Connect with us

บทความ

สรุปครบจบทุกเรื่องที่ต้องรู้เกี่ยวกับการรีไฟแนนซ์บ้าน

Published

on

การรีไฟแนนซ์บ้านช่วยลดภาระผ่อนดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องได้ เข้าใจความหมาย เหตุผล ขั้นตอน และข้อควรพิจารณาก่อนตัดสินใจรีไฟแนนซ์บ้านเพื่อวางแผนการเงินอย่างรอบคอบ

การมีบ้านเป็นของตัวเองถือเป็นความฝันของใครหลายคน แต่ภาระผ่อนบ้านก็อาจเป็นเรื่องหนักหนาสาหัสสำหรับบางคนเช่นกัน หนึ่งในทางออกที่ได้รับความนิยมคือการ “รีไฟแนนซ์บ้าน” ซึ่งอาจช่วยลดภาระดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ได้ แต่ก่อนตัดสินใจรีไฟแนนซ์ เรามาทำความเข้าใจเรื่องนี้ให้ละเอียดกันก่อน

รีไฟแนนซ์บ้านคืออะไร ?

การรีไฟแนนซ์บ้าน คือ การยื่นขอสินเชื่อใหม่จากธนาคารหรือสถาบันการเงินแห่งใหม่ เพื่อนำเงินก้อนนั้นมาชำระหนี้สินเชื่อบ้านเดิมที่มีอยู่ โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อลดดอกเบี้ย ลดค่างวด หรือเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการผ่อนชำระให้เหมาะสมกับสถานการณ์ทางการเงินในปัจจุบัน

ทำไมต้องรีไฟแนนซ์บ้าน ?

เหตุผลหลัก ๆ ที่คนส่วนใหญ่เลือกรีไฟแนนซ์บ้าน มีดังนี้

  • ลดดอกเบี้ย: อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ หากอัตราดอกเบี้ยในตลาดลดลง การรีไฟแนนซ์บ้านไปธนาคารที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่า ก็จะช่วยลดภาระดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือนได้
  • ลดค่างวด: เมื่อดอกเบี้ยลดลง ค่างวดผ่อนบ้านก็จะลดลงตามไปด้วย ทำให้มีเงินเหลือใช้จ่ายในส่วนอื่นมากขึ้น
  • ยืดระยะเวลาผ่อน: หากต้องการลดค่างวดให้เหลือน้อยที่สุด การรีไฟแนนซ์เพื่อยืดระยะเวลาผ่อน ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง แต่สิ่งที่ต้องแลกมาคือภาระดอกเบี้ยโดยรวมที่จะเพิ่มขึ้น
  • รวมหนี้: หากมีหนี้สินอื่น ๆ เช่น หนี้บัตรเครดิต ก็สามารถรีไฟแนนซ์และขอวงเงินเพิ่ม เพื่อนำเงินส่วนนั้นไปชำระหนี้อื่น ๆ ได้ แต่ต้องระวังภาระผ่อนบ้านที่จะเพิ่มขึ้นด้วย
  • เปลี่ยนแปลงเงื่อนไข: บางคนอาจต้องการเปลี่ยนประเภทดอกเบี้ยจากดอกเบี้ยลอยตัวเป็นดอกเบี้ยคงที่ หรือต้องการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขอื่น ๆ ในสัญญา ก็สามารถทำได้ผ่านการรีไฟแนนซ์

ขั้นตอนการรีไฟแนนซ์บ้าน

  1. ศึกษาข้อมูล: เปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ย เงื่อนไข และค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ของแต่ละธนาคารหรือสถาบันการเงิน
  2. เตรียมเอกสาร: เตรียมเอกสารที่จำเป็น เช่น สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาโฉนดที่ดิน สลิปเงินเดือน และเอกสารแสดงรายได้อื่น ๆ
  3. ยื่นขอสินเชื่อ: ยื่นขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์กับธนาคารหรือสถาบันการเงินที่เลือก
  4. ประเมินหลักทรัพย์: ธนาคารจะส่งเจ้าหน้าที่มาประเมินราคาบ้าน เพื่อใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน
  5. อนุมัติสินเชื่อ: หากผ่านการอนุมัติ ธนาคารจะแจ้งผลและนัดทำสัญญา
  6. จดจำนอง: ทำสัญญาจดจำนองที่สำนักงานที่ดิน
  7. ชำระหนี้เดิม: ธนาคารใหม่จะนำเงินไปชำระหนี้สินเชื่อบ้านเดิม
  8. เริ่มผ่อนชำระ: เริ่มผ่อนชำระกับธนาคารใหม่ตามเงื่อนไขที่ตกลง

ข้อควรพิจารณาก่อนรีไฟแนนซ์บ้าน

  • ค่าใช้จ่าย: การรีไฟแนนซ์มีค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เช่น ค่าธรรมเนียมการประเมินหลักทรัพย์ ค่าธรรมเนียมการจดจำนอง ค่าอากรแสตมป์ และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ควรคำนวณให้ดีว่าคุ้มค่าหรือไม่
  • ระยะเวลา: กระบวนการรีไฟแนนซ์อาจใช้เวลานาน ควรวางแผนล่วงหน้า
  • เงื่อนไข: อ่านเงื่อนไขสัญญาให้ละเอียดก่อนตัดสินใจ
  • ภาระหนี้: พิจารณาภาระหนี้สินโดยรวม และความสามารถในการผ่อนชำระ

การรีไฟแนนซ์บ้านเป็นเครื่องมือทางการเงินที่ช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายและปรับปรุงเงื่อนไขการผ่อนชำระได้ แต่ต้องศึกษาข้อมูลและวางแผนอย่างรอบคอบ เพื่อให้การรีไฟแนนซ์เป็นประโยชน์ต่อสถานการณ์ทางการเงินอย่างแท้จริง หากสนใจเรื่องรีไฟแนนซ์บ้าน ควรศึกษาข้อมูลจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อประกอบการตัดสินใจ

Advertisement