บทสัมภาษณ์ศิลปินไอดอล

คุยกับ “เฟิร์น Siam☆Dream” จากนางแบบสู่การเป็นศิลปินไอดอลที่เธอต้องปรับตัว

Published

5 ปี ago

17 พฤษภาคม 2019

สวัสดีครับผู้ทุกท่าน พบกันอีกแล้วสำหรับบทสัมภาษณ์ศิลปินไอดอลจากประเทศไทย หลังจากก่อนนี้ท่านผู้อ่านคงได้อ่านบทสัมภาษณ์ของ 2 สมาชิก ฮารุปี้ (สีฟ้า) และ นิโกะจัง (สีม่วง) สมาชิกวง Siam☆Dream กันมาบ้างครับ วันนี้ก็ถึงคิวสมาชิกสีส้มแห่งวงสยามดรีม ทำความรู้จักกับ น้องเฟิร์น Siam☆Dream สาวน้อยตากลม ที่มาพร้อมกระชากใจเหล่าโอตะ ที่หลายๆคน อาจจะแอบไปกดถูกใจกันมาแล้ว ซึ่งวันนี้เราจะพาไปรู้จักกับตัวตนของเธออีกมุมนึงผ่านบทสัมภาษณ์เพื่อให้รู้จักเธอให้มากขึ้นกันครับ

Q : แนะนำตัวให้ผู้อ่านรู้จักหน่อยครับ?
สวัสดีค่ะ ชื่อเฟิร์น จิ้งจอก สีส้มแห่ง Siam☆Dream ค่าาาา ปกติส่วนตัวแล้วเฟิร์นเป็นคนชอบทำงานค่ะ ถ้าไม่ได้ติดงานของวง ก็จะทำงานของตัวเองค่ะ ชอบเรื่องการทำธุรกิจค่ะ ส่วนเวลาที่ว่างๆนั้นอยากผ่อนคลาย ก็จะกินค่ะ 555 เพราะในวงเราเน้นกินเหมือนกัน! ชอบหาที่ทานอาหารเด็ดๆค่ะ แล้วก็ชอบการฟังเพลง กับดูหนังก่อนนอนมากๆค่ะ ^^

Q : เห็นว่าเฟิร์นเป็นคนขี้อายมาก?
ใช่ค่ะ เป็นตั้งแต่ก่อนเข้าวงมาตัวจริงขี้อายมาก 555 อาจจะดูไม่เข้ากับภาพในโลกออนไลน์ แต่ก็เพราะเฟิร์นถ่ายแบบจนชินค่ะ เมื่อก่อนจะกล้ามองกล้อง แต่ไม่ค่อยกล้าจ้องตาคนค่ะ แล้วก็ไม่กล้าพูดอะไรต่อหน้าคนเยอะค่ะ เวลาอยู่ในที่คนเยอะๆก็จะเป็นคนที่อยู่มุมห้องค่ะ เป็น Introvert มาก แต่ตอนนี้พอมาเป็นไอดอลก็ปรับตัวได้ดีขึ้นเยอะแล้วค่ะ แรกๆขึ้นเวทีนี่ขาสั่นเลยค่ะ แต่ตอนนี้สนุกมากค่ะ ตื่นเต้น ตื้นตัน ทุกครั้งที่ได้ยินเสียงเชียร์พวกเราเลย มันเป็นประสบการณ์ที่เหลือเชื่อมากๆ ไม่คิดว่าวันนึงเฟิร์นจะได้ทำในสิ่งที่กลัวมากๆ และผ่านมันมาได้ค่ะเพราะทั้งการเต้น การพูดต่อหน้าคนเยอะๆนี่เฟิร์นเคยกลัวที่สุดเลยค่ะ

Q : แล้วที่มาของฉายา “จิ้งจอก” ตอนมาเป็นไอดอลนี่มาจากไหน?
เฟิร์นชอบสุนัขจิ้งจอกมากค่ะ จริงๆก็คือชอบสุนัขทุกสายพันธุ์เลย แต่จิ้งจอกน่าค้นหามาก เพราะเป็นสัตว์ที่สันโดษ ไม่สังคมมาก คาดเดายาก ก็คงจะนิสัยเหมือนเฟิร์นนี่แหละค่ะ 555

