Connect with us

ข่าว

นนทบุรี สาวใหญ่วอนขอความช่วยเหลือวัดราษฎร์ประคองธรรมหลังสามีป่วยติดเตียงเป็นโรคผิวหนังขั้นรุนแรงต้องนำโทรศัพท์ไปจำนำซื้อแพมเพิส

Published

on

เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2567 นางมลฤดี อุดมธรรม อายุ 60 ปี ภรรยาผู้ป่วยติดเตียงแพ้ยานอนเป็นดักแด้โทรเข้ามาของความช่วยเหลือจากทางวัดราษฎร์ประคองธรรม ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ว่าครอบครัวของตนยากจนแถมสามีที่เป็นเสาหลักของครอบครัวป่วยและแพ้ยานอนติดเตียงหมดหนทางไป

ต่อมาผู้สื่อข่าว เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 161/1 ซ.มั่นนะโม ถ.บางแค เขตบางแค แขวงบางแค กรุงเทพมหานคร พร้อมกับนายไพรัช สุดธูป ไวยาวัจกรวัดราษฎร์ประคองธรรม พร้อมนำถุงยังชีพข้าวสารอาหารแห้งนมแพมเพิสพร้อมเงินสดจำนวนหนึ่งเข้ามอบให้ใน เบื้องต้น ซึ่ง พบนายพินิจ เกิดศรีพันธ์ อายุ72 ปีซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียงช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ซึ่งตามร่างการผิวแห้งผิวตึงแข็งผิวหนังลอกเปลือกตาแดงน้ำตาไหลบอกว่าหากตัวเองหายจากโรคที่เป็นแล้วอยากจะบวชพระ

นางมลฤดี อุดมธรรม อายุ60 ปี ซึ่งเป็นภรรยา เล่าว่าที่ผ่านมาสามีของตนเป็นโรคหัวใจหมอนลองกระดูกทับเส้นประสาทเข้ารับการผ่าตัดมาแล้ว 4 ครั้งต่อมาเข้ารับการผ่าตัดในช่องท้องเนื่องจากใส้ตัน และได้ไปหาหมอตลอดตามที่หมอนัดและช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาสามีของตนรับยาจาก รพ.มาทานตามที่หมอสั่งสามีของตนมีอาการผิวหนังแห้งเปลือกตาแดงน้ำตาไหลตลอดเวลาเพราะอาการแพ้ยานอนเป็นดักแด้ติดเตียงช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ซึ่งตนก็ไม่รู้จะทำยังไงต้องเลี้ยงหลานอีก 3 คนส่วนตนก็ขายของเงินไม่พอใช้จ่ายบ้านก็ต้องเช่าไหนจะค่าบ้านค่าไฟค่าใช้จ่ายกับสามีเวลาไปหาหมอไหนจะชื้อแพมเพิสให้สามีตนสิ้นทางไปจริงๆจึงได้โทรเข้ามาขอความช่วยเหลือจากทางวัดราษฎร์ประคองธรรมให้เข้าช่วยเหลือง

นายไพรัช สุดธูป ไวยาวัจกรวัดราษฎร์ประคองธรรม กล่าวว่า ตอนแรกได้รับแจ้งทางโทรศัพท์ว่าคุณลุงมีอาการพุพอง ตามกล้ามเนื้อฉีกขาดทุกอย่างตามตัวตึงหมด พวกเราก็นึกว่าเป็นผู้ป่วยปกติ แต่ด้วยควาทที่หลวงพ่อได้สั่งไว้ว่าใครเดือดร้อนพอช่วยได้ให้ไปช่วย เราจึงได้จัดส่งทีมงานไปช่วย พอไปถึงตกใจ ที่เห็นตาของลุงเป็นวงสีแดงหมด ตามเนื้อตัวเต็มไปด้วยการลอกของผิวหนัง จากอาการที่เป็นอยู่ตนเชื่อว่าลุงเขาเจ็บมากและยังกระพิบตามไม่ได้อีก ซึ่งเวลานอนลุงก็นอนลืมตาตลอดเวลา เป็นภาพที่เรามองแล้วน่าสงสารจับใจ เบื้องต้นเขามีปัญหาเรื่องเงินที่จะไปซื้อแพมเพิสเพราะในหนึ่งวันใช้ประมาน 10 ชิ้น และถุงหนึ่งราคาประมาน 180 บาท ซึ่งเงินเขาไม่มีเลย แม้กระทั่งโทรศัพท์เครื่องสุดท้ายเป็นของมีค่าที่สุดในชีวิตเขาแล้ว เขาก็เอาไปจำนำ 1,000 บาท เพื่อเอาเงินมาซื้อแพมเพิสใช้ได้ 4-5 วัน ใช้ไปก็หมดวันนี้เขาโทรหาเรา เราก็จะช่วยเหลือในทุกๆเรือน แพมเพิสมางเราทุกส่งไปให้ในแต่ละเดือนจนกว่าจะหาย

Advertisement
Continue Reading
Advertisement