ข่าว
โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ จัดกิจกรรม “วันหัวใจโลก 2568” ชูเทคโนโลยี ‘AF Virtual Ward’ ดูแลผู้ป่วยหัวใจเต้นผิดจังหวะทางไกล มุ่งยกระดับการรักษาโรคหัวใจครบวงจร
โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ใน ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ได้จัดกิจกรรมรณรงค์เนื่องใน วันหัวใจโลก ประจำปี 2568 ภายใต้แนวคิด “อย่ารอให้ใจพัง ฟังเสียงหัวใจก่อนจะสาย” เพื่อตอกย้ำความสำคัญของการป้องกันและรักษาโรคหัวใจและหลอดเลือด ซึ่งยังคงเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของโลก โดยมีการบูรณาการทีมแพทย์และบุคลากรผู้เชี่ยวชาญ 8 ทีมจาก ศูนย์หัวใจและหลอดเลือด มาให้ความรู้และสร้างความตระหนัก พร้อมเปิดตัวบริการใหม่ AF Virtual Ward ซึ่งเป็นระบบการดูแลผู้ป่วยภาวะ หัวใจเต้นผิดจังหวะ ทางไกล เพื่อให้แพทย์ติดตามอาการได้อย่างใกล้ชิดและเพิ่มคุณภาพชีวิตผู้ป่วย แม้ผู้ป่วยจะอยู่ที่บ้าน
กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อเน้นย้ำสารรณรงค์ของสมาพันธ์หัวใจโลก คือ YES USE HEART FOR ACTION เนื่องจากข้อมูลระบุว่าโรคหัวใจและหลอดเลือด (CVD) คร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 20.5 ล้านคนต่อปี และในประเทศไทย ปี 2568 มีผู้ป่วยสะสมมากถึง 2.6 แสนคน แต่สามารถป้องกันการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรได้ถึง 80% หากได้รับการคัดกรองและเข้าถึงการรักษาที่มีคุณภาพ โดยได้รับเกียรติจาก รศ.นพ.สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ รักษาการผู้อำนวยการ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ เป็นประธานเปิดงาน พร้อมนำทีมแพทย์กล่าวถึงแนวทางการดูแลหัวใจครบวงจร 8 ทีม
ศูนย์หัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ดำเนินงานตามพระปณิธานของ ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จเจ้าฟ้า ฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี มุ่งพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมการรักษาโรคหัวใจ โดยใช้ทีมผู้เชี่ยวชาญ 8 ทีม อาทิ ทีมหัตถการสวนหลอดเลือดหัวใจ ที่ให้บริการรักษาผ่านสายสวน เช่น การเปลี่ยนลิ้นหัวใจเอออร์ติกตีบผ่านสายสวน TAVR และการรักษาภาวะลิ้นหัวใจไมทรัลรั่วด้วย MitraClip
ซึ่ง ดร.นพ.วิโรจน์ เมืองศิลปศาสตร์ ผู้อำนวยการศูนย์หัวใจและหลอดเลือด กล่าวว่า “การรักษาที่ดีเริ่มจากการวินิจฉัยที่แม่นยำ หน่วยหัตถการของเรา… การรักษาด้วยวิธีผ่านสายสวนช่วยลดภาระการผ่าตัด ลดระยะเวลาพักฟื้น และกลับสู่ชีวิตประจำวันได้เร็วขึ้น ขณะเดียวกันเรามีทีมฉุกเฉิน 24 ชั่วโมงรองรับภาวะหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน เพื่อให้การรักษารวดเร็ว ปลอดภัย และติดตามผลอย่างต่อเนื่อง”
