ข่าว
วธ. เปิดงานใหญ่ “มหกรรมอุตสาหกรรมสร้างสรรค์สู่สากล” หนุน 4 อุตสาหกรรมวัฒนธรรม เจรจาธุรกิจ ขยายตลาดทั่วโลก

กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ได้ฤกษ์เปิดงาน “มหกรรมอุตสาหกรรมสร้างสรรค์สู่สากลและการเจรจาธุรกิจ” อย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 18-22 เมษายนนี้ ณ พารากอน ฮอลล์ และพาร์ค พารากอน ศูนย์การค้าสยามพารากอน โดยมีนางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นำทีมผู้ประกอบการกว่า 200 ราย โชว์ศักยภาพผลิตภัณฑ์ชุมชนและผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมคุณภาพเยี่ยม หวังยกระดับ 4 อุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ การท่องเที่ยว ศิลปะ ดนตรี และอาหาร พร้อมจัดเวทีเจรจาธุรกิจเพื่อขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ผลักดัน “เศรษฐกิจวัฒนธรรม” และกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ
นายประสพ เรียงเงิน ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวในพิธีเปิดว่า งานนี้เป็นไปตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ที่มุ่งเน้นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน โดยส่งเสริมศักยภาพและความคิดสร้างสรรค์ของบุคลากรในภาคส่วนต่างๆ เพื่อพัฒนาทักษะและปลดล็อกศักยภาพของคนไทย ควบคู่ไปกับการเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงศิลปวัฒนธรรม ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวตั้งเป้าหมายให้ผู้ประกอบการชุมชนได้รับการพัฒนาทักษะด้าน Soft Power เพื่อนำไปสร้างงาน สร้างอาชีพ และสร้างรายได้ รวมถึงนำอัตลักษณ์ความเป็นไทยมาเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและบริการ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศในระดับสากล
นายประสพ เรียงเงิน ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า วธ. ร่วมกับ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.), สมาคมการค้าส่งเสริมหัตถกรรมไทย ภาคเอกชน และภาคีเครือข่าย ขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลภายใต้โครงการ 1 ครอบครัว 1 Soft Power ผ่าน 11 กลุ่มอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ โดยมีการฝึกอบรม Upskill และ Reskill จากผู้เชี่ยวชาญใน 4 อุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ การท่องเที่ยว ศิลปะ ดนตรี และอาหาร กลุ่มเป้าหมายคือผู้ประกอบการจาก 5 ภูมิภาคทั่วประเทศ จำนวน 2,400 คน ซึ่งในงานนี้ได้คัดเลือกผู้ประกอบการที่มีผลงานโดดเด่น 200 ราย นำผลิตภัณฑ์ชุมชนและผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมมาจัดแสดงและจำหน่าย อาทิ ผ้าไทย เครื่องแต่งกาย งานหัตถศิลป์ ของใช้ ของที่ระลึก รวมถึงผลิตภัณฑ์ด้านการท่องเที่ยว ดนตรี และอาหาร พร้อมทั้งจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายและประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ
นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการจัดกิจกรรมเจรจาธุรกิจ (Business Matching) โดยเชิญผู้ซื้อรายใหญ่ที่สนใจสินค้าและบริการทางวัฒนธรรมเข้าร่วม โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายหลักคือ Trader, ห้างสรรพสินค้า, สมาคมการค้าภายใต้สภาหอการค้าและสภาอุตสาหกรรม, ช่องทาง e-commerce และอุตสาหกรรม HoReCa (โรงแรม ร้านอาหาร และธุรกิจจัดเลี้ยง) ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโตและต้องการสินค้าที่มีเอกลักษณ์และคุณภาพสูง
รศ.ดร.คมสัน มาลีสี อธิการบดี สจล. กล่าวว่า สถาบันฯ มีบทบาทในการผลักดันวัฒนธรรมสร้างสรรค์ทั้ง 4 สาขา เพื่อนำผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมไทยสู่ระดับสากล พร้อมทั้งเป็นที่ปรึกษาในการจัดทำแผนและแนวทางการดำเนินงานโครงการฯ ให้บรรลุวัตถุประสงค์ โดยได้ดำเนินการใน 6 ขั้นตอน ตั้งแต่การวางกรอบแนวคิด การศึกษาองค์ความรู้ การพัฒนาทักษะ การจัดมหกรรม การประชาสัมพันธ์ และการประเมินผล โดยมุ่งหวังให้ผู้ประกอบการมีความรู้ความเข้าใจและพัฒนาเศรษฐกิจด้านศิลปวัฒนธรรมของประเทศไทยให้สามารถแข่งขันได้ในเวทีโลก