ข่าวบันเทิง
รีวิว 18×2 Beyond Youthful Days หนังเหงาๆกับเส้นทางที่ต้องเดิน
18 ปีที่เราเจอกัน ฉันออกเดินทาง 18×2 Beyond Youthful Days หนังเหงาๆกับเส้นทางที่ต้องเดินต่อไป

ภาพยนตร์ : 18×2 Beyond Youthful Days
กำหนดเข้าฉาย : วันนี้ทุกโรงภาพนตร์
ภาพยนตร์ที่น่าจับตามองในช่วงปลายฤดูร้อน และเริ่มต้นฤดูฝน ของบ้านเรา อารมณ์ที่พร้อมจะพัดพาความเหงาเข้ามาใกล้ให้พวกเราได้รู้สึกเปลี่ยวหัวใจ จากคุณ Fujii Michihito ผู้กำกับมากฝีมือเรียกน้ำตาอย่างภาพยนตร์เรื่อง The Last Ten Years และวันนี้เขาได้กลับมาพร้อมกับภายนตร์เรื่องใหม่ที่เป็นมากกว่าภาพยนตร์ญี่ปุ่น แต่เป็นการก้าวข้ามกำแพงของภาษา และมุ่งสู่การเล่าเรื่องแบบไร้พรมแดน กับ รักเรายังคิดถึง 18 x 2 Beyond Youthful Days ในบทความนี้เราจะมาพูดถึงภาพยนตร์เรื่องนี้กันว่า ทำไมภาพยนตร์เรื่องนี้ถึงไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
เรื่องย่อ 18×2 Beyond Youthful Days รักเรายังคิดถึง
18×2 Beyond Youthful Days รักเรายังคิดถึง ภาพยนตร์รักเรียกน้ำตา จาก ผู้กำกับ THE LAST 10 years ทำรายได้ถล่มทลายทั้งในญี่ปุ่นและไต้หวัน หนังเริ่มเล่าย้อนกลับไป 18 ปีก่อนที่ไต้หวัน จิมมี่นักเรียนม.ปลาย ได้พบเจอกับ อามิ แบคแพคเกอร์สาวจากญี่ปุ่น ที่ทำงานพาร์ทไทม์ พวกเขาทั้งสองได้ทำงานด้วยกันตลอดช่วงฤดูร้อน และจิมมี่ก็ได้ตกหลุมรัก แต่จู่ๆ อามิก็ตัดสินใจว่าจะเดินทางกลับญี่ปุ่น เวลาผ่านไปหลายปี จิมมี่ก็ได้เจอโปสการ์ดที่เขาได้รับจากอามิเมื่อ 18 ปีก่อน ความทรงจำของรักครั้งแรกก็ย้อนกลับมา และทำให้เขาตัดสินใจเดินทางมาญี่ปุ่นเพื่อตามหารักแรกที่เขาไม่เคยได้พูดคำว่ารักบอกเธอ
รีวิว 18×2 Beyond Youthful Days
เรื่องของลายเซ็นของภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นลายเซ็นที่มีความเป็นคุณฟุจิอิ(ผู้กำกับ) ออกมาอย่างชัดเจน และดำเนินเรื่องไปแบบที่เราคุ้นเคย และค่อยเป็นค่อยไป สอดใส่ประเด็นเร้าน้ำตาไปให้เราโดยไม่ทันตั้งใจ ภายในความสุขที่มากเกินบรรยาย ตบท้ายด้วยประโยคที่กินใจ อยากออกไปใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ภายในหนังทุกเรื่องของคุณฟุจิอิ และเป็นภาพยนตร์ที่ออกแบบและสร้างโลกของ 2 ประเทศออกมาได้อย่างสอดคล้องและมีเสน่ห์ต่อกันอย่างละเอียดอ่อน ร้อยด้วยวัฒนธรรมที่มีความคล้ายกัน ไปจนถึงวัฒนธรรมที่ส่งผลต่อกันและกัน ทำไมคนไต้หวันถึงต้องดูภาพยนตร์ของญี่ปุ่น ทำไมถึงอินประเทศญี่ปุ่นขนาดนี้ ทำไมคนญี่ปุ่นถึงได้อยากมาสัมผัสความเป็นไต้หวันภาพยนตร์เรื่องนี้สามารถตอบคำถาม และนำเสนอออกมาได้อย่างดีเยี่ยม เป็นภาพยนตร์ที่สามารถรับชมได้โดยที่ไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องของภาษา จะทำให้เราดูลำบาก เพราะในส่วนของบท ถูกออกแบบมาอย่างละเมียด และไหลลื่นมากๆ จนลืมไปเลยว่าเป็นหนังที่ผสมผสานระหว่างภาษาจีน และญี่ปุ่น
เพราะความแตกต่างนั้นเองทำให้เกิดเรื่องราวความสวยงามของ ‘จิมมี่(เกร็ก ซู)’คนไต้หวันลูกจ้างร้านคาราโอเกะ และนักเดินทางแบกแพ็คเกอร์ที่มีความฝันอยากจะเดินทางรอบโลก ‘อามิ(คายะ คิโรฮาระ)’ จากประเทศญี่ปุ่น ที่โชคชะตาเล่นตลกที่ทำประเป๋าเงินหาย จนพาทางทั้งสองคนมาเจอกัน และแยกออกจากกันและฝากสัญญาที่ยากจะลืม ทำให้จิมมี่ออกเดินทาง…
ระหว่างทางเราจะได้สัมผัสราวกับว่าเราได้เดินทางไปพร้อมๆกับจิมมี่ตัวเอกของเรื่อง และเติบโตไปพร้อมๆกัน ตั้งแต่วัยรุ่นเล่นบาสอยู่หลังร้านคาราโอเกะ ไปจนก้าวข้ามตามความฝันไปสู่นักสร้างเกมมืออาชีพในวัยกลางคน และสอดแทรกด้วยเรื่องราวของเขาและ อามิ ที่ทยอยมาปลอบโยนหัวใจ มอบรอยยิ้ม ผ่านการแสดงที่บอกเลยว่า ใครมาดูต้องอมยิ้มกันบ้างแน่ๆ เพราะในส่วนนี้เป็นสิ่งที่อยากให้ไปลองดูสักครั้งจริงๆ ความธรมมชาติระหว่างเคมีของ พระนาง นั้นไม่ธรรมดาเลย
อาจจะไม่ใช่รสชาติใหม่ของภาพยนตร์แนวโรแมนซ์ รักแบบเหงาของญี่ปุ่น แต่เป็นหนึ่งในเมล็ดภาพยนตร์ชั้นดีของปีนี้ไม่แพ้เรื่องไหนเลย เป็นสชาติที่เราคุ้นเคย ขอให้เราได้ปล่อยใจให้สบาย อมยิ้มไปกับมัน รู้สึกไปกับมัน เติบโตไปด้วยกัน และส่งท้ายภาพยนตร์ออกไปพร้อมๆกัน การแสดงของพระนางที่มอบรอยยิ้มให้กับ โลกของภาพยนตร์เรื่องนี้ที่จะนำพาเราไปเจออะไร

สุดท้ายการออกเดินทางของ ’จิมมี่’ ปลายทางจะเป็นเช่นไรความรักของทั้งสองคน จะได้เจอกันที่ปลายทางท้องฟ้าหรือเปล่าเปิดไพ่ความเหงากระแทกแบบจับใจ ทุกภาษา ทุกความรู้สึกแล้ว วันนี้ทุกโรงภาพยนตร์
เขียนโดย : รัฐนันท์ ขจัดภัย