Connect with us

บทความ

วิธีรักษาแผลเบาหวาน ดูแลถูกวิธี มีโอกาสดีขึ้นได้

Published

on

แผลเบาหวาน เป็นหนึ่งในภาวะแทรกซ้อนที่น่ากลัวที่สุดของโรคเบาหวาน โดยเฉพาะสำหรับผู้ป่วยที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ไม่ดีพอ แผลเหล่านี้มักเกิดขึ้นที่เท้าและขา เนื่องจากผู้ป่วยเบาหวานมีระบบประสาทและหลอดเลือดส่วนปลายทำงานผิดปกติ ทำให้รู้สึกเจ็บน้อย หรือบางครั้งอาจรู้สึกชา จึงไม่รู้ตัวว่ามีแผล และไม่ให้ความสำคัญกับวิธีรักษาแผลเบาหวานอย่างถูกต้อง เมื่อรู้ตัวอีกที แผลอาจลุกลามกลายเป็นแผลเรื้อรังที่รักษายาก และอาจนำไปสู่การตัดอวัยวะในที่สุด

ทำไมแผลเบาหวานถึงหายยาก ?

ก่อนจะไปดูวิธีรักษาแผลเบาหวานอย่างถูกต้อง หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าทำไมแผลเบาหวานจึงหายช้าและเป็นอันตราย ซึ่งปัจจัยที่ส่งผลให้แผลเบาหวานหายอยาก ได้แก่

  • การไหลเวียนเลือดไม่ดี: การมีน้ำตาลในเลือดสูงเป็นระยะเวลานานจะทำให้อวัยวะต่าง ๆ รวมถึงหลอดเลือดเสียหาย ทำให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงแผลได้ไม่ดี จึงทำให้แผลหายช้า
  • ระบบภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ: น้ำตาลในเลือดสูงยังส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้อโรคได้ไม่ดีพอ แบคทีเรียจึงเข้าไปทำลายแผลได้ง่าย
  • เส้นประสาทเสื่อม: ผู้ป่วยเบาหวานมักมีอาการชาที่เท้าและขา ทำให้ไม่รู้สึกเจ็บเมื่อเกิดแผล จึงไม่รู้ตัวและปล่อยให้แผลลุกลาม

วิธีรักษาแผลเบาหวานโดยทั่วไป

วิธีรักษาแผลเบาหวานนั้นขึ้นอยู่กับความรุนแรงของแผล โดยส่วนใหญ่ นิยมใช้วิธีการดังต่อไปนี้

  • ทำความสะอาดแผล: แพทย์จะทำความสะอาดแผลอย่างสม่ำเสมอ เพื่อขจัดสิ่งสกปรกและเชื้อโรค
  • ใช้ยาปฏิชีวนะ: หากแผลติดเชื้อ แพทย์จะสั่งยาปฏิชีวนะเพื่อกำจัดเชื้อแบคทีเรีย
  • ปิดแผล: แพทย์อาจใช้ผ้าพันแผลหรือวัสดุอื่นๆ เพื่อปิดแผลและป้องกันการติดเชื้อ
  • การผ่าตัด: ในกรณีที่แผลลุกลามรุนแรง อาจจำเป็นต้องผ่าตัดเพื่อเอาเนื้อตายออก หรือทำการรักษาหลอดเลือด นอกจากการรักษาจากแพทย์แล้ว ผู้ป่วยเองก็ต้องมีส่วนร่วมในการดูแลแผลที่บ้านด้วยเช่นกัน โดยปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เช่น
  • ใช้สบู่และน้ำอุ่นทำความสะอาดแผลเบา ๆ แล้วเช็ดให้แห้ง
  • เปลี่ยนผ้าพันแผลอย่างสม่ำเสมอ
  • สังเกตอาการของแผลอย่างใกล้ชิด หากมีอาการบวม แดง ร้อน หรือมีหนองไหลออกจากแผล ควรรีบแจ้งแพทย์
  • ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
  • ล้างเท้าทุกวันด้วยน้ำอุ่นและสบู่ ตรวจสอบเท้าหาแผลเป็นประจำ

สัญญาณเตือนของแผลเบาหวานมักเริ่มต้นจาก แผลเล็ก ๆ เช่น รอยถลอก รอยแตก หรือแผลจากการเสียดสี ที่ไม่หายภายใน 2 สัปดาห์ ส่งผลให้ผิวหนังบริเวณนั้นเปลี่ยนสี รวมทั้งอาจรู้สึกเจ็บปวด หรือชาที่เท้าหรือขา ซึ่งหากพบว่าตัวเองมีอาการดังนี้ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับคำแนะนำวิธีรักษาแผลเบาหวานอย่างถูกต้องโดยด่วน เพื่อลดความเสี่ยงแผลลุกลามจนต้องสูญเสียอวัยวะนั่นเอง

Continue Reading
Advertisement