Q : ทำไมถึงตัดสินใจมาออดิชั่นวงไอดอล?
เฟิร์นเอง เคยอยากเป็นศิลปินมาเสมอเลยค่ะ เพราะเป็นคนที่ชอบฟังเพลงมากๆ เคยแต่งเพลงเองด้วย^^ แต่จุดที่เป็นแรงบรรดาลใจมาจากเรื่อง Tokyo Idol จำได้ว่าตอนดูนี่ขนลุกเลยค่ะ รู้สึกว่าเขาเท่ห์มาก ต้องฟันฝ่าขนาดไหนนะ ต้องมอบความสุขให้คนดูยังไงนะ ทำยังไงพวกเขาถึงสนุกนะ มันเป็นงานที่ดูยากและท้าทายมาก คิดเลยว่าครั้งหนึ่งในชีวิต อยากลองมีประสบการณ์แบบเขาค่ะ เลยตัดสินใจสมัครออดิชั่นที่นี่ดูค่ะ

Q : แบบนี้ก็แปลว่าเฟิร์นเอง สนใจเกี่ยวกับอะไรที่เป็นญี่ปุ่นอยู่แล้ว?
ใช่ค่ะ เฟิร์นชอบไปญี่ปุ่นมากเลย ซึ่งไปญี่ปุ่นบ่อยมากค่ะ ผู้คนน่ารักมาก เที่ยวแล้วสบายใจค่ะ ทุกครั้งที่หลงทาง ถามทางคนญี่ปุ่น เขาก็ตั้งใจบอกทางเรามากๆ บางคนถึงขั้นพาไปส่งค่ะ ผู้คนที่นั่นใจดีมากๆเลยอาหารก็อร่อยมากด้วยค่ะแล้วพอได้มาทำงานไอดอลร่วมกับคนญี่ปุ่นก็ประทับใจมากๆเลยค่ะ เมมเบอร์คนญี่ปุ่นน่ารัก และใจดีมากๆ รวมถึงการได้ไปแสดงที่ญี่ปุ่น สัมผัสวัฒนธรรมไอดอลที่นั่น เป็นประสบการณ์ที่นั่นก็ทำให้ยิ่งชอบ ยิ่งหลงรักญี่ปุ่นมากๆค่ะ

Q : ครอบครัวว่าอย่างไรบ้างพอมาทำตรงนี้?
ทางครอบครัวปกติที่ผ่านมาก็จะสนับสนุนให้เฟิร์นทำในสิ่งที่ชอบอยู่แล้วค่ะ แต่ก็จะมีเป็นห่วงบ้างเรื่องอนาคต สุขภาพและความปลอดภัยเป็นปกติของครอบครัวค่ะ

Q : ก่อนที่เฟิร์นจะมาเป็นไอดอลตอนแรกเรามีมุมมองคำว่า “ไอดอล” อย่างไร?
เฟิร์นมีมุมมองว่า ไอดอลคือความสุข ความสนุก และความฝันค่ะ ไอดอลต้องมอบความสุขให้คนได้ ภายในจึงต้องเป็นคนที่คิดบวก มีพลังใจที่ดีมากๆ จึงสามารถมอบมันให้แฟนคลับ และถ่ายทอดออกมาเป็นความสดใส ร่าเริง สร้างความสนุก และเป็นพลังใจให้คนอื่นค่ะ รวมถึงต้องมีความใฝ่ฝันที่จะเป็นไอดอลด้วยค่ะ เพราะการฝึกซ้อมร้อง เต้น การทำงานเป็นทีม และอดทนต่อความเหนื่อย ก็เป็นสิ่งที่ต้องมีใจรักด้วยค่ะ ต้องเอาชนะความกลัว และความท้อมากๆค่ะ นี่เป็นภาพมุมมองที่เฟิร์นมองไอดอลในตอนแรกค่ะ แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริงๆค่ะ

