ข่าว
ฝันร้ายของ ‘ร้านอาหารจีน’ ในสหรัฐฯ ท่ามกลางวิกฤตโควิด-19
สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า เมื่อไม่กี่เดือนก่อน อีสต์ ดัมปลิง เฮาส์ (East Dumpling House) ร้านอาหารจีนที่ขึ้นชื่อเรื่องเมนูเกี๊ยวต้นตำรับในเมืองร็อกวิลล์ รัฐแมริแลนด์ของสหรัฐฯ ยังขายดีเป็นเทน้ำเทท่า แต่ตอนนี้สถานการณ์ทุกอย่างได้เปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง
หงเหริน เจ้าของร้านอีสต์ ดัมปลิง เฮาส์ นั่งอยู่ในห้องอาหารอันมืดมิด ซึ่งครั้งหนึ่งเคยคึกคัก และเต็มไปด้วยชีวิตชีวา เธอเฝ้าครุ่นคิดถึงวิธีประคับประคองร้านในช่วงของการล็อกดาวน์ที่ทำให้เศรษฐกิจของประเทศหยุดชะงัก
“ธุรกิจฝืดเคืองมาก ตอนนี้เราให้บริการซื้อกลับบ้านเพียงอย่างเดียว”เหรินกล่าวกับสำนักข่าวซินหัว
เมื่อถูกถามว่าธุรกิจของเธอจะดำเนินต่อไปในสภาพนี้อีกนานเท่าใด เหรินตอบว่า “ฉันไม่มั่นใจจริงๆ เรามองสถานการณ์เป็นสัปดาห์ต่อสัปดาห์ เพื่อวางแผนว่าจะทำอย่างไรในสัปดาห์ต่อไป” เนื่องจากการวางแผนล่วงหน้านับเป็นเรื่องยากภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน
ไม่ใช่แค่เหรินเท่านั้น อุตสาหกรรมร้านอาหารของสหรัฐฯ มีจำนวนร้านอาหารมากถึง 1 ล้านแห่ง และพนักงานอีกเกือบ 16 ล้านชีวิต ร้านหลายแห่งกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนอันเป็นผลพวงจากมาตรการรับมือโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ของรัฐบาล
ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. รัฐแมริแลนด์ และเวอร์จิเนีย หรือที่มักเรียกรวมกันว่าดีเอ็มวี (DMV) รัฐบาลออกคำสั่งห้ามการรับประทานอาหารภายในร้าน ทำให้หลายร้านเปลี่ยนไปให้บริการแบบซื้อกลับบ้านแทน
ปีเตอร์ ชาง (Peter Chang) เจ้าของร้านอาหารจีนชื่อดัง กล่าวกับสำนักข่าวซินหัวว่าธุรกิจของเขาทำผลประกอบการได้เพียงร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับช่วงก่อนล็อกดาวน์ เนื่องจากเขาสามารถให้บริการซื้อกลับบ้านได้เพียงอย่างเดียว
มาตรการล็อกดาวน์เข้ามามีบทบาทในย่านศูนย์กลางอันเจริญรุ่งเรืองของวอชิงตัน ดี.ซี. ซึ่งเป็นแหล่งที่ตั้งของร้านอาหารจีนระดับสูงที่ออกแบบมาเพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่เต็มใจจ่ายในราคาที่แพงขึ้น
ร้านคิว บาย ปีเตอร์ ชาง (Q by Peter Chang) และร้านมามาชาง (Mama Chang) เองก็ตั้งอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว อย่างไรก็ดี ปีเตอร์กล่าวว่าเขาไม่สามารถเปิดร้านเพิ่มได้จนกว่าทุกอย่างจะกลับสู่ภาวะปกติ
ด้านฟีโอนา ติง เจ้าของชิลลี ทอล์ก (Chili Talk) กล่าวว่าร้านอาหารของเธอยังคงจ่ายค่าจ้างให้พนักงานตามปกติ แต่ไม่สามารถทำกำไรจากบริการซื้อกลับบ้านอย่างเดียวได้
บรรดาโต๊ะ และเก้าอี้ถูกกองสุมกันอยู่มุมร้าน แทนที่ด้วยเครื่องหมายกากบาท ซึ่งอยู่ห่างกัน 6 ฟุต เป็นสัญลักษณ์บ่งบอกว่าลูกค้าควรยืนอยู่บริเวณใดเพื่อรักษาระยะห่างทางสังคม
ชิลลี ทอล์กขึ้นชื่อเรื่องอาหารเสฉวนต้นตำรับ แม้แต่ชาวจีนพื้นเมืองจากเฉิงตูยังบอกว่าอาหารที่นี่มีรสชาติเหมือนที่บ้านเกิดของพวกเขาไม่มีผิด แต่สำหรับสถานการณ์ตอนนี้ ผู้คนอาจต้องเพลิดเพลินกับอาหารจากที่บ้านแทนไปก่อน
“ลูกค้าของเรายังคงรักเรา ตอนนี้พวกเขาหันมาสั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชัน” ติงกล่าวกับสำนักข่าวซินหัว “ค่าคอมมิชชันของแอปฯสูงมาก เราเลยไม่ได้ทำเงินจากตรงนี้ได้จริงๆ แต่ฉันคิดว่าเราจะผ่านมันไปได้”
ขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯ เปิดตัวเพย์เช็ก โพรเทกชัน โปรแกรม (Paycheck Protection Program) ซึ่งใช้ภาษีจากประชาชนเกือบ 7 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 22.28 ล้านล้านบาท) ผู้ประกอบการร้านอาหารทั่วประเทศกลับมองว่าโครงการดังกล่าวไม่ตอบสนองต่อความต้องการเฉพาะของอุตสาหกรรมนี้
สมาคมร้านอาหารแห่งชาติสหรัฐฯ (NRA) ระบุว่าอุตสาหกรรมร้านอาหารถูกตั้งเป้าว่าจะมีมูลค่าเกือบ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 31.83 ล้านล้านบาท) ในปี 2563 พร้อมเสริมว่าอุตสาหกรรมนี้ต้องการเงินช่วยเหลือหลายพันล้านดอลลาร์
ธุรกิจที่หยุดชะงักก่อให้เกิดปัญหาหลายประการ อาทิ บริษัทประกันภัยไม่จ่ายเงินทดแทน และผู้ให้เช่าที่ทวงถามค่าเช่าแม้ในห้วงยามแห่งวิกฤต
ขณะหลายพื้นที่ในสหรัฐฯ อยู่ระหว่างกระบวนการเปิดเศรษฐกิจใหม่ มันอาจใช้เวลาสักพักก่อนที่ร้านอาหารจะสามารถกลับมาเปิดบริการอย่างเต็มประสิทธิภาพ นอกจากนั้นบางเมืองในหลายรัฐ อาทิ เวอร์จิเนีย แมริแลนด์ อินเดียนา ฟลอริดา และเมน กำลังดำเนินการปิดถนนบางจุด เพื่อทำเป็นทางเท้า และเคลียร์พื้นที่สำหรับโต๊ะร้านอาหาร เช่นเดียวกับหลายพื้นที่ของกรุงปารีส และเมืองอื่นในยุโรป
เขียนโดย แมทธิว รุสลิง (Matthew Rusling)
พิสูจน์อักษร : อาภากร เปี่ยมเชาว์