บี.กริม เพาเวอร์ ผนึกกำลัง SCGC ยกระดับโรงไฟฟ้า สู่เป้าหมาย Net Zero ด้วยดิจิทัลโซลูชัน

สำนักข่าวบริคอินโฟ – บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านพลังงานสะอาดในประเทศไทย จับมือกับ บริษัท เอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGC โดย เร็ปโก เน็กซ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและโซลูชันอุตสาหกรรม ร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมและโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนด้วย “ดิจิทัลโซลูชันอัจฉริยะ DRS by REPCO NEX” (Digital Reliability Service Solutions by REPCO NEX) พร้อมทั้งร่วมมือในโครงการโซลาร์ฟาร์มลอยน้ำขนาด 19.5 เมกะวัตต์ ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี

ความร่วมมือครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การใช้พลังงานสะอาดอย่างยั่งยืนตามเป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2065 ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ “Inclusive Green Leap” ของ บี.กริม เพาเวอร์ ที่มุ่งเน้นการพัฒนาอย่างครอบคลุมในทุกมิติ

ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ร่วมกับ เร็ปโก เน็กซ์ ในกลุ่มธุรกิจ SCGC เพื่อยกระดับศักยภาพการพัฒนาพลังงานสะอาดใน 2 โครงการหลัก ได้แก่ การเพิ่มประสิทธิภาพการเดินโรงไฟฟ้าด้วยดิจิทัลโซลูชัน และโครงการโซลาร์ฟาร์มลอยน้ำขนาด 19.5 เมกะวัตต์ ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนพลังงานสะอาดแห่งอนาคตของประเทศไทย ควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อมภายใต้กลยุทธ์ Inclusive Green Leap ที่มุ่งเน้นการขยายการลงทุนในพลังงานหมุนเวียน การพัฒนาระบบจัดการพลังงานอัจฉริยะ และการส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดจากเชื้อเพลิงที่ยั่งยืน

ด้าน ดร.สุรชา อุดมศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานปฏิบัติการและนวัตกรรม SCGC กล่าวว่า SCGC ได้นำ ดิจิทัลโซลูชันอัจฉริยะ DRS by REPCO NEX ซึ่งเป็นเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ในการบริหารจัดการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเดินโรงไฟฟ้า โดยนำข้อมูลขนาดใหญ่มาวิเคราะห์และสร้างแบบจำลองเพื่อแจ้งเตือนและให้คำแนะนำในการเดินโรงไฟฟ้าได้อย่างแม่นยำและทันท่วงที นอกจากนี้ SCGC ยังได้นำนวัตกรรมทุ่นลอยน้ำสำหรับติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ไปพัฒนาโครงการโซลาร์ฟาร์มลอยน้ำให้กับ บี.กริม เพาเวอร์ ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี อีกด้วย

ความร่วมมือครั้งนี้คาดว่าจะช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับอุตสาหกรรมพลังงานของไทย ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสร้างโอกาสในการแข่งขันในตลาดพลังงานระดับสากล เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็นผู้นำด้านพลังงานสะอาดและเทคโนโลยีอัจฉริยะในภูมิภาค