บทความ
Red Hat ชี้ องค์กรต้องผสานแนวทางใช้ AI หลากหลายรูปแบบ เพื่อตอบโจทย์ธุรกิจ

Red Hat เผยข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแนวโน้มการนำ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ในองค์กรยุคใหม่ ชี้ไม่มีวิธีการใช้ AI แบบเดียวที่ตอบโจทย์ทุกองค์กร แนะธุรกิจผสานรวมโมเดล AI หลากหลายรูปแบบ รวมถึงโมเดลสำเร็จรูป โซลูชันที่ปรับแต่งเอง และข้อมูลภายใน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
Cedric Clyburn ผู้สนับสนุนนักพัฒนาอาวุโส และ Frank La Vigne นักวิทยาศาสตร์ข้อมูลและผู้จัดการการตลาดทางเทคนิคหลักสำหรับ AI ที่ Red Hat ระบุว่า องค์กรต่าง ๆ ควรผสานแนวทางการใช้ AI ที่หลากหลาย โดยเริ่มจากการใช้ Generative AI (Gen AI) เพื่อ เพิ่มประสิทธิภาพงาน เช่น การใช้ผู้ช่วยเขียนโค้ด (code assistants) ใน Red Hat Ansible Lightspeed และ Red Hat OpenShift Lightspeed ซึ่งช่วยลดขั้นตอนการทำงานซ้ำ ๆ
จากนั้นองค์กรสามารถ ผสานรวม AI เข้ากับกระบวนการทางธุรกิจ ตัวอย่างเช่น การใช้ AI ในระบบการแนะนำสินค้า หรือเครื่องมือสร้างการมีส่วนร่วมของลูกค้า โดย Red Hat ได้ใช้โมเดล Mixtral-8x7b-Instruct เพื่อสร้างบทสรุปโซลูชันกว่า 130,000 รายการ ช่วยให้ลูกค้าแก้ปัญหาด้วยตนเองได้มากขึ้น
ขั้นตอนสุดท้าย คือ การปรับแต่ง AI ด้วยข้อมูลขององค์กรเอง ซึ่ง Red Hat แนะนำให้ใช้เฟรมเวิร์ก Retrieval Augmented Generation (RAG) และ การจัดแนวขนาดใหญ่สำหรับแชทบอต (LAB) ใน InstructLab เพื่อจัดระเบียบ AI ให้สอดคล้องกับข้อมูลเฉพาะขององค์กร
Red Hat ย้ำว่า Red Hat OpenShift AI เป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยนักพัฒนาซอฟต์แวร์ทดสอบ ใช้ และพัฒนาโมเดล AI รวมถึงสร้างแอปพลิเคชันแบบเรียลไทม์ โดยการผสานโมเดลพื้นฐานต่าง ๆ เข้ากับข้อมูลธุรกิจผ่าน APIs และเฟรมเวิร์กการผสานรวม AI เช่น LangChain
ทั้งนี้ Red Hat เน้นย้ำว่า การใช้ประโยชน์ การนำไปปรับใช้ และการปรับแต่ง Gen AI เป็น 3 ประเด็นสำคัญที่องค์กรต้องพิจารณา เพื่อเพิ่มศักยภาพในการใช้ AI ให้เกิดประโยชน์สูงสุด