ข่าว
ก้งชวน ชุมชนที่เคยถูกขนานนามว่า “หมู่บ้านว่างเปล่า” สู่แหล่งท่องเที่ยวที่กว่างซี พลิกโฉมพัฒนา จนดึงดูดนักท่องเที่ยวสร้างรายได้หลักสิบล้านต่อปี
สำนักข่าวบริคอินโฟ – หมู่บ้านก้งชวน (Gongchuan Village) ในชนเผ่าเหยา เมืองเหอฉือ (Hechi) เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง (Guangxi Zhuang Autonomous Region) ที่เคยถูกเรียกว่า “หมู่บ้านว่างเปล่า” เนื่องจากมีเยาวชนออกไปทำงานต่างถิ่นจำนวนมาก ได้พลิกโฉมกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังในท้องถิ่น ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมหาศาล และสร้างรายได้หลักล้านจากการพัฒนาการท่องเที่ยวชนบท โดยในปี 2567 ที่ผ่านมา บริเวณสถานที่ท่องเที่ยวอ่าวฉิงเหริน (Qingren Wan Tourist Area) ของหมู่บ้านนี้สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากกว่า 80,000 คน และมีรายได้ต่อปีมากกว่า 2 ล้านหยวน (ประมาณ 10 ล้านบาทไทย)


ปัจจุบัน ก้งชวน ได้ใช้โอกาสจากการพัฒนาการท่องเที่ยวชนบทอย่างเต็มที่ และกลายเป็นจุดเช็คอินที่ได้รับความนิยมอย่างสูง โดยเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายนที่ผ่านมา China News Services สาขากว่างซี ได้นำชมสถานที่ท้องถิ่นผ่านกิจกรรม “กลองและทะเลเพลง ความงามของเหอฉือ – สื่อต่างชาติเยี่ยมชมเหอฉือปี 2025” ชมและสัมผัสมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ในเขตท่องเที่ยวอ่าวฉิงเหริน ซึ่งมีกลุ่มผู้สื่อข่าวจากต่างประเทศ ทั้งจากไทย – สำนักข่าวบริคอินโฟ , สปป.ลาว , มาเลเซีย , เมียนมา และประเทศอาเซียน มาสัมผัสวัฒนธรรมอย่างใกล้ชิดกับชาวเหยา ทั้งการทดลองตีกลองทองแดง , สวมใส่ชุดพื้นถิ่น , เล่นกิจกรรมพื้นบ้าน และเต้นรำไปตามจังหวะกลองอย่างสนุกสนาน

ลู่ เหล่ย (Lu Lei) ผู้จัดการเขตท่องเที่ยวอ่าวฉิงเหริน ก้งชวน ของบริษัทต้าฮว่าเฉวียนอวี้หนงหลู่ฉ่านเย่โถวซือ (Dahua Quanyu Nonglv Chanye Touzi Co., Ltd.) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบริษัทต้าฮว่าเหวินหลู่โถวซือ (Dahua Wenlv Touzi Co., Ltd.) เปิดเผยว่า โครงการท่องเที่ยวดังกล่าวในหมู่บ้านแห่งนี้มีแผนการลงทุนรวม 70 ล้านหยวน (ราว 310 ล้านบาท) ซึ่งขณะนี้การก่อสร้างดำเนินการไปแล้วกว่าครึ่งหนึ่ง เพื่อเพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้กับนักท่องเที่ยว ภายในบริเวณได้จัดเตรียมห้องพักแนวแคมป์ปิ้งที่มีเอกลักษณ์ 54 ห้อง พร้อมด้วยศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ร้านดอกไม้หัตถกรรม ลานพักผ่อน และท่าเรือสำหรับล่องเรือ นอกจากนี้ ยังได้มีการสร้างสวนกีฬาทางน้ำ สนามประลองยิงปืน (Real CS) และทางเดินชมทิวทัศน์ เพื่อเสริมสร้างประเภทของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในท้องถิ่นให้มีความหลากหลายยิ่งขึ้น

ลู่ เหล่ย กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงวันหยุดวันชาติจีนปีนี้ ที่พักในเขตท่องเที่ยวเต็มทั้งหมด โดยมีจำนวนนักท่องเที่ยวเฉลี่ยต่อวันสูงถึงกว่า 10,000 คน
“ในช่วงฤดูร้อน เราเน้นกิจกรรมทางน้ำ โดยเฉพาะกิจกรรมเจ็ตสกี แพดเดิลบอร์ด และเรือคายัค ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก” ลู่ เหล่ย (Lu Lei) ผู้จัดการเขตท่องเที่ยวอ่าวฉิงเหริน ก้งชวน
ลู่ เหล่ย เสริมว่า ทางเขตท่องเที่ยวยังมีแผนที่จะเชิญนักกีฬาเจ็ตเซิร์ฟระดับประเทศมาฝึกอบรมให้กับเจ้าหน้าที่ เพื่อพัฒนาโครงการและบริการการเล่นน้ำที่เกี่ยวข้องในอนาคต และจะร่วมมือกับสถาบันการศึกษาขนาดใหญ่ในกว่างซีเพื่อจัดกิจกรรมทัศนศึกษาด้วย


เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มากยิ่งขึ้น เขตท่องเที่ยวแห่งนี้ได้จัดกิจกรรมตามเทศกาลที่เชื่อมโยงกับวัฒนธรรมท้องถิ่น โดยในเทศกาลวันชีซี (Qixi Festival) ปีนี้ ได้มีการจัดพิธีแต่งงานหมู่ของชนเผ่าปู้หนูเหยา (Bunu Yao) ซึ่งดึงดูดผู้เข้าร่วมกว่า 300 คน
- ในช่วงกลางวัน ชาวบ้านและนักท่องเที่ยวได้ร่วมรับประทานอาหารพื้นเมืองของชนเผ่าเหยาบนโต๊ะยาว
- ส่วนในตอนกลางคืนมีการเต้นรำ “ระบำกลองทองแดง” และ “ระบำกลองลิง” รอบกองไฟ ท่ามกลางบรรยากาศที่อบอุ่นและคึกคัก
หลาน ตี๋ (Lan Di) ผู้ดูแลเขต “ฉิงเหรินวาน อวี้เจี้ยน ฉือกวง” กล่าวว่า “การแต่งงานที่มีเอกลักษณ์ของชนเผ่าปู้หนูเหยาครั้งนี้ ไม่เพียงแต่ทำให้นักท่องเที่ยวสัมผัสถึงวัฒนธรรมท้องถิ่นที่มีเสน่ห์ แต่ยังทำให้มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของท้องถิ่น ‘กลับมามีชีวิตชีวา’ อีกครั้งด้วย”


เหวย จินเถี่ย (Wei Jintie) หัวหน้าทีมกิจกรรมที่ 3 ของหมู่บ้านเซียหลิว (Xialiu Village) เปิดเผยว่า การก่อสร้างเขตท่องเที่ยวนี้นำมาซึ่งตำแหน่งงานจำนวนมากให้กับชาวบ้านในท้องถิ่น และชาวบ้านบางส่วนยังได้ร่วมลงทุนในเขตท่องเที่ยวด้วยที่ดินและบ้านเรือน
“ในปี 2567 ชาวบ้านกว่า 30 ครัวเรือนที่ร่วมลงทุนได้รับเงินปันผลเฉลี่ยมากกว่า 10,000 หยวนต่อคน” เหวย จินเถี่ย (Wei Jintie) กล่าว
เหวย จินเถี่ย ยังกล่าวอีกว่า การพัฒนาเขตท่องเที่ยวนอกจากจะเพิ่มช่องทางสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านแล้ว ยังช่วยปรับปรุงสภาพแวดล้อมของหมู่บ้านให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
“จากเดิมที่เคยมีแต่หญ้าขึ้นรก ตอนนี้กลายเป็นสนามหญ้าสีเขียว และถนนที่เคยสลัวในตอนกลางคืนก็ติดตั้งไฟถนนพลังงานแสงอาทิตย์แล้ว”
เขาชวนคณะผู้สื่อข่าวย้อนรำลึกว่า ก่อนหน้านี้ หมู่บ้านเซียหลิว ซึ่งมีประชากร 428 คน เหลือเพียงผู้สูงอายุ เด็ก และผู้เจ็บป่วยประมาณ 70 กว่าคน เนื่องจากเยาวชนส่วนใหญ่ออกไปทำงานนอกพื้นที่


“การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่การท่องเที่ยวได้นำมาสู่หมู่บ้านของเรา คือการมีผู้คนคึกคักมากขึ้น และเยาวชนก็ค่อย ๆ ‘ไหลกลับ’ โดยมีคนที่กลับมาเปิดโฮมสเตย์และร้านอาหารเพิ่มมากขึ้น” เหวย จินเถี่ย (Wei Jintie) กล่าว
เหวย เจี้ยน (Wei Jian) ชาวบ้านในท้องถิ่นเล่าว่า ในปี 2544 เขาตัดสินใจกลับบ้านเกิดหลังจากออกไปทำงานต่างถิ่น เขาได้ปรับปรุงบ้านของตนเองให้เป็นโฮมสเตย์ จัดแต่งสวน และสร้างกระท่อมเล็ก ๆ เพื่อเปิดร้านอาหารบริการอาหารท้องถิ่น เช่น ปลาแม่น้ำหงสุ่ยเหอ (Hongshui River Fish)
“ในช่วงวันหยุดยาว ที่พักเต็มตลอด และร้านอาหารมีรายได้เฉลี่ยต่อวัน 2,000-3,000 หยวน ผมมองเห็นอนาคตที่ดีของโครงการท่องเที่ยวในหมู่บ้านนี้ และมีแผนจะเปิดโฮมสเตย์เพิ่มอีกสองสามห้อง”
