Connect with us

ข่าว

นายกฯ สั่งการเร่งจัดการปัญหาไฟป่าและการเผาอย่างเด็ดขาดให้จุดความร้อนต้องเป็น 0 ภายในสัปดาห์นี้

“พลตรีจิรเดช” รองแม่ทัพภาค 3 ติดตามสถานการณ์หมอกควันไฟป่า 17 จังหวัดภาคเหนือ หลังนายกรัฐมนตรีสั่งการเร่งจัดการปัญหาไฟป่าและการเผาอย่างเด็ดขาดให้จุดความร้อนต้องเป็น 0 ภายในสัปดาห์นี้

Published

on

ผู้สื่อข่าว : ทรงวุฒิ ทับทอง ผู้สื่อข่าวเชียงใหม่ 
เรียบเรียง : กองบรรณาธิการ Brickinfo

วันที่ 2 เมษายน 2563 เวลา 09.00 น. พลตรีจิรเดช กมลเพ็ชร รองแม่ทัพภาคที่ 3 ในฐานะผู้บัญชาการกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า เป็นประธานการประชุมทางไกลผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ กับหัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานที่รับผิดชอบในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ เพื่อติดตามการดำเนินงานแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ณ สโมสรกาวิละค่ายกาวิละ มณฑลทหารบกที่ 33 จังหวัดเชียงใหม่ โดยได้มีการนำข้อสั่งการจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นรม. และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งสั่งการให้ 17 จังหวัดภาคเหนือ เร่งจัดการปัญหาไฟป่าและการเผาอย่างเด็ดขาดโดยให้จุดความร้อนหรือ Hotspot ต้องเป็น 0 ภายในสัปดาห์นี้

ด้าน นายคมสัน สุวรรณอัมพา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ประชุมศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมทางไกลกับ 5 อำเภอ ที่มีจำนวนจุดความร้อน (Hotspot) เกิดขึ้นมากที่สุดในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่ อำเภอแม่แจ่ม สะเมิง อมก๋อย แม่แตง และเชียงดาว เพื่อติดตามสถานการณ์ ซึ่งพบว่าส่วนใหญ่เป็นพื้นภูเขาสูงชันยากต่อการเข้าถึง โดยได้ประเมินสถานการณ์ร่วมกัน ประกอบกับพิจารณาให้การสนับสนุน ทั้งด้าน กำลังพล อุปกรณ์ดับไฟ และอากาศยานในการดับไฟป่า ซึ่งได้เน้นย้ำอำเภอเรื่องการพิจารณาสถานการณ์ภายใน 24 ชั่วโมง เพื่อขอรับการสนับสนุนอย่างเร่งด่วน ทั้งปัญหาสถานการณ์ไฟรุนแรง การเข้าถึงสถานที่ที่ยากลำบาก เพื่อที่จะขอรับความช่วยเหลือจากอากาศยาน ขอให้ประเมินและรีบแจ้งโดยเร็ว

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้มีการติดตามสถานการณ์ไฟป่าอย่างใกล้ชิด รับฟังปัญหาอุปสรรค และร่วมกันพิจารณาแก้ไขปัญหา จึงได้สั่งการให้มีการประชุมวีดีทัศน์ทางไกล (Video Conference) โดยให้ 5 อำเภอ ที่มีจุดความร้อน(Hotspot) เป็นจำนวนมากที่สุด ประชุมผ่านระบบร่วมกัน ในเวลา 08.30 น. ของทุกวันหรือจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย ณ ศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จังหวัดเชียงใหม่

ทางด้านพล.ต.จิรเดช กมลเพ็ชร รองผู้บัญชาการกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า ประธาน การประชุม VTC เพื่อติดตามสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รองผู้บัญชาการกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า กล่าวว่า จากข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี กองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้าได้ขอความร่วมมือจาก 17 จังหวัดภาคเหนือเพื่อเพิ่มความเข้มข้นของการลาดตระเวน ป้องปรามการเกิดไฟป่าในทุกพื้นที่ โดยบูรณาการการทำงานของทุกส่วนราชการ ทั้งนี้หากพิ้นที่ไหนภาคพื้นไม่สามารถเขาดับไฟได้ ขอให้ขอรับการสนับสนุนอากาศยานมาที่กองบัญชาการฯ เพื่อร่วมกันวางแผนเข้าควบคุมพื้นที่ให้เร็วที่สุดก่อนไฟจะลุกลามก่อให้เกิดความเสียหายในวงกว้าง

ในส่วนของการแบ่งพื้นที่ปฏิบัติการภาคอากาศ หน่วยบินกระทรวงทรัพย์ ร่วมกับหน่วยบินกรมฝนหลวง จำนวน 1 ลำ ปฏิบัติงานที่ อำเภอสะเมิง เฮลิคอปเตอร์ MI-17 ของกองทัพบก ปฏิบัติงานที่ อำเภอเชียงดาว และเฮลิคอปเตอร์จากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย KA-32 ปฏิบัติงานที่ อำเภอแม่ออน พร้อมทั้งเตรียมการเฝ้าระวังอยู่ที่บริเวณดอยสุเทพโดยรอบ ด้านอากาศยานไร้คนขับหรือยูเอวี (Unmanned Aerial Vehicle: UAV) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกองทัพอากาศนั้น ขณะนี้ได้ดำเนินการติดตั้งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะมีการทดลองขึ้นบินในช่วงบ่ายของวันนี้ และเริ่มปฏิบัติการจริงในวันพรุ่งนี้ (3 เม.ย. 63)

ทั้งนี้ในช่วงบ่ายของวันนี้ พล.ต.จิรเดช กมลเพ็