ส่องวิธีเลือกเครื่องกรองอากาศคุณภาพ เงียบ ประหยัดพลังงาน

ที่ผ่านมา มลภาวะทางอากาศอย่าง PM2.5 ที่เพิ่มสูงมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ ส่งผลให้คนหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้ง ผนวกกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้เราเรียนรู้ที่จะปรับตัวมากยิ่งขึ้น สู่ชีวิตแบบปกติวิถีใหม่ หรือนิวนอร์มัล (New Normal) หลายครอบครัวมีการซื้อเครื่องกรองอากาศไว้ติดบ้าน เพื่อให้มั่นใจว่าแม้อากาศภายนอกจะไม่น่าไว้วางใจ แต่อากาศภายในบ้านต้องสะอาด บริสุทธิ์ และปลอดภัยที่สุดนั่นเอง วันนี้เราจะพาไปดูวิธีเลือกเครื่องกรองอากาศ ทั้งประสิทธิภาพ ความเงียบ และการประหยัดพลังงาน ลองไปดูกัน

มีประสิทธิภาพฟอกอากาศ ผลิตความสดชื่น บริสุทธิ์
ฟังก์ชันแรกของเครื่องกรองอากาศ คงหนีไม่พ้นการฟอกอากาศภายในห้องที่มีมลภาวะ เชเน มีละอองฝุ่นขนาดเล็กอย่าง PM 2.5 หรือมีขนสัตว์เลี้ยงปะปนล่องลอยอยู่ หรือมีกลิ่น ให้กลายเป็นอากาศบริสุทธิ์ นอกจากนี้ ยังต้องกำจัดเชื้อโรคอย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคโควิด-19 ที่ทุกลมหายใจภายในบ้านต้องมีคุณภาพ เพราะสมาชิกบางครอบครัวนั้นมีทั้งผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว และเด็กเล็ก ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 ได้ง่ายอีกด้วย

เงียบ ไร้เสียงรบกวน
แน่นอนว่าเราคงเคยได้ยินเสียงการทำงานของเครื่องกรองอากาศ ที่มีเสียงหึ่ง หึ่ง หึ่ง ตลอดเวลา ซึ่งค่อนข้างเป็นเสียงรบกวนพอสมควร และโดยเฉพาะยุคของการ Work From Home ที่ต้องการสมาธิในการทำงาน เสียงเครื่องกรองอากาศที่เงียบจึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่น่าสนใจ

ยังไม่รวมปัญหาของพ่อแม่ทุกคนที่ย่อมรู้ดีว่าช่วงเวลาที่ต้องการความเงียบที่สุด คือช่วงที่ลูกน้อยเบบี๋กำลังหลับ เชื่อแน่ว่าแค่เพียงเสียงกริ๊กนิดเดียวที่เบาที่สุดนั้น ได้ปลุกเบบี๋น้อยให้ร้องไห้จ้าเป็นที่เรียบร้อย จนพ่อแม่ต้องเริ่มกระบวนการกล่อมนอนใหม่ตั้งแต่ต้น จึงจะเห็นได้ว่า ความเงียบ ไม่มีเสียงรบกวนจากเครื่องกรองอากาศเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง

เครื่องกรองอากาศประหยัดพลังงาน แม้เปิดใช้ทุกวัน
แม้ทุกวันนี้มลภาวะอากาศจากภายนอกที่เล็ดลอดเข้ามาในบ้าน จะทำให้เครื่องกรองอากาศทำงานหนัก แต่จะดีแค่ไหน ถ้าเราสามารถเปิดเครื่องกรองอากาศได้ตลอดเวลา แถมยังประหยัดพลังงานแบบไม่ต้องกังวลค่าไฟอีกด้วย ขอยกตัวอย่างวิธีการเลือกเครื่องกรองอากาศประหยัดพลังงาน จำเป็นต้องดูฉลากเกณฑ์การประหยัดพลังงานของประเทศนั้น ๆ ประกอบด้วย เช่น ถ้าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าของไทยย่อมต้องดูที่ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 แต่ถ้าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น ตู้เย็น เครื่องซักผ้า เครื่องล้างจาน เครื่องดูดฝุ่น รถยนต์ หรือเครื่องกรองอากาศประหยัดพลังงานจากประเทศเกาหลีใต้ ต้องดูฉลาก Energy Efficiency ซึ่งถ้าเป็นเบอร์ 1 นั่นหมายความว่าเครื่องใช้ไฟฟ้านั้นประหยัดพลังงานมากที่สุด และหากเป็นเบอร์ 5 หมายความว่าประหยัดพลังงานน้อยที่สุดนั่นเอง ดังนั้น การดูฉลากประหยัดพลังงานตามเกณฑ์ของแต่ละประเทศจึงเป็นสิ่งควรใส่ใจเช่นกัน

เหล่านี้คือข้อมูลคร่าว ๆ ของการเลือกเครื่องกรองอากาศ ซึ่งมีหลายยี่ห้อ หลายรุ่น ให้เลือก ลองเซิร์ชข้อมูลและเลือกเครื่องที่ถูกใจ เพราะเรื่องสุขภาพของคนในบ้านเป็นสิ่งที่ไม่อาจละเลยได้ เพื่อให้ทุกคนสามารถสูดลมหายใจได้เต็มปอดอย่างมั่นใจในความสะอาดและปลอดภัย