Connect with us

ข่าว

กสทช. และ ตำรวจไซเบอร์ ทลายศูนย์ปฏิบัติการต้องสงสัย ยึด Mini PC เถื่อนกว่า 130 ชิ้น พัวพันแก๊งคอลเซ็นเตอร์

Published

on

สำนักงาน กสทช. (NBTC) ร่วมกับ ตำรวจไซเบอร์ (บช.สอท.) แถลงผลจับกุมผู้ต้องหาชาวจีนและยึดอุปกรณ์ Mini PC ที่ถูกดัดแปลงเป็นเครื่องวิทยุคมนาคมเถื่อนกว่า 130 ชิ้น ในเขตประเวศ กรุงเทพฯ โดยสงสัยว่าใช้เป็นศูนย์ปฏิบัติการของ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หรือ สแกมเมอร์

สำนักข่าวบริคอินโฟ – สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ร่วมกับ ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) หรือ ตำรวจไซเบอร์ แถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาและยึดของกลางรวม 4 รายการ จำนวน 137 ชิ้น หลังเข้าตรวจค้นอาคารที่พักในเขตประเวศ กรุงเทพมหานคร โดยพบ อุปกรณ์เครื่องมินิพีซี (Mini PC) กว่า 130 ชิ้น ซึ่งถูกดัดแปลงติดตั้งเสาอากาศ สายไฟ และสายแลนเชื่อมต่อกันเป็นจำนวนมากอย่างผิดกฎหมาย โดยเชื่อว่าอุปกรณ์เหล่านี้ถูกใช้เป็นศูนย์ปฏิบัติการต้องสงสัยที่อาจเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงประชาชน เช่น แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หรือการหลอกลวงในรูปแบบ สแกมเมอร์ บนแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อปล่อยสัญญาณปลอม ดักจับข้อมูล หรือส่ง SMS/OTP เพื่อเจาะระบบและให้เหยื่อกรอกข้อมูลส่วนตัว

จากการตรวจสอบพบว่า เครื่องวิทยุคมนาคม ดังกล่าวเป็นอุปกรณ์เถื่อนที่ถูกดัดแปลงอย่างผิดกฎหมาย ไม่ผ่านการตรวจรับรองมาตรฐาน และไม่ได้รับอนุญาตจาก สำนักงาน กสทช. การกระทำดังกล่าวถือเป็นการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ในข้อหา มีและใช้เครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต และ ตั้งสถานีวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ รักษาการแทนเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช.) เปิดเผยว่า “สำหรับการแถลงข่าวการจับกุมและการยึดของกลางในครั้งนี้ สำนักงาน กสทช. ให้ความร่วมมือกับตำรวจไซเบอร์ เพื่อสนับสนุนการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่มีรูปแบบใหม่ ๆ เสมอ โดยใช้เครื่องวิทยุคมนาคมประเภทโทรศัพท์และอุปกรณ์ไวไฟต่าง ๆ ในการวางระบบทำงานของ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ เป็นจำนวนมาก และมีการดัดแปลงอุปกรณ์เครื่องวิทยุคมนาคมเพื่อใช้งาน ซึ่งเป็นการทำผิดกฎหมาย”

นายไตรรัตน์ยังได้ฝากข้อเตือนถึงประชาชนให้เพิ่มความระมัดระวังในการสั่งซื้อสินค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยควรเลือกซื้อจากร้านค้าที่ได้มาตรฐาน และตรวจสอบความน่าเชื่อถือของร้านค้าก่อนทุกครั้ง เนื่องจากกลุ่มมิจฉาชีพสามารถปลอมแปลงยอดไลก์ ยอดแชร์ และคอมเมนท์ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือได้ ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบความถูกต้องจากข้อมูลดังกล่าวเพียงด้านเดียว จึงควรดูรายละเอียดอื่น ๆ ของร้านค้าและราคาสินค้าให้รอบคอบก่อนซื้อสินค้า เพื่อป้องกันการถูกหลอกและสูญเสียทรัพย์สินให้กับมิจฉาชีพ

Advertisement
Continue Reading
Advertisement