บทความ
5 คำถามพบบ่อย อ่านก่อนทำรากฟันเทียม
การสูญเสียฟันเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อทั้งสุขภาพช่องปากและความมั่นใจในการยิ้ม รากฟันเทียมจึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่ได้รับความนิยมในการแก้ไขปัญหานี้ แต่ก่อนตัดสินใจทำรากฟันเทียม หลายคนมักมีคำถามมากมายในใจ วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจเกี่ยวกับรากฟันเทียมด้วยคำถามที่พบบ่อย 5 ข้อ เพื่อให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจมากขึ้น

1. รากฟันเทียมคืออะไร และทำไมต้องทำ ?
รากฟันเทียม คือ การใช้หมุดหรือเกลียวที่ทำจากไทเทเนียม ซึ่งเป็นโลหะที่มีความแข็งแรงและเข้ากันได้ดีกับกระดูก ฝังลงไปในกระดูกขากรรไกร โดยรากฟันเทียมจะทำหน้าที่เหมือนรากฟันธรรมชาติ โดยจะยึดฟันปลอมชิ้นบนไว้ ทำให้ฟันปลอมมีความแข็งแรงและใช้งานได้เหมือนฟันจริง
เหตุผลที่ควรทำรากฟันเทียม
- เสริมความแข็งแรงให้ฟันปลอม: รากฟันเทียมจะยึดฟันปลอมให้แน่น ทำให้การเคี้ยวอาหารเป็นไปได้อย่างสะดวกและมั่นใจ
- ป้องกันการเสื่อมของกระดูก: เมื่อสูญเสียฟัน กระดูกขากรรไกรจะค่อยๆ เสื่อมลง การทำรากฟันเทียมจะช่วยรักษากระดูกให้แข็งแรง
- เพิ่มความมั่นใจในการยิ้ม: ฟันปลอมที่ยึดติดกับรากฟันเทียมจะดูเป็นธรรมชาติและช่วยให้คุณยิ้มได้อย่างมั่นใจขึ้น
- การดูแลรักษาที่ง่าย: การดูแลรักษารากฟันเทียมทำได้ง่ายเหมือนกับการดูแลฟันธรรมชาติ
2. การทำรากฟันเทียมเจ็บไหม ?
หลายคนกังวลเรื่องความเจ็บปวดในการใส่รากฟันเทียม แต่ไม่ต้องกังวลใจไป เพราะก่อนทำการรักษา ทันตแพทย์จะให้ยาชาเพื่อลดความรู้สึกเจ็บปวด และหลังการรักษา อาจมีอาการปวดเล็กน้อย ซึ่งสามารถบรรเทาได้ด้วยยาแก้ปวด
3. การทำรากฟันเทียมใช้เวลานานแค่ไหน?
ระยะเวลาในการใส่รากฟันเทียมขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น จำนวนฟันที่ต้องทำ สภาพของกระดูกขากรรไกร และความซับซ้อนของเคส โดยทั่วไป กระบวนการทั้งหมดอาจใช้เวลาหลายเดือน แต่ผลลัพธ์ที่ได้คุ้มค่ากับการรอคอยอย่างแน่นอน
4. รากฟันเทียมอยู่ได้นานแค่ไหน ?
รากฟันเทียมมีความทนทานและสามารถใช้งานได้นานหลายปี หากดูแลรักษาอย่างถูกวิธี รากฟันเทียมก็อาจสามารถใช้งานได้ตลอดชีวิตเลยทีเดียว
5. การดูแลรักษารากฟันเทียมทำอย่างไร ?
การดูแลรักษารากฟันเทียมทำได้ง่ายเหมือนกับการดูแลฟันธรรมชาติ เพียงแค่แปรงฟันอย่างสม่ำเสมอ ใช้ไหมขัดฟัน และไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากเป็นประจำ
การทำรากฟันเทียมเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่สูญเสียฟัน และเป็นการลงทุนระยะยาวเพื่อสุขภาพช่องปากที่ดี หากคุณกำลังพิจารณาการใส่รากฟันเทียม ควรปรึกษาทันตแพทย์เพื่อประเมินสภาพช่องปากและวางแผนการรักษาที่เหมาะสม
