Thailand Influencer Awards 2025: Tellscore ชี้ทางรอดครีเอเตอร์ต้องอยู่ร่วมกับ AI และสร้าง Personal Branding

สำนักข่าวบริคอินโฟ – เทลสกอร์ (Tellscore) ประกาศจัดงาน Thailand Influencer Awards 2025 by Tellscore ภายใต้แนวคิด “Creators of Change – ครีเอเตอร์เปลี่ยนโลก พารอด” เพื่อเชิดชูสุดยอด อินฟลูเอนเซอร์ (Influencer), ครีเอเตอร์ (Creator) และแคมเปญสร้างสรรค์แห่งปี พร้อมทั้งเน้นย้ำถึงแนวโน้มที่ ครีเอเตอร์ ต้องปรับตัวอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะการ “อยู่ร่วมกับ AI” และการสร้าง “Personal Branding” ที่แข็งแกร่ง เพื่อรับมือกับตลาดที่มีมูลค่าการเติบโตสูงและมีความผันผวน ทั้งยังมุ่งยกระดับมาตรฐาน อินฟลูเอนเซอร์ไทย สู่เวทีระดับภูมิภาค โดยมีพันธมิตรหลักอย่าง ไทยประกันชีวิต (Thai Life Insurance) และ ไอคอนสยาม (ICONSIAM) ร่วมสนับสนุน

มูลค่าตลาด ครีเอเตอร์ และ อินฟลูเอนเซอร์ ทั่วโลกยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ข้อมูลจาก Statista.com ชี้ว่าตลาดมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 20−30% ต่อปี โดยคาดการณ์มูลค่าในปี 2568 จะพุ่งสูงถึง 32,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในบริบทดังกล่าว นางสาวสุวิตา จรัญวงศ์ ประธานกรรมการบริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท เทลสกอร์ จำกัด มองว่าแนวคิด “Creators of Change” สะท้อนถึงบทบาทของ ครีเอเตอร์ ในฐานะพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม ที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์สร้างผลกระทบเชิงบวก ไม่ใช่แค่เพียงการผลิตคอนเทนต์เพื่อความบันเทิงเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งความรู้และแรงบันดาลใจ

นางสาวสุวิตาได้กล่าวถึงเทรนด์สำคัญในการรับมือกับ AI ว่า การสร้าง Branding via Creators ไม่ได้มีแค่การสร้างความแตกต่าง แต่ต้อง “บอกเล่าอย่างมี Human Connection” ว่าแบรนด์และ ครีเอเตอร์ สร้างคุณค่าอะไรให้กับผู้บริโภค พร้อมกับการผสาน กลยุทธ์ O2O Marketing (Online-to-Offline) ผ่านกิจกรรมจริง เพื่อให้ แบรนด์ดิ้ง แข็งแรงและเชื่อมโยงกับผู้ติดตามได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น สำหรับประเด็น AI เธอชี้ว่าทางรอดของ ครีเอเตอร์ คือการ “อยู่ร่วมกับเอไอ” อย่างสร้างสรรค์ เช่น การสร้าง AI Avatar เพื่อทำคอนเทนต์สั้น ๆ หรือใช้ AI เป็นแรงเสริมในการสร้างแบรนด์ แต่สิ่งสำคัญที่ต้องทำคือการสื่อสารอย่างโปร่งใส และ ระบุชัดเจนว่าเป็นคอนเทนต์จาก AI เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือในสายตาแบรนด์และผู้ติดตาม

