ทำไมรถยุคใหม่ ไม่ค่อยมีมาสคอตเหล็กหน้ารถ เหมือนรถจากัวร์สมัยก่อน ?

สำนักข่าวบริคอินโฟ – กว่าศตวรรษที่ผ่านมา เครื่องประดับฝากระโปรงรถยนต์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ “car mascots” เริ่มต้นจากการเป็นสิ่งที่ใช้ตกแต่งเพื่อซ่อนฝาหม้อน้ำที่ไม่สวยงามในรถยนต์รุ่นเก่า อย่างไรก็ตาม จากจุดเริ่มต้นที่เป็นเพียงเครื่องประดับ สัญลักษณ์เหล่านี้กลับกลายเป็นประเด็นด้านความปลอดภัยและเป้าหมายของการโจรกรรมในเวลาต่อมา

ในอดีต รถยนต์ส่วนใหญ่ไม่มีมาตรวัดอุณหภูมิน้ำหล่อเย็น ทำให้บริษัทแห่งหนึ่งคิดค้น Moto-Meter ซึ่งเป็นมาตรวัดอุณหภูมิที่ติดตั้งบนฝาหม้อน้ำ แม้ว่าต่อมาผู้ผลิตรถยนต์จะเริ่มติดตั้งมาตรวัดอุณหภูมิภายในรถแล้ว แต่ เครื่องประดับฝากระโปรง ยังคงอยู่กับบางยี่ห้อ เช่น Rolls-Royce และ Bentley ในปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม พิพิธภัณฑ์ยานยนต์ Auburn Cord Duesenberg ในเมืองออเบิร์น รัฐอินเดียนา ระบุว่า ในช่วงทศวรรษ 1960 ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยเริ่มพิจารณาว่า เครื่องประดับฝากระโปรง เป็นอันตรายที่อาจเกิดขึ้นในขณะเกิดอุบัติเหตุ เช่น การลดอัตราการรอดชีวิตจากการที่ เครื่องประดับฝากระโปรงรถยนต์ ชนเข้ากับผู้ใช้ทางเท้าช่วงอุบัติเหตุ

การออกแบบรถยนต์ในยุคนั้นจึงเริ่มละทิ้ง เครื่องประดับฝากระโปรง ไป เช่น Mustang, Corvette, Camaro หรือ Plymouth Superbird เนื่องจากรถยนต์มีความเร็วสูงขึ้น ผู้ผลิตจึงตระหนักว่าสิ่งใดก็ตามที่เพิ่มแรงต้านอากาศและส่งผลต่อประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงถือเป็นข้อเสีย เครื่องประดับฝากระโปรง ที่มีลักษณะเฉพาะ เช่น รูปหมีของ Bugatti หรือ Spirit of Ecstasy ของ Rolls-Royce จึงส่งผลต่อหลักอากาศพลศาสตร์ของรถอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา เครื่องประดับฝากระโปรง Jaguar ค่อยๆ หายไปจากหลายสาเหตุ ประการแรก ฝาหม้อน้ำได้รับการออกแบบใหม่ให้อยู่ด้านใน ทำให้ไม่จำเป็นต้องมี เครื่องประดับฝากระโปรง Jaguar อีกต่อไป นอกจากนี้ ความนิยมของผู้บริโภคในรถยนต์ก็เปลี่ยนแปลงไป ทำให้ เครื่องประดับฝากระโปรง กลายเป็นสิ่งที่ไม่ทันสมัย

อีกปัจจัยสำคัญคือความเสี่ยงจากการถูกโจรกรรม ผู้คนต้องการ เครื่องประดับฝากระโปรง มาเป็นของตนเองแต่ไม่อยากเสียเงินซื้อ ทำให้เกิดการโจรกรรมบ่อยครั้ง เพื่อหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนและติดตั้งใหม่ ผู้ขับขี่บางรายจึงเลิกซื้อ เครื่องประดับฝากระโปรง ไป

นอกจากนี้ กฎระเบียบด้านยานยนต์ในยุโรปมีการเปลี่ยนแปลง โดยมีการยกเลิก เครื่องประดับฝากระโปรง เนื่องจากเป็นความเสี่ยงต่อคนเดินถนนที่อาจถูกชน สำนักงานบริหารความปลอดภัยบนทางหลวงแห่งชาติของสหรัฐฯ (National Highway Traffic Safety Administration – NHTSA) รายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากการเดินเท้าเพิ่มขึ้น 57 เปอร์เซ็นต์ จาก 4,779 ราย เป็น 7,522 ราย ระหว่างปี 2013 ถึง 2022 ในเดือนกันยายน 2024 หน่วยงานดังกล่าวได้เสนอหลักเกณฑ์ใหม่ที่ “จะกำหนดขั้นตอนการทดสอบการจำลองการชนศีรษะกับฝากระโปรง และข้อกำหนดด้านประสิทธิภาพเพื่อลดความเสี่ยงของการบาดเจ็บที่ศีรษะ” รูปปั้นที่ยื่นออกมา เช่น “Leaper” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ Jaguar อาจกลายเป็นเหมือนหอกในการชนกับคนเดินเท้า แม้ว่าจะยังไม่มีสถิติที่ชัดเจนเกี่ยวกับอุบัติเหตุที่เกิดจาก เครื่องประดับฝากระโปรง โดยตรงก็ตาม

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกบริษัทรถยนต์ที่ยกเลิกสัญลักษณ์บนฝากระโปรงในช่วงทศวรรษ 1960 Cadillac ยังคงใช้สัญลักษณ์รูปวงกลมบนฝากระโปรงในรถยนต์บางรุ่นจนถึงต้นปี 2000 โดยปฏิบัติตามกฎหมายที่กำหนดให้ชิ้นส่วนดังกล่าวต้องงอได้เมื่อเกิดการชน น่าเสียดายที่ เครื่องประดับฝากระโปรง Cadillac และ Mercedes-Benz มักถูกโจรกรรมบ่อยครั้ง และนักร้องแร็ปชื่อดังบางคน (เช่น Rick Ross) นำไปสวมใส่เป็นเครื่องประดับคอแทน ส่วน Rolls-Royce และ Bentley แก้ไขปัญหาการถูกทำลายและการโจรกรรม รวมถึงความเสี่ยงด้านความปลอดภัย ด้วยกลไกที่น่าสนใจ โดยสัญลักษณ์ของพวกเขาจะหายเข้าไปในช่องพิเศษด้านหน้าฝากระโปรงด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์