GAVIN:D (กวินท์ ดูวาล) เปิดตัวมิวสิคซีรีส์ ‘Slayer of Tears’ เสิร์ฟ 3 เพลงเศร้า 3 มุมมองคนอกหัก

สำนักข่าวบริคอินโฟ – GAVIN:D หรือ กวินท์ ดูวาล (Gavin Duval) ศิลปินและโปรดิวเซอร์เพลงป๊อป เจ้าของฉายา ‘ฆาตกรเพลงเศร้า’ จากผลงาน 6 ซิงเกิลก่อนหน้า กลับมาพร้อมผลงานเพลงชุดใหม่ในรูปแบบ MUSIC SERIES ที่มีชื่อว่า ‘Slayer of Tears’ ซึ่งประกอบด้วย 3 เพลง 3 ความรู้สึก เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวและมุมมองของคนอกหัก 3 รูปแบบ โดยเนื้อหาทั้งสามเพลงมีความเชื่อมโยงกัน พร้อมทั้งได้โปรดิวเซอร์ฝีมือดีหลายคนมาร่วมงาน รวมถึงมีมิวสิควิดีโอที่เล่าผ่านเรื่องราวของความรักสามเส้าที่ทุกตัวละครต่างต้องเจ็บปวด

มิวสิคซีรีส์ชุดนี้เริ่มต้นด้วยเพลง “ปล่อยฉันไปสักที (Disappear)” ซึ่งเป็นเพลงแทนใจคนที่อยู่ในความสัมพันธ์แบบลับ ๆ ที่รู้สึกถูกเมินเฉยและไร้ตัวตน จนต้องขอร้องให้อีกฝ่ายปล่อยตนไป เพลงนี้ยังคงความเป็น เพลงป๊อป แต่ผสานกลิ่นอาย คันทรี่ร็อค โดยได้ แหลม สมพล มารับหน้าที่โปรดิวเซอร์ ทำให้เพลงมีบรรยากาศเหมือนอยู่ในบาร์ยุค 80’s ต่อมาคือเพลง “ก่อนฉันจะหายไป (Drifting)” ซึ่งเป็น เพลงป๊อปเศร้า ที่เล่าเรื่องของการจำใจบอกลาทั้งที่ยังรัก เพราะเชื่อว่าการยอมปล่อยให้คนที่รักไปพบกับความสุขที่ดีกว่าคือทางออก เพลงนี้ได้ กัน MEAN ศิลปินมากความสามารถมาโปรดิวซ์ ทำให้เพลงนี้เข้ากับสไตล์ของ GAVIN:D และคาดว่าจะเป็นเพลงบอกเลิกที่เรียกน้ำตาคนฟังได้

ปิดท้ายด้วยเพลง “จบแบบนี้ก็ดี (Dusk)” ที่ถ่ายทอดเรื่องราวของคนปากหนักที่เพิ่งรู้สึกตัวว่ารักอีกฝ่ายเมื่อสายเกินไป และต้องยอมรับความจริงเมื่อวันนี้เธอได้เลือกคนอื่นไปแล้ว ความพิเศษของเพลงนี้คือการได้ มีนตรา อินทิรา ศิลปินลูกทุ่งมาร่วมฟีเจอริ่ง (Featuring) เพื่อสื่อสารความรู้สึกของคนที่เฝ้ารอให้อีกฝ่ายสารภาพรักมาโดยตลอดอย่างสวยงาม โดยมี รัฐวิชญ์ อนันต์พรสิริ เป็นโปรดิวเซอร์ ที่ช่วยผสมผสาน ดนตรีป็อป และ ลูกทุ่ง ได้อย่างลงตัว พร้อมทั้งมีการนำ เครื่องดนตรีพื้นบ้านของไทย มาใช้ในเพลงได้อย่างกลมกล่อม

สำหรับมิวสิควิดีโอของมิวสิคซีรีส์ ‘Slayer of Tears’ ทั้ง 3 เพลง ได้เล่าเรื่องราวความรักของ 3 ตัวละครในความสัมพันธ์เดียว ซึ่งหนึ่งคนเป็นผู้ที่ต้องรอเศษความรักและเป็นคนในความลับตลอดมา ส่วน ‘เธอ’ ก็รู้สึกผิดที่ทำให้ความรักครั้งนี้ยุ่งเหยิง และ ‘อีกคน’ ที่แม้จะถูกเลือกแต่กลับเคยทำร้ายจิตใจ ‘เธอ’ ซ้ำ ๆ จนความสัมพันธ์ไม่สามารถดำเนินต่อไปได้อีก โดย มิวสิควิดีโอ ทั้งสามเพลงนี้เลือกใช้เทคนิคการถ่ายทำแบบ Long Take เพื่อเล่าเรื่องราวและอารมณ์ความรู้สึกของตัวละครแต่ละตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทำให้ผู้ชมสามารถเก็บเกี่ยวอารมณ์ของทั้ง 3 คนในทุกมิติ