ข่าว
มะเร็งเต้านม รักษาได้หากตรวจเร็ว! แพทย์ รพ.เวชธานี ชี้อาการสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ผู้ชายก็เป็นได้ แม้พบได้น้อย

สำนักข่าวบริคอินโฟ – โรคมะเร็งเต้านม (Breast Cancer) ยังคงเป็นมะเร็งที่พบบ่อยและเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ในผู้หญิงทั่วโลก อย่างไรก็ตาม แพทย์หญิง วีรวรรณ ฉัตรตรัสตรัย รังสีแพทย์ชำนาญการด้านรังสีวินิจฉัยขั้นสูง ด้านเต้านมและรังสีร่วมรักษา โรงพยาบาลเวชธานี (Vejthani Hospital) ได้ย้ำว่าหากตรวจพบโรคได้ตั้งแต่ระยะแรก โอกาสในการรักษาหายขาดจะสูงมาก โดยผลวิจัยระบุว่าผู้ป่วยที่ตรวจพบในระยะที่ 0–1 มีโอกาสรอดชีวิตมากกว่า 90% ซึ่งอาการสำคัญที่ผู้หญิงไม่ควรมองข้าม ได้แก่ การคลำพบก้อนผิดปกติที่เต้านม หัวนมบุ๋ม หรือมี น้ำไหลออก รวมถึงผิวหนังเต้านมที่มีลักษณะผิดปกติ เช่น ผิวบุ๋ม หรือคล้าย เปลือกส้ม
แพทย์หญิง วีรวรรณ ได้ให้ข้อมูลว่า แม้ว่าจะมีปัจจัยเสี่ยงของ มะเร็งเต้านม ที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น อายุที่มากขึ้น, ประวัติครอบครัว โดยเฉพาะญาติสายตรง, พันธุกรรม เช่น ยีน BRCA1 และ BRCA2, การมีประจำเดือนเร็วและหมดประจำเดือนช้า, หรือภาวะ เนื้อเต้านมหนาแน่น (Dense Breast) แต่ก็ยังมีปัจจัยที่สามารถควบคุมได้เพื่อช่วยลดความเสี่ยงลง อาทิ การควบคุม น้ำหนักเกินหรือภาวะอ้วน, การหลีกเลี่ยง การดื่มแอลกอฮอล์ เป็นประจำ, การไม่ใช้ ฮอร์โมน ต่อเนื่องเป็นเวลานาน และการหมั่น ออกกำลังกาย อย่างสม่ำเสมอ
เพื่อเพิ่มโอกาสในการตรวจพบโรคตั้งแต่ระยะเริ่มต้น แพทย์หญิง วีรวรรณ แนะนำว่า ผู้หญิงทุกคนที่อายุ 40 ปีขึ้นไป ควรเข้ารับการตรวจคัดกรองด้วย แมมโมแกรม (Mammogram) ควบคู่กับ อัลตราซาวนด์เต้านม (Breast Ultrasound) เป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะกลุ่มที่มีประวัติครอบครัวหรือพันธุกรรมที่มีความเสี่ยงสูง ในการตรวจคัดกรอง โรงพยาบาลเวชธานี ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น แมมโมแกรม 3 มิติ (3D Mammogram) ซึ่งใช้ปริมาณรังสีต่ำ ถ่ายภาพได้ละเอียดในเวลาสั้น ๆ และช่วยแยกก้อนเนื้อออกจากเนื้อเต้านมที่ทับซ้อนกันได้แม่นยำขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้หญิงที่มี เนื้อเต้านมหนาแน่น
นอกจากนี้ การใช้ อัลตราซาวนด์เต้านม (Breast Ultrasound) ยังช่วยในการแยกแยะระหว่างก้อนเนื้อกับถุงน้ำ ประเมินขนาด ขอบเขต และลักษณะของก้อนเนื้อ อีกทั้งยังใช้ประกอบการ เจาะชิ้นเนื้อ (Biopsy) ได้หากพบความผิดปกติ แม้ว่าการตรวจคัดกรองเหล่านี้จะไม่ใช่วิธีป้องกัน มะเร็งเต้านม ได้ 100% แต่เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ตรวจพบความผิดปกติได้ในระยะเริ่มแรกก่อนที่ผู้ป่วยจะมีอาการ ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการรักษาได้ทันท่วงทีและช่วยเพิ่มอัตราการรอดชีวิตอย่างมีนัยสำคัญ