข้าง มากกว่าที่จะโฟกัสตัวเอง


สิ่งหนึ่งที่หนังได้บอกกับเราก็คือ ช่วงเวลาที่เราใช้ชีวิตเผชิญหน้ากับสิ่งต่างๆ อย่าลืมที่จะหาเวลาหยุดพักให้กับตัวเอง กลับมาโฟกัสกับตัวเองบ้าง เอาเวลาไปอยู่ในพื้นที่เงียบๆ หรือพื้นที่ที่เราสบายใจของตัวเองด้วย ซึ่งในเรื่องนี้ก็คือการเดินทาง เพื่อเยียวยากับความรู้สึกที่ และให้ร่างกายที่เหนื่อยล้าได้พักผ่อนบ้าง นับเป็นการเดินทางในอีกรูปแบบนึง ก่อนที่จะกลับไปเผชิญหน้ากับชีวิตของตัวเองอีกครั้ง

ในพาร์ทโรแมนติกและดราม่า หนังพาเรานึกถึง LOVE LETTER ของผู้กำกับอิวาอิ ชุนจิ (ซึ่งมีการเอ่ยถึงเป็นส่วนหนึ่งในเรื่องราวด้วย) +กับ THE LAST 10 YEARS ของ ผู้กำกับฟูจิอิ มิจิฮิโตะ ที่นำมาผสมรวมกัน หนังค่อยๆ ร้อยเรียงและเชื่อมต่อเรื่องราวของทั้งสองตัวละครเข้าด้วยกัน ก็คือร้องไห้ระหว่างที่ดูกันไปเลย ตาแดงฉ่ำน้ำตา แนะนำควรพกทิชชู่หรือผ้าเช็ดหน้าไปด้วยจะดีมาก Seishun 18×2 ยิ่งตอกย้ำไปอีกว่า ผู้กำกับฟูจิอินั้น เขาแม่นในการลำดับจังหวะการเล่าเรื่องราวและร้อยเรียงอารมณ์ความรู้สึกให้จับหัวใจเราได้แม่นยำมากขนาดไหน

เพลงประกอบในช่วงเครดิตของภาพยนตร์ “Kiokunotabihito (นักเดินทางแห่งความทรงจำ)” ที่ร้องโดยวง Mr. Children ในแง่ของเนื้อเพลงคือเหมือนกับ “Michi Teyu Ku” ของ ฟูจิอิ คาเสะ ที่ถอดเอาเรื่องราวของหนังมาสรุปอยู่ในเพลงความยาว 6 นาทีครึ่ง ทำให้ภาพของเรื่องราวที่เราพึ่งดูไป ย้อนกลับมาหมดเลย จัดว่าเป็นอีกเพลงที่ดีมากๆ

Seishun 18×2 Kimi e to Tsudzuku Michi

2 นักแสดงนำ “สวี่กวางฮั่น และ คิโยฮาระ คายะ” ก็คือแสดงดีมากๆ ทั้งความรู้สึกที่แสดงออกมาในภายนอก ทั้งความรู้สึกที่เก็บซ่อนเอาไว้ในใจ ไม่สามารถพูดออกมาให้อีกคนรับรู้ได้ แสดงผ่าน Body Language ได้อย่างเฉียบขาดแบบสุดๆ

ขอเปิดโหมดหวีดสักนิด คิโยฮาระ คายะ น่ารักมาก น่ารักสุบ เป็นความน่ารักที่เปี่ยมด้วยความสดใสแก่โลกใบนี้มากๆ ส่วน สวี่กวางฮั่น พี่จะหล่อไปไหน ใส่แว่นว่าหล่อแล้ว ตอนถอดแว่นช่วงวัยรุ่นก็คือหล่อโฮกๆ

Advertisement

สุดท้ายและท้ายสุด “Seishun 18×2 Kimi e to Tsudzuku Michi : รักเรา ยังคิดถึง” เป็นหนังที่ทำให้เราหันกลับมาหาเวลาให้ตัวเองได้พักผ่อนจากการใช้ชีวิต ที่มีการลำดับเรื่องราวและจังหวะอารมณ์ได้ดีมากๆ และสำหรับใครที่ตั้งใจอยากไปเสพความน่ารักของน้องคายะ หรือความหล่อของพี่สวี่ ไปโลด คุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์ แถมยังได้หนังดีๆ กลับมาอยู่ในหัวใจอีกเรื่องด้วย…