ข่าว
กสทช. ร่วม ตร. บุกจับสายเคเบิลเถื่อนข้ามแดน แม่สอด ยิ่งใหญ่สุดเป็นประวัติการณ์

กสทช. และตำรวจภูธรแม่สอด ร่วมกันจับกุมเครือข่ายลักลอบลากสายนำสัญญาณเถื่อนข้ามแดน และตั้งฐานกระจายสัญญาณอินเตอร์เน็ตไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยพบสายเคเบิลขนาดใหญ่จำนวน 16 เส้น นับเป็นการจับกุมสายเคเบิลเถื่อนครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา
พล.ต.อ.ณัฐธร เพราะสุนทร กสทช. ด้านกฎหมาย กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากการตรวจสอบขบวนการลักลอบตั้งเสาลากสายสัญญาณข้ามแดนไปยังประเทศเพื่อนบ้านตามแนวชายแดนหลายจุด จนกระทั่ง กสทช. ภาค 3 ร่วมกับ สตช. พบขบวนการลักลอบตั้งฐาน รับ-ส่งสัญญาณแบบจุดต่อจุด โดยลักลอบพาดสายสัญญาณความเร็วสูงขนาดใหญ่ ข้ามสะพานมิตรภาพไทย – เมียนมาร์ แห่งที่ 1 (อ.แม่สอด) จำนวน 16 เส้น ซึ่งเป็นสายไฟเบอร์ออฟติค ขนาด 216 คอร์ จำนวน 2 เส้น ขนาด 96 คอร์ จำนวน 2 เส้น และขนาด 24 คอร์ ตรวจสอบด้วยเครื่องมือพิเศษ (OTDR) พบว่าเครือข่ายนี้ลากสายลึกเข้าไปในประเทศเพื่อนบ้านหลายกิโลเมตร สามารถกระจายสัญญาณครอบคลุมเมืองเศรษฐกิจ 4 แห่ง ป้อนสัญญาณให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์
พล.ต.อ.ณัฐธร เชื่อว่าการตัดสัญญาณครั้งนี้ จะทำให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ไม่สามารถเข้าถึงสัญญาณเน็ตได้ การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดฐานประกอบกิจการโทรคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม ม.67 (3) แห่ง พ.ร.บ. การประกอบกิจการโทรคมนาคมฯ มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 10 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ด้าน พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร รรท.จตช. และ ผอ.ศปอส.ตร. กล่าวว่า ที่ผ่านมา ศปอส.ตร. ได้ประสานงานกับ กสทช. อย่างใกล้ชิด มีการจับกุมเครือข่ายขนาดใหญ่ พร้อมเดินหน้าแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตั้งแต่การรื้อสายเคเบิลผิดกฎหมายตลอดแนวชายแดน, การตรวจค้นตู้ซิม ตรวจยึดซิมการ์ดไทยกว่าแสนซิม, SIM BOX ควบคู่กับการจัดระเบียบร้านค้ารายย่อย และการสร้างความตระหนักรู้กับประชาชน โดยขบวนการลักลอบพาดสายที่จับกุมได้ในวันนี้ ถือเป็นเครือข่ายขนาดใหญ่ เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคง จึงได้สั่งการให้ทุกหน่วยที่มีพื้นที่รับผิดชอบ ติดแนวชายแดนประสานการทำงานกับ กสทช. ตรวจสอบการกระทำผิด หากตรวจพบให้ดำเนินการอย่างเฉียบขาด