“ตลาดนี้ยังโตแน่นอน แม้เศรษฐกิจโลกจะผันผวน แต่การเติบโตจะไม่โรยด้วยกลีบกุหลาบ ครีเอเตอร์ และแบรนด์ต้องปรับตัวอย่างยิ่งยวด ต้องมองทั้ง Geopolitics ระดับโลกและโอกาสในภูมิภาค โดยเฉพาะอาเซียน และควรเริ่มสร้างคอนเทนต์ภาษาอังกฤษหรือจีนเพื่อเจาะตลาดต่างประเทศ ใครปรับตัวได้คือผู้ที่จะอยู่รอด” นางสาวสุวิตากล่าว พร้อมเสริมว่ากลุ่ม ครีเอเตอร์ LGBTQ+ ในบริบท Rainbow Economy ยังเป็นอีกโอกาสใหม่ที่น่าสนใจ เนื่องจากแบรนด์จะได้ประโยชน์เชิงธุรกิจและสร้าง Emotional Bonding กับผู้บริโภค Gen Z และ Millennials ที่ให้ความสำคัญกับ Trust, Authenticity และ Inclusion

ในด้านภูมิทัศน์แพลตฟอร์ม นางสาวสุวิตาระบุว่า TikTok ยังคงมาแรงต่อเนื่อง ขณะที่ YouTube พลิกเกมด้วย Long-form Content และรุกตลาด Social Commerce ร่วมกับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ส่วน Instagram ยังเหมาะกับคอนเทนต์ Trend Setter โดยเฉพาะฟอร์แมต Story ที่สร้าง Engagement ได้สูง และแพลตฟอร์มที่น่าจับตาคือ Lemon8 ที่ถูกใจ Gen Z และ XiaoHongShu ที่กำลังเติบโตในไทยและอาเซียน

ด้านความร่วมมือ บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมเปิดตัวแคมเปญ “ทำโซเชียลให้มีความหมาย” เพื่อเชิญชวนผู้คนสร้างและแบ่งปันเรื่องราวดี ๆ เพื่อให้โซเชียลมีเดียเป็นพื้นที่แห่งแรงบันดาลใจ โดย นางสาวฐิติมา เลี้ยงพาณิชย์ ผู้อำนวยการฝ่าย กลุ่มสื่อสารองค์กร บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การ Co-Creation กับ Creator หลากหลายกลุ่ม ให้เล่าเรื่องในแบบของตัวเอง จะทำให้เกิด Content คุณภาพในหลายมิติ และเข้าถึงกลุ่มคนในวงกว้างยิ่งขึ้น สอดคล้องกับความตั้งใจของไทยประกันชีวิตที่อยากให้ทุกคนได้สัมผัสคอนเทนต์ที่สร้างสรรค์และมีความหมายจริง ๆ” และมีการมอบรางวัลพิเศษ ‘Best Meaningful Content by Thai Life Insurance’ จำนวน 5 รางวัล เพื่อเชิดชู ครีเอเตอร์ ที่ผลิตคอนเทนต์ที่มีพลังและคุณค่าต่อสังคม

ในฐานะสถานที่จัดงาน นางสุมา วงษ์พันธุ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด กล่าวว่า ไอคอนสยาม ให้ความสำคัญกับ ครีเอเตอร์ มาโดยตลอด และการสนับสนุนงานนี้เป็นการส่งเสริมบทบาทของ ครีเอเตอร์ ในการขับเคลื่อน เศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ ในฐานะ Soft Power ของประเทศ อีกทั้งช่วยต่อยอดให้ ไอคอนสยาม เชื่อมต่อกับผู้บริโภคได้ลึกและกว้างขึ้นผ่านคอนเทนต์ที่ทรงพลัง

ขณะที่ ดร.วาริน รัชนานุสรณ์ รักษาการรองผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) ได้เน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของ ครีเอเตอร์ ในการถ่ายทอดความรู้ ส่งเสริมธุรกิจ และสร้างแรงกระเพื่อมต่อสังคม โดยภาครัฐมองเห็นศักยภาพในการก้าวสู่การเป็น ผู้ประกอบการดิจิทัลรุ่นใหม่ ที่สร้างรายได้และขับเคลื่อน เศรษฐกิจดิจิทัล ของประเทศอย่างแท้จริง ทั้งยังช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SMEs และแบรนด์ท้องถิ่นผ่าน Social Commerce และต่อยอด การท่องเที่ยว ศิลปะบันเทิง และ Soft Power ไทย สู่ผู้ชมทั่วโลก