MRT จัดแข่ง ประกวดวาดภาพสีน้ำ BEM Art Contest หนุนฝีมือศิลปะของเด็กไทย ใช้โชว์จริงในสถานี

การสร้างสรรค์ผลงานทางด้านศิลปะ เปรียบเสมือนการได้ใช้จินตนาการอย่างเปิดกว้าง ไม่มีคาว่าผิดหรือถูก อยู่ที่การจัดองค์ประกอบศิลป์ของภาพ และเทคนิคของแต่ละคนที่แตกต่างกันออกไป แต่ภายใต้การสร้างสรรค์เหล่านั้น เต็มไปด้วยความตั้งใจ ความประณีตในการถ่ายทอดผลงาน แม้แต่การวาดภาพที่มีภาพต้นแบบเป็นภาพเดียวกัน แต่อารมณ์และความรู้สึกของแต่ละภาพที่ถูกศิลปินถ่ายทอดมานั้นก็ยังไม่เหมือนกัน

นางสาวสุวพีร์ ลือสิริพรกุล ผู้อำนวยการ ฝ่ายสื่อสารการตลาดและองค์กร บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จากัด (มหาชน) หรือ BEM กล่าวว่า “การแข่งขันประกวดวาดภาพสีน้ำ BEM Art Contest จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 หลังจากได้รับกระแสตอบรับในทิศทางที่ดีในครั้งแรก และครั้งนี้เรายังเปิดโอกาสให้กับผู้ที่เข้าแข่งขันและไม่ได้รับรางวัลจากครั้งที่ 1 สามารถเข้าร่วมเข้าแข่งขันได้อีก จากผลงานทุกท่านที่ได้เข้าแข่งขัน ถึงแม้ว่าจะได้รับภาพต้นแบบเดียวกัน แต่ต่างมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นกันออกไปคนละแบบ ซึ่งทุกคนมีความมุ่งมั่นตั้งใจเก็บรายละเอียดบนภาพวาดเป็นอย่างดี BEM ในฐานะผู้ในบริการรถไฟฟ้า MRT มีความยินดีอย่างยิ่งในการจัดกิจกรรม ที่ช่วยส่งเสริมศักยภาพ เปิดพื้นที่ให้ประชาชนทุกเพศทุกวัย ได้แสดงความสามารถ”

อาจารย์บันชา ศรีวงษ์ราช ประธานเครือข่ายสมาคมสีน้้ำ IWS ประเทศไทย เปิดเผยว่า “ภาพต้นแบบของการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศนี้ เป็นภาพรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน ช่วงสถานีอิสรภาพ สถานีท่าพระ ด้านหลังเป็นทิวทัศน์ของ “พระปรางค์วัดอรุณ” ซึ่งเป็นจุดแลนด์มาร์คที่โดดเด่นของกรุงเทพมหานคร และยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของไทย ถือเป็นภาพที่ยากที่สุดใน 3 ภาพ

ซึ่งรอบนี้ BEM เลือกใช้ภาพรถไฟฟ้าวิ่งผ่านแหล่งท่องเที่ยว นามาทาเป็นภาพกราฟิกจัดองค์ประกอบคร่าวๆ ให้ผู้เข้าแข่งขัน แล้วให้ผู้เข้าแข่งขันได้สร้างสรรค์การลงสีในรูปแบบของตัวเอง นับว่าเป็นมิติใหม่อย่างหนึ่ง ที่ทาให้ผู้เข้าแข่งขันต้องใช้สมาธิและจินตนาการอย่างสูง จากที่ได้เห็นผลงานของแต่ละคน รู้ในทันทีเลยว่า มีการเตรียมความพร้อมมาอย่างดี เพราะฝีมือแต่ละคนยอดเยี่ยมมาก กรรมการต้องพิจารณาอย่างมากในการตัดสินผลงาน”

การแข่งขันในครั้งนี้นอกจากศิลปินหน้าใหม่ที่เข้าร่วมแข่งขัน ยังมีผู้ที่เคยผิดหวังจากการแข่งขันครั้งก่อน นาประสบการณ์ไปปรับใช้ จนสามารถกลับมาคว้าชัยชนะได้

นายปัญญา จันทวงษ์ ผู้ชนะเลิศ ประเภทนักศึกษาและประชาชนทั่วไป อายุ 18 ปีขึ้นไป เล่าว่า “เข้าร่วมการประกวดโครงการนี้เป็นครั้งที่ 2 ชื่นชอบการวาดภาพเป็นทุนเดิม โดยเฉพาะสีน้า การวาดภาพก็เหมือนการบันทึกเช่นเดียวกับการถ่ายภาพ แต่เสน่ห์ของการวาดต้องใช้ระยะเวลาและจินตนาการ ทุกครั้งที่มองภาพนั้นเราจะจดจาความรู้สึกขณะที่เราวาดได้เป็นอย่างดี ตอนที่เห็นโจทย์ภาพต้นแบบ รู้สึกกังวลนิดหน่อย แต่สุดท้ายรวบรวมสติ ทำสมาธิ แล้วพยายามเก็บรายละเอียดภาพให้ได้มากที่สุด พอเริ่มประกาศผล ไม่มีชื่อเลยสักรางวัลก็เริ่มถอดใจ อยากกลับบ้านแล้ว ไม่คิดว่าชื่อเราจะมาอยู่ตรงรางวัลชนะเลิศ”

เช่นเดียวกันกับ นางสาวปุญชรัสมิ์ ประกายอนุรัตน์ โรงเรียนสารสาสน์เอกตรา ผู้ชนะเลิศ ประเภทนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า อายุไม่เกิน 18 ปี เล่าว่า “ตัวเองเคยเข้าประกวดในรอบที่แล้วแต่ไม่ได้รับรางวัลใดๆ ขณะเดียวกันก็นาประสบการณ์และความผิดพลาดไปฝึกฝน พัฒนาฝีมือ และกลับมาสมัครใหม่อีกครั้ง ซึ่งในครั้งนี้หวังเพียงแค่รางวัลชมเชย เมื่อประกาศรางวัลชมเชยและไม่มีชื่อเราก็รู้สึกผิดหวัง และคิดเพียงว่าครั้งหน้าจะมาร่วมแข่งขันอีก แต่เมื่อได้ยินชื่อตัวเองได้รับรางวัลชนะเลิศรู้สึกดีใจมาก และตั้งใจ จะพัฒนาฝีมือตัวเองไปเรื่อยๆ ค่ะ”

และผู้ที่ได้รับรางวัลท่านอื่นๆ ในประเภทนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า (อายุไม่เกิน 18 ปี) ได้แก่ นางสาวนารา วิบูลย์สันติพงศ์ รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1, นางสาวพนัชกร ดวงแสงเหล็กรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2, นางสาวภูษณิศา หมู่ทอง รางวัลชมเชย และนางสาวชฎาพร ใจมั่น รางวัลชมเชย

ประเภทนักศึกษาและประชาชนทั่วไป ได้แก่ นายประพัฒน์ นิสสัย รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1, นายวิชัย เรืองปฏิกรณ์ รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2, นางสาวอรอุมา พรหมฤทธิ์ รางวัลชมเชย และนางสาวกุลธิดา วรรณจงคา รางวัลชมเชย