เยาวชนไทย ร้องรัฐบาล ขอมีส่วนร่วมแก้ปัญหาโลกร้อน-ช่วยกำหนดนโยบาย

ตัวแทนเยาวชนไทยยื่นข้อเสนอต่อกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศฯ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขอมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบายแก้ปัญหาโลกร้อนอย่างจริงจัง หลังการประชุม COP29 ณ สาธารณรัฐอาเซอร์ไบจาน โดยอ้างอิงผลสำรวจของสวนดุสิตโพลและยูนิเซฟที่พบว่าเยาวชนกว่า 93% ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

สิปโปทัย เกตุจินดา เยาวชนวัย 23 ปี ผู้แทนไทยในการประชุม COP29 กล่าวว่า วิกฤตสภาพภูมิอากาศส่งผลกระทบต่อทุกคน โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนที่ต้องแบกรับผลกระทบหนักที่สุดในระยะยาว จึงอยากมีส่วนร่วมแก้ปัญหาและต้องการให้รัฐบาลสนับสนุนเยาวชนเป็นผู้นำโครงการด้านสภาพภูมิอากาศ

ผลสำรวจของสวนดุสิตโพลในเดือนกันยายน จากกลุ่มตัวอย่างเยาวชนอายุ 14-24 ปี จำนวน 994 คน พบว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศส่งผลกระทบต่อสุขภาพกาย จิตใจ การศึกษา ความปลอดภัย และความสัมพันธ์ในครอบครัว โดย 63% รายงานผลกระทบด้านสุขภาพกาย 56% ระบุถึงความลำบากในชีวิตประจำวัน และ 41% ได้รับผลกระทบด้านสุขภาพจิต ขณะที่ 59% ยังไม่เคยเข้าร่วมกิจกรรมแก้ไขวิกฤตสภาพภูมิอากาศมาก่อน

ด้าน อัซมานี เจ๊ะสือแม เยาวชนที่เข้าร่วมประชุม COP28 กล่าวว่า เสียงของเยาวชนในวันนี้คือพลังแห่งการเปลี่ยนแปลง โดยภาครัฐและภาคส่วนต่างๆ ควรตระหนักถึงความสำคัญของการแก้ไขวิกฤตนี้ ผ่านนโยบายที่ชัดเจน

นางคยองซอน คิม ผู้อำนวยการองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย กล่าวว่า เด็กและเยาวชนต้องการเป็นส่วนหนึ่งของการแก้วิกฤต แต่พวกเขาต้องการการสนับสนุน ทรัพยากร และพื้นที่ในการลงมือทำจริง โดยเรียกร้องให้รัฐบาล ภาคธุรกิจ และทุกภาคส่วนร่วมมือกัน

ทั้งนี้ ยูนิเซฟยังเรียกร้องให้รัฐบาลไทยเข้าร่วมปฏิญญาว่าด้วยเด็ก เยาวชน และการดำเนินงานด้านสภาพภูมิอากาศ (Declaration of Children, Youth and Climate Action) ซึ่งเป็นความมุ่งมั่นระดับโลกในการให้ความสำคัญกับสิทธิ เสียง และความต้องการของเด็กและเยาวชนในการจัดทำนโยบายด้านสภาพภูมิอากาศ