Connect with us

ข่าว

วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สุรินทร์ ชี้แจงกรณี ยึดมือถือนักศึกษากัมพูชา ชี้เป็นมาตรการของฝ่ายความมั่นคง เพื่อความปลอดภัย และดูแลตามหลักสิทธิมนุษยชน

Published

on

วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สุรินทร์ ชี้แจงกรณีข่าวการจำกัดการสื่อสารของนักศึกษากัมพูชา ยืนยันดำเนินการตามมาตรการความมั่นคงจังหวัดสุรินทร์ และดูแลนักศึกษาตามหลักสิทธิมนุษยชนอย่างเต็มที่

สำนักข่าวบริคอินโฟ – ตามที่มีข่าวเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ของกัมพูชา เกี่ยวกับนักศึกษาจาก วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สุรินทร์ (Boromajchoni Nursing school) อ้างว่าถูกยึดโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์สื่อสาร จนไม่สามารถติดต่อใครได้ และถูกเสนอให้เลือกระหว่างการเดินทางกลับกัมพูชาเพื่อสละทุนการศึกษา หรือนักศึกษาบางรายรู้สึกไม่มีสมาธิในการเรียนและประสบปัญหาขาดแคลนอาหารนั้น

วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สุรินทร์ คณะพยาบาลศาสตร์ สถาบันพระบรมราชชนก ได้ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริง โดยระบุว่า วิทยาลัยมีนักศึกษาชาวกัมพูชาจำนวน 2 คน ภายใต้ โครงการพระราชทานความช่วยเหลือแก่ราชอาณาจักรกัมพูชาตามพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และยืนยันว่าได้ดูแลสิทธิ สวัสดิการ รวมถึงความปลอดภัยของนักศึกษาอย่างเต็มที่

เกี่ยวกับประเด็นการจำกัดการสื่อสารของนักศึกษา วิทยาลัยชี้แจงว่า เป็นการดำเนินการตาม มาตรการความมั่นคงในพื้นที่ของจังหวัดสุรินทร์ ภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉินตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยมีคำสั่งจากการประชุมความมั่นคงจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งมี ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธาน เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2568 กำหนดให้สถาบันการศึกษาที่มีนักศึกษากัมพูชาจำกัดขอบเขตการสื่อสาร โดยอนุญาตให้สื่อสารเป็นช่วงเวลาตามความจำเป็นและอยู่ในการดูแลของเจ้าหน้าที่ วิทยาลัยได้ดำเนินการตามคำสั่งนี้อย่างเคร่งครัด และได้พูดคุยทำความเข้าใจกับนักศึกษาเกี่ยวกับเหตุผลและความจำเป็นภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉิน ทั้งนี้นักศึกษาสามารถสื่อสารกับครอบครัวได้ตามความต้องการ และวิทยาลัยได้รายงานให้ผู้ประสานงานโครงการฯ ทราบ เพื่อสื่อสารทำความเข้าใจกับครอบครัวนักศึกษาอีกทางหนึ่ง

สำหรับประเด็นที่กล่าวว่า “โรงเรียนบอกให้เลือกตัวเลือกอื่น คือ กลับกัมพูชาและสละทุนการศึกษา” นั้น วิทยาลัยชี้แจงว่า การตัดสินใจลาออกจากการเป็นนักศึกษาและเดินทางกลับประเทศกัมพูชาเป็นการตัดสินใจของนักศึกษาร่วมกับผู้ปกครอง ภายใต้ข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วน วิทยาลัยไม่ได้มีการบีบบังคับนักศึกษาแต่อย่างใด และได้สื่อสารกับผู้ปกครองและนักศึกษาทางโทรศัพท์เกี่ยวกับระเบียบของ สถาบันพระบรมราชชนก ซึ่งผู้ปกครองรับทราบและยินยอมให้นักศึกษาลาออกและเดินทางกลับภูมิลำเนาแล้ว

Advertisement

วิทยาลัยยังได้ประสานงานกับ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ และ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสุรินทร์ ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาที่มีนักศึกษากัมพูชาศึกษาอยู่ในจังหวัดสุรินทร์ เพื่อวางแผนการเดินทางกลับประเทศของนักศึกษา โดยมีการจัดรถส่งนักศึกษาจากวิทยาลัยไปยังมหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ และนักศึกษาหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต ชั้นปีที่ 1 ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมชั้นปีได้จัดกิจกรรมส่งเพื่อนร่วมเดินทางอย่างอบอุ่น ปัจจุบันนักศึกษาได้เดินทางกลับถึงภูมิลำเนาในประเทศกัมพูชาอย่างปลอดภัยแล้ว

วิทยาลัยย้ำว่า ตลอดระยะเวลา 52 วัน ตั้งแต่วันที่ 6 มิถุนายน ถึง 28 กรกฎาคม 2568 วิทยาลัยได้ดูแลนักศึกษาชาวกัมพูชาอย่างเต็มที่ โดยยึดหลักความเอื้ออาทร หลักสิทธิมนุษยชน และคำนึงถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เพื่อสนองพระมหากรุณาธิคุณตามโครงการพระราชทานความช่วยเหลือแก่ราชอาณาจักรกัมพูชาฯ อย่างแท้จริง

Continue Reading
Advertisement