Acer เปิดตัวแล็ปท็อป TravelMate X14 AI และโปรเจกเตอร์ตระกูล Vero เน้นประสิทธิภาพและรักษ์โลก

สำนักข่าวบริคอินโฟ – เอเซอร์ (Acer) เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่งาน IFA 2025 ณ กรุงเบอร์ลิน โดยมุ่งเน้นกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) และการทำงานแบบ Work from Anywhere ด้วยแล็ปท็อป Acer TravelMate X14 AI ซึ่งเป็น Copilot+ PC และโปรเจกเตอร์ Acer Vero รุ่นใหม่ 3 รุ่น ได้แก่ Vero XL2320p, Vero XL2521 และ Vero SL2520n ที่โดดเด่นด้านการประหยัดพลังงาน

TravelMate X14 AI เป็นแล็ปท็อปที่ออกแบบมาเพื่อความคล่องตัวและประสิทธิภาพสูง ขับเคลื่อนด้วยระบบประมวลผล Intel® Core™ Ultra Processors (Series 2) ที่ให้สมรรถนะการประมวลผล AI สูงสุด 115 TOPS พร้อมรองรับแรมสูงสุด 32GB และ SSD 1TB ทำให้สามารถทำงานแบบมัลติทาสก์ได้อย่างลื่นไหล ตัวเครื่องมีน้ำหนักเพียง 1.27 กิโลกรัม และบาง 15.9 มม. พร้อมความทนทานตามมาตรฐาน MIL-STD 810H หน้าจอขนาด 14 นิ้ว ความละเอียด WUXGA มีตัวเลือกแบบ OLED ที่ให้ภาพคมชัดและลดการปล่อยแสงสีฟ้าเพื่อถนอมสายตา นอกจากนี้ยังมาพร้อมฟีเจอร์ AI ที่หลากหลาย เช่น Recall, Click to Do และ Co-creator ใน Microsoft Paint

ด้านความปลอดภัย TravelMate X14 AI มาพร้อมฟีเจอร์ Acer UserSensing™ 2.0 ที่สามารถตรวจจับผู้ใช้งานเพื่อปรับลดความสว่างหน้าจอหรือล็อกเครื่องอัตโนมัติเมื่อผู้ใช้ลุกออกไป ส่วนการเชื่อมต่อรองรับ Wi-Fi 7, Bluetooth 5.4, Thunderbolt™ 4 และพอร์ตเชื่อมต่ออื่น ๆ ครบครัน

เจมส์ ลิน ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายโน้ตบุ๊ก บริษัท เอเซอร์ อิงค์ กล่าวว่า “เมื่อ AI มีบทบาทสำคัญมากขึ้นในการทำงานยุคใหม่ ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมจึงต้องการอุปกรณ์ที่ครบถ้วนทั้งเครื่องมืออัจฉริยะ ความปลอดภัย และความคล่องตัว TravelMate X14 AI ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์นี้ด้วยขุมพลังจากโปรเซสเซอร์ Intel Core Ultra รุ่นล่าสุดและประสบการณ์ Copilot+ PC จึงให้โซลูชันที่ทั้งเบาและทนทานช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและรองรับการทำงานร่วมกันจากทุกที่”

ในส่วนของโปรเจกเตอร์ เอเซอร์ได้เปิดตัว Acer Vero Projectors 3 รุ่นใหม่ ซึ่งเป็นโปรเจกเตอร์เลเซอร์ที่ปราศจากสารปรอทและใช้พลังงานน้อยลงถึง 40% เมื่อเทียบกับโปรเจกเตอร์แบบหลอดไฟ สามารถใช้งานได้ยาวนานสูงสุดถึง 30,000 ชั่วโมง โปรเจกเตอร์ทั้งสามรุ่นนี้ให้ความละเอียดสูงสุด Full HD และความสว่าง 4,000 ANSI lumens รองรับการฉายภาพได้แบบ 360 องศา และมีการออกแบบที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม โดยตัวเครื่องใช้วัสดุพลาสติกรีไซเคิล (PCR) 50% และบรรจุภัณฑ์สามารถนำไปรีไซเคิลได้ทั้งหมด