ข่าว
กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิสหรัฐฯ ขนทหารเฝ้าอาคารรัฐสภา ก่อน โจ ไบเดน สาบานตนเป็น ปธน.

เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ใน กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิของสหรัฐฯ เดินลาดตระเวนพื้นที่อาคารรัฐสภา ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมืองหลวงของสหรัฐฯ ก่อน โจ ไบเดน สาบานตนเป็นประธานธิบดีสหรัฐฯ
จากรายงานเมื่อวันจันทร์ (11 ม.ค.) โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ อนุมัติการประกาศภาวะฉุกเฉินของกรุงวอชิงตัน ดี. ซี. เมืองหลวงของประเทศ โดยมีผลบังคับใช้ระหว่างวันที่ 11-24 ม.ค. 2021 ครอบคลุมวันที่โจ ไบเดน จะทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ ในวันที่ 20 ม.ค.
สำนักงานเลขาธิการฝ่ายสื่อมวลชนประจำทำเนียบขาวแถลงว่า “ประธานาธิบดีโดนัลด์ เจ. ทรัมป์ ประกาศภาวะฉุกเฉินในเขตปกครองพิเศษโคลัมเบีย และสั่งรัฐบาลกลางช่วยสนับสนุนเขตฯ รับมือสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นจากพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดีคนที่ 59 ระหว่างวันที่ 11-24 ม.ค. 2021”
การประกาศภาวะฉุกเฉินมอบอำนาจให้กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิและหน่วยงานจัดการเหตุฉุกเฉินของรัฐบาลกลางประสานงานด้านทรัพยากรกับหน่วยงานของรัฐและท้องถิ่น มุ่งเตรียมความพร้อมรับมือความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นทั้งช่วงก่อนและระหว่างพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของโจ ไบเดน
การประกาศดังกล่าวเป็นการตอบสนองต่อจดหมายที่ส่งถึงทรัมป์เมื่อวันอาทิตย์ (10 ม.ค.) โดยมูเรียล โบว์เซอร์ นายกเทศมนตรีกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ซึ่งประกาศภาวะฉุกเฉินทั่วเมืองเป็นเวลา 15 วัน ไม่นานนักหลังเกิดเหตุกลุ่มผู้ประท้วงที่สนับสนุนทรัมป์บุกรุกอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ ในวันที่ 6 ม.ค.
จดหมายของโบว์เซอร์ระบุว่า “ด้วยเหตุโจมตีอาคารรัฐสภากอปรกับข่าวกรอง บ่งชี้แนวโน้มเกิดเหตุรุนแรงเพิ่มขึ้นในช่วงทำพิธีสาบานตน ฝ่ายบริหารของผมจึงประเมินสถานการณ์อีกครั้งและเตรียมความพร้อมรับมือ รวมถึงขอกำลังสนับสนุนเพิ่มเติมจากกองกำลังพิทักษ์ชาติ (National Guard) ของกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. จนถึงวันที่ 24 ม.ค. นี้”

“ผมพิจารณาแล้วว่าแผนการและทรัพยากรที่วางไว้ก่อนหน้านี้ยังไม่เพียงพอจะสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย ซึ่งเป็นผลโดยตรงจากการกระทำของผู้ก่อการจลาจลเมื่อวันที่ 6 ม.ค.” นายกเทศมนตรีกล่าว
“เหตุการณ์ล่าสุดและการประเมินของหน่วยข่าวกรองชี้ว่าเราต้องเตรียมความพร้อมสำหรับกลุ่มหัวรุนแรงติดอาวุธและมีประสบการณ์จำนวนมากที่จะมาบุกวอชิงตัน ดี. ซี.”มูเรียล โบว์เซอร์ นายกเทศมนตรีกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.

เมื่อวันจันทร์ (11 ม.ค.) โบว์เซอร์ กับราล์ฟ นอร์ แธม ผู้ว่าการรัฐเวอร์จิเนีย และแลร์รี โฮแกน ผู้ว่าการรัฐแมริแลนด์ ได้ออกมากระตุ้นประชาชนอยู่ห่างจากพื้นที่จัดพิธีสาบานตน โดยระบุเหตุผลว่าเพราะ “การจลาจลอย่างรุนแรงในสัปดาห์ที่แล้ว รวมถึงการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ที่ร้ายแรงและยังคงอยู่”
ทั้งนี้ สำนักงานสืบสวนกลาง (FBI) ของสหรัฐฯ เตือนว่าอาจเกิดการประท้วงโดยใช้อาวุธที่อาคารรัฐสภาของทั้ง 50 รัฐท้องถิ่นระหว่างวันที่ 16-20 ม.ค. และที่อาคารรัฐสภาสหรัฐฯ ในวอชิงตัน ระหว่างวันที่ 17-20 ม.ค. นี้
ภาพ : สำนักข่าวซินหัว