Q : พอมาเป็นหนึ่งในสมาชิกวง Siam☆Dream แล้ว เฟิร์นมีการปรับตัวเยอะไหม?
ปรับตัวเยอะมากค่ะ เพราะเป็นการก้าวมาทำอะไรใหม่ๆที่ไม่เคยทำมาก่อน ทั้งการร้อง การเต้น การแสดงต่อหน้าผู้คน การรับมือต่อโลกออนไลน์ และการเรียนรู้เรื่องทุกเรื่องเกี่ยวกับโลกไอดอล ทุกอย่างใหม่มากสำหรับเฟิร์นค่ะ ก็ต้องคอยฝึกฝนทั้งความสามารถ ทำให้ตัวเองแข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจค่ะ พอปรับตัวได้ก็สนุกมากค่ะ

Q : ความรู้สึกเวทีแรกของเราเป็นอย่างไรบ้าง?
ครั้งแรกที่ขึ้นแสดง จำได้ว่าตื่นเต้นสุดขีดเลยค่ะ เบลอไปหมดเลย ขาสั่น คอแห้ง ตาลายมากกก 555 ใจเต้นมากค่ะ ในใจพยายามโฟกัสที่การเต้น แต่ก็ชอบเผลอไปคิดว่า เห้ย! มีคนมาเชียร์เราด้วยหรอ โห คนนั้นตะโกนเชียร์พวกเราด้วย โห! คนนั้นเต้นเป็นด้วย แล้วก็ต้องรีบกลับมาโฟกัสที่การเต้นค่ะ ไม่งั้นลืมทุกอย่าง 55555 ซึ่งปัจจุบัน ก็ยังตื่นเต้นทุกครั้งก่อนขึ้นแสดงค่ะ แต่มันกลายเป็นตื่นเต้นที่จะขึ้นไปเจอแฟนคลับค่ะ ตื่นเต้นที่จะขึ้นไปเจอทุกคน มอบความสนุกให้ทุกคน เสียงเชียร์ของพวกเขามีค่ามากๆ เพราะเวลาเต้น เราเหนื่อยมากจริงๆค่ะ แต่เสียงเชียร์นี่เป็นพลังให้เราในการแสดงมาก รอยยิ้มที่ออกมาของเรา มาจากพลังเชียร์ของพวกเขาล้วนๆเลยค่ะ

Q : ในวง Siam☆Dream มีรุ่นพี่ไอดอลญี่ปุ่น ฮารุปี้และนิโกะ เรามีขอคำปรึกษาหรือแนะนำบ้างไหม?
ส่วนใหญ่หลักๆที่เฟิร์นเรียนรู้จากเขาก็คือ การเต้น และพลังในการแสดงค่ะ ทั้งคู่มีความสามารถมาก เต้นได้สุดยอด และดูมีพลังบวก ความสุข ที่สื่อถึงคนดูได้ดีเยี่ยมมากๆเลยค่ะ ดูแล้วขนลุกได้เลย

Q : ด้วยตัวน้องเฟิร์นเคยเป็นนางแบบมาก่อน ซึ่งอาจทำให้ภาพลักษณ์ถูกจดจำมาให้รูปแบบนั้น พอเราเป็นไอดอลแล้วเวลาเราลงภาพทางสื่อโซเชียล อาจมีคอมเม้นแนว Sexual Harassmen ในภาพ ตรงนี้เรามีวิธีรับมืออย่างไร?
แรกๆเฟิร์นตกใจกับเรื่องนี้มากค่ะ เพราะชีวิตก่อนมาเป็นไอดอล เฟิร์นถ่ายแบบมาตลอด ก็ไม่ค่อยเจอคอมเม้นทำนองนี้เท่าไหร่ค่ะ ผู้ชายในสายตาเฟิร์นก่อนที่จะมาเป็นไอดอลเฟิร์นมองว่าเป็นสุภาพบุรุษกว่านี้ค่ะ แต่พอได้มาสัมผัสชีวิตไอดอลแล้วเจอคอมเม้นบางอันที่รุนแรง เฟิร์นก็ตกใจมากว่า ลูกผู้ชายคนนึงสามารถพูดกับผู้หญิงคนนึงได้คุกคามขนาดนี้เชียวหรอ? ช่วงแรกที่เข้ามารู้สึกไม่ดีเลยค่ะ เหมือนเจอโลกที่เราไม่เคยเจอ ร้องไห้ แต่พอคิดได้ว่า เห้ย เราเข้ามาเป็นไอดอล เราเข้ามาในโลกบันเทิง โลกที่อยู่กลางคนทุกประเภท งั้นเราก็ต้องยอมรับมันให้ได้สิ จะเป็นความบันเทิงทางคอมเม้นรูปแบบไหน เราก็ถือว่าเราได้ทำให้เขามีความสุข เราไม่ได้ทำอะไรไม่ดี ไม่ได้ทำอะไรผิด เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว เฟิร์นเองก็มีลิมิตของตัวเองในการลงภาพค่ะ ประกอบกับเฟิร์นเป็นคนที่เวลาน้อยค่ะ เฟิร์นเลยให้ค่าเวลามาก เฟิร์นจึงทำเวลาของเฟิร์นให้มีความสุขค่ะ เวลาเจออะไรไม่ดีก็เลื่อนผ่านไปแบบลืมไปจริงๆค่ะ เลือกเสพเฉพาะกำลังใจ และความสุขค่ะ^^ เฟิร์นจะได้มอบให้แฟนคลับกลับไปได้ค่ะ

