ธุรกิจ
4 พฤติกรรมอันตราย ทำให้ค่าขนส่งบานปลายไม่รู้ตัว

รู้หรือไม่ว่าที่หลายธุรกิจไม่ต่อไม่ได้ อาจไม่ได้แปลว่าพวกเขาพลาดในการตั้งราคาขายหรือวางกลยุทธ์การตลาดเสมอไป แต่กลับสะดุดตรงต้นทุนค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้นมาทีละนิด แต่รวมกันแล้วกลืนกำไรไปอย่างน่าตกใจ
ลองคิดดูว่า ถ้ายอดขายดีแต่ต้นทุนขนส่งแอบเพิ่มทุกเดือน ยังไงกำไรก็ไม่งอก วันนี้ เราจึงมาชวนมอง 4 พฤติกรรมที่ทำให้ต้นทุนการขนส่งบานปลายโดยไม่รู้ตัว พร้อมแนะแนวทางปรับ เพื่อให้ค่าขนส่งกลายเป็นต้นทุนที่ควบคุมได้ ไม่ใช่ตัวป่วนกำไรเรื้อรัง
1. ส่งของเร็วไว้ก่อน แต่ไม่เคยเช็กว่าคุ้มมั้ย
หลายธุรกิจเลือกส่งแบบด่วนที่สุดไว้ก่อน เพราะกลัวลูกค้ารอนาน แต่ลืมถามตัวเองว่าสินค้าชนิดนี้จำเป็นต้องส่งด่วนขนาดนั้นจริงไหม โดยเฉพาะสินค้าที่ไม่ใช่ของเสียหายง่าย เช่น เสื้อผ้า ของตกแต่ง หรือเอกสารบางประเภท การเลือกขนส่งแบบ standard หรือ economy ช่วยลดต้นทุนต่อชิ้นได้หลักสิบบาท ซึ่งถ้าส่งหลักพันชิ้นต่อเดือนก็เซฟค่าขนส่งไปได้หลักหมื่น
ลองแบ่งหมวดหมู่สินค้าตามความจำเป็นในการจัดส่งด่วน แล้วเสนอให้ลูกค้าเลือกความเร็วด้วยตัวเอง พร้อมแสดงรายละเอียดค่าส่งอย่างชัดเจน เท่านี้ก็ช่วยคุณลดต้นทุนได้มหาศาลแล้ว
2. จัดเส้นทางรถส่งของแบบ “คุ้นเคย” มากกว่า “คุ้มทุน”
ธุรกิจที่มีรถขนส่งของตัวเอง มักใช้เส้นทางหรือรอบวิ่งที่ “เคยทำ” มากกว่า “ทำไมถึงควรทำแบบนั้น” ตัวอย่างเช่น รถวิ่งจากคลังไปส่งของวันละ 3 จุด ทั้งที่จุดหนึ่งอยู่คนละฝั่งเมือง ทำให้ต้องวิ่งวนเสียค่าน้ำมันและเวลามากเกินความจำเป็น
เปลี่ยนจากการใช้ความเคยชิน มาใช้เทคโนโลยีในการช่วยวางแผนเส้นทาง รวบรวมออเดอร์ที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกันไปส่งพร้อมกัน ประหยัดค่าน้ำมันได้ในระยะยาว
3. คิดแต่ราคาค่าขนส่งต่อครั้ง แต่ลืมคิดต้นทุนแฝง
เวลาต่อรองราคากับผู้ให้บริการ ผู้ประกอบการมักดูแค่ราคาส่งต่อชิ้น แต่ลืมดูว่ามีค่าใช้จ่ายแฝงไหม เช่น
- ค่ารีเทิร์นสินค้าที่ไม่ได้รวมในราคาหลัก
- ค่าชาร์จตามพื้นที่ห่างไกล
- ค่ารอโหลดสินค้าที่คิดรายนาที
ซึ่งต้นทุนแฝงเหล่านี้คือสิ่งที่พอกไปเรื่อย ๆ โดยไม่มีใครรู้ตัว ดังนั้น อย่าลืมขอ Rate Sheet ที่แสดงค่าใช้จ่ายทั้งหมดชัดเจน และ เปรียบเทียบจาก Total Delivery Cost ไม่ใช่แค่ราคาหน้าใบเสนอราคาเพียงอย่างเดียว
4. ไม่มีระบบติดตามต้นทุนขนส่งรายออเดอร์
ต้นทุนขนส่งที่วิเคราะห์แบบเหมารวมทั้งเดือน อาจทำให้มองไม่เห็นว่าออเดอร์ประเภทไหนที่ทำให้ต้นทุนพุ่ง เช่น ออเดอร์ส่งต่างจังหวัดชิ้นเดียว หรือลูกค้าที่ชอบสั่งด่วนบ่อยๆ ทั้งที่ยอดซื้อไม่มาก แนะนำให้ติดแท็กออเดอร์ตามประเภทและเส้นทาง และใช้ Dashboard ติดตามต้นทุนแบบ Real-Time แยกตามลูกค้า / พื้นที่ / วิธีจัดส่ง เพื่อบริหารค่าขนส่งให้ดีขึ้น
ค่าขนส่งไม่ใช่ต้นทุนคงที่ และไม่ควรจัดการด้วยความคุ้นเคย แต่ต้องคิดแบบเจ้าของกิจการที่มองเห็นทุกบาทของต้นทุนอย่างทะลุปรุโปร่ง
ลองกลับไปเช็กว่า 4 พฤติกรรมนี้เกิดขึ้นในธุรกิจคุณหรือไม่ เพราะบางทีแค่ปรับเล็กน้อย อาจเพิ่มกำไรได้มากกว่าทำโปรโมชันเสียอีก