นอกจากนี้ ยังมี ทีมรักษาภาวะหัวใจล้มเหลว ที่ใช้แนวทางมาตรฐานสากล เช่น การปรับยา และการฝังเครื่องกระตุ้นหัวใจ หรือเครื่องกระตุกหัวใจอัตโนมัติ (ICD) รวมถึงบริการใหม่ AF Virtual Ward ที่ นพ.โชคอนันต์ ไทยถิรโรจน์ แพทย์เฉพาะทาง กล่าวถึงว่า “โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ เป็นโรคที่ต้องติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง… แต่ด้วย AF Virtual Ward ผู้ป่วยสามารถอยู่บ้านได้อย่างปลอดภัย โดยมีการเชื่อมต่อข้อมูลสุขภาพกับทีมแพทย์ตลอดเวลา… ทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน ลดค่าใช้จ่าย และลดระยะเวลาในการมาโรงพยาบาล… โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ยังเป็นแห่งแรกในประเทศไทย ที่นำ AF Virtual Ward มาประยุกต์ใช้จริง”
ส่วน ทีมรักษาภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ ก็เน้นการวินิจฉัยด้วย Electrophysiology study (EPS) และรักษาด้วยการ จี้ไฟฟ้าหัวใจ ซึ่ง นพ.สนัฐชา อาภาคัพภะกุล แพทย์เฉพาะทาง ระบุว่า มีอัตราการหายขาดสูงถึง 80–90% ความครอบคลุมการรักษา
ทีมรักษาภาวะหัวใจในผู้ป่วยมะเร็ง ที่ทำงานร่วมกับทีมมะเร็งเพื่อลดผลกระทบต่อหัวใจจากยาและการรักษา โดย รศ.พญ.ชลธิชา ตั้งกิจ แพทย์เฉพาะทางด้านอายุรศาสตร์โรคหัวใจ กล่าวว่า “การคัดกรองหัวใจก่อนการให้ยารักษามะเร็งจึงเป็นกุญแจสำคัญ เราจะประเมินการทำงานของหัวใจ ตรวจคลื่นไฟฟ้าและคลื่นเสียงสะท้อนหัวใจก่อน ระหว่างและหลังการรักษาเพื่อจับสัญญาณความผิดปกติแต่เนิ่น ๆ” ขณะที่ พญ.ชญานี สำแดงปั้น แพทย์เฉพาะทางด้านอายุรศาสตร์มะเร็งวิทยา กล่าวเสริมว่า จะมีการปรับแผนการรักษาและให้การดูแลหัวใจเชิงป้องกันและฟื้นฟูไปพร้อมกัน นอกจากนี้ยังมี ทีมรักษาหัวใจในเด็ก ดูแลผู้ป่วยโรคหัวใจแต่กำเนิด หรือที่เกิดภายหลัง และ ทีมผ่าตัดรักษาหัวใจ ที่เน้นการผ่าตัดหัวใจแบบแผลเล็ก และการผ่าตัดทำทางเบี่ยงหลอดเลือดหัวใจ เพื่อให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็ว นพ.สุขสันต์ กนกศิลป์ แพทย์เฉพาะทางด้านศัลยศาสตร์หัวใจและทรวงอก ระบุว่า การใช้เทคโนโลยีช่วยลดการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อ ทำให้ผู้ป่วยเจ็บน้อย ฟื้นตัวเร็ว และลดระยะเวลาพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ในด้านการวินิจฉัยและการฟื้นฟู ทีมตรวจสมรรถภาพหัวใจ ให้บริการด้วยเทคโนโลยีครบวงจร เช่น Echocardiography, CT/MRI หัวใจ และ CPET โดย นพ.ปรัชญา ระหว่างบ้าน แพทย์เฉพาะทาง ได้ฝากข้อคิดสำคัญว่า “หัวใจของทุกท่านมีเพียงดวงเดียว ดูแลด้วยการออกกำลังกาย พักผ่อนเพียงพอ กินอาหารที่ดี ลดความเครียด และตรวจสุขภาพหัวใจอย่างสม่ำเสมอ” ปิดท้ายด้วย ทีมฟื้นฟูสมรรถภาพหัวใจ ปอด และหลอดเลือด ที่ดูแลด้วยโปรแกรมออกกำลังกาย โภชนาการ และการสนับสนุนด้านจิตใจแบบเฉพาะบุคคล เพื่อคืนความแข็งแรงและคุณภาพชีวิตให้ผู้ป่วย
ภายในงานยังมีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์จากผู้ป่วยที่ได้รับการรักษา TAVR และการร่วมพูดคุยสร้างแรงบันดาลใจกับ สมิธ ภาสวิชญ์ บูรณนัติ นักแสดง และ ดีเจเอกกี้ เอกชัย เอื้อสังคมเศรษฐ ร่วมดำเนินรายการ ซึ่งศูนย์หัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ยังคงมุ่งมั่นยกระดับการรักษาโรคหัวใจ ไทยสู่มาตรฐานสากล และรณรงค์ให้คนไทยมีสุขภาพหัวใจที่แข็งแรงอย่างยั่งยืน พร้อมเชิญชวนร่วมบริจาคสมทบทุนมูลนิธิศรีสวางควัฒนฯ เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโรคลิ้นหัวใจ ผ่านสายสวน