Q : คำถามสุดท้ายที่ทุกคนคงอยากรู้คำตอบ ถ้าให้น้องเฟิร์น นิยาม “ความพยายาม” ในตัวเฟิร์นเองจะพูดถึงอะไร? 555 ถ้าในความหมายของเฟิร์นนะ! ความพยายามสำหรับเฟิร์น คือ พยายามไม่ท้อถอยในการทำอาชีพไอดอลค่ะ เพราะมันมีหลายเรื่องที่จะดึงแรงใจของเราลง ถามว่าไอดอลต้องต่อสู้ ฟันฝ่าอะไรนักหนาหรอ เฟิร์นอยากตอบว่าพลังใจให้เป็นบวกนี่แหละค่ะ มีอุปสรรคมากมายที่ทำผู้หญิงคนนึงท้อ ทั้งการฝึก การร้อง การเต้นให้พร้อมเหมือนนักกีฬาเลย ทั้งการสร้างรอยยิ้ม ความสนุก รักษาความสัมพันธ์กับแฟนคลับ รับผิดชอบภาพลักษณ์ การสื่อสาร การรับมือกระแสโลกออนไลน์ การปรับมุมมองให้เป็นบวก สิ่งเหล่านี้ ถ้าไม่มีความพยายามก็ฟันฝ่าไปได้ยากค่ะ เพื่อต่อสู้กับใจตัวเองที่พร้อมจะดึงเราให้เป็นลบค่ะ

สุดท้าย เฟิร์น ขอขอบคุณและอยากฝาก Siam☆Dream กับผู้อ่านทุกคนนะคะ อยากให้มาเจอ มาดูการแสดงของพวกเราค่ะ พวกเราพร้อมจะมอบความสนุก และความสุขให้ทุกคนนะคะ! และขอบคุณแฟนๆทุกคนที่คอยติดตามและอยู่เคียงข้างพวกเราเสมอมาด้วยค่ะ ส่วนผลงานเพลงของวง Siamdream ตอนนี้ก็ถึง 6 เพลงแล้วค่ะ ซึ่งเฟิร์นชอบทุกเพลงเลยค่ะ ยังไงก็ขอฝากผลงานทุกเพลงด้วยนะคะ เฟิร์นรู้สึกว่าเพลงของ Siam☆Dream สร้างมาเพื่อสื่อสารกับคนเชียร์โดยแท้จริงเลยค่ะ เพลงจึงสมบูรณ์แบบเมื่อประกอบกับเสียงเชียร์จากแฟนๆค่ะ ส่วนตัวเฟิร์นนะเต้นได้ดีขึ้นเมื่อมีจังหวะจากพวกเขาเลยค่ะ^0^

จบไปแล้วสัมภาษณ์บทความ น้องเฟิร์น จากวง Siam☆Dream เรียกว่าเต็มอิ่มและจุใจสำหรับคำถามเลยทีเดียว และสำหรับใครที่อยากรู้จักน้องเฟิร์นและสมาชิกของวงคนอื่นๆในวง Siam☆Dream ให้มากขึ้น สามารถไปกดติดตามได้ที่ SiamDream「サイアムドリーム」