บทความ
ทำ TESE คืออะไร? ทางออกของผู้ชายที่ไม่มีตัวอสุจิในน้ำเชื้อ

“ทำไมผลตรวจออกมาว่าไม่มีตัวอสุจิเลย ทั้งที่สุขภาพก็ดี?”
คำถามนี้เกิดขึ้นบ่อยกับคนไข้ชายที่กำลังวางแผนมีบุตร และมันไม่ใช่เรื่องแปลกหรือหายากอย่างที่หลายคนคิด “ไม่มีตัวอสุจิในน้ำเชื้อ” หรือ Azoospermia อาจเป็นผลจากหลายปัจจัย ทั้งแบบที่มีทางแก้ไขได้และแบบที่ซับซ้อนกว่านั้น หนึ่งในทางออกสำคัญที่วงการแพทย์ให้ความหวังกับคู่รักคือการทำ TESE
ทำความเข้าใจ Azoospermia: ไม่มีตัวอสุจิไม่ได้แปลว่าไม่มีหวัง
ในบางกรณี ผู้ชายอาจมีการสร้างอสุจิในอัณฑะได้ตามปกติ แต่ตัวอสุจิกลับไม่สามารถเดินทางออกมาพร้อมน้ำอสุจิได้ เนื่องจากท่อส่งอสุจิมีปัญหา (Obstructive Azoospermia) ขณะที่บางรายเป็นแบบที่อัณฑะไม่สามารถผลิตอสุจิได้เพียงพอ (Non-obstructive Azoospermia)
ทำ TESE (Testicular Sperm Extraction) คือวิธีการเจาะเก็บเนื้อเยื่อจากอัณฑะโดยตรง เพื่อตรวจหาและคัดแยกอสุจิ ซึ่งมักใช้ร่วมกับเทคนิคช่วยการเจริญพันธุ์อื่น เช่น ICSI (ฉีดอสุจิเข้าไข่)
ทำ TESE เหมาะกับใคร ?
- ผู้ที่ตรวจน้ำเชื้อแล้วพบว่าไม่มีตัวอสุจิเลย
- ผู้ที่เคยทำหมันแต่ต้องการมีบุตรอีกครั้ง
- ผู้ชายที่มีภาวะอัณฑะฝ่อแต่ยังมีโอกาสพอสมควรในการผลิตอสุจิ
- กรณีที่เคยรักษาโรคมะเร็งด้วยเคมีบำบัดหรือรังสีบำบัด แล้วพบว่าไม่มีตัวอสุจิหลงเหลือในน้ำเชื้อ
โดยทางการแพทย์จะประเมินอย่างรอบด้านก่อนแนะนำให้ ทำ TESE ทั้งจากการตรวจร่างกาย ฮอร์โมน การอัลตราซาวด์ และแม้กระทั่งการตรวจโครโมโซมในบางราย
ทำ TESE ไม่ใช่แค่เจาะแล้วจบ แต่ต้องใช้ทีมเฉพาะทางร่วมด้วย
ความสำเร็จของการทำ TESE ไม่ได้อยู่แค่ขั้นตอนการผ่าตัดเล็ก ๆ ในห้องผ่าตัด แต่มันคือการทำงานร่วมกันระหว่างทีมแพทย์เฉพาะทางด้านระบบสืบพันธุ์ชาย, นักวิทยาศาสตร์ที่เชี่ยวชาญการคัดแยกอสุจิระดับจุลภาค, ไปจนถึงทีมทำ ICSI ที่ต้องประสานเวลาให้แม่นยำที่สุด เพื่อเก็บไข่จากฝ่ายหญิงและเตรียมตัวอสุจิจากฝ่ายชายในช่วงเวลาที่เหมาะสม
ความหวัง vs ความเป็นจริง TESE ให้โอกาสแต่ไม่การันตี
หลายคนเข้าใจว่าทำ TESE แล้วจะได้อสุจิแน่นอน แต่ในความเป็นจริง แม้แต่ในศูนย์การแพทย์ชั้นนำ อัตราการเจออสุจิจาก TESE ในผู้ป่วย Non-obstructive Azoospermia อาจอยู่ที่ราว 30-50% เท่านั้น
ดังนั้นการเตรียมใจและเข้าใจผลลัพธ์ที่อาจเกิดขึ้น คือสิ่งสำคัญที่คนไข้และคู่รักควรพูดคุยกับแพทย์ก่อนตัดสินใจ
ทำ TESE ไม่ใช่จุดจบของการมีลูก หากยังไม่เจออสุจิ
ในกรณีที่ทำ TESE แล้วไม่พบตัวอสุจิเลย ยังมีทางเลือกอื่น เช่น การใช้อสุจิจากผู้บริจาค (donor sperm) หรือการพิจารณาแนวทางอื่นร่วมกับจิตแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านจริยธรรม
สิ่งสำคัญคือไม่ปล่อยให้ความผิดหวังกลายเป็นจุดสิ้นสุด เพราะปัจจุบันการมีบุตรมีหลายทางเลือกที่ยังคงอบอุ่นและมีคุณภาพชีวิตที่ดี
การทำ TESE ไม่ได้เป็นแค่ “การเจาะอัณฑะเพื่อหาอสุจิ” แต่มันคือกระบวนการที่เต็มไปด้วยความหวัง ความร่วมมือ และความละเอียดอ่อน ทั้งในเชิงเทคนิคและจิตใจ
หากคุณหรือคนใกล้ตัวกำลังเผชิญกับปัญหามีบุตรยาก อย่าลังเลที่จะเปิดใจพูดคุยกับแพทย์เฉพาะทาง เพราะในวันที่เทคโนโลยีการเจริญพันธุ์เดินหน้าไปไกล บางทีคำว่า “ไม่มีทางเลือก” อาจไม่ใช่ข้อสรุปสุดท้ายอีกต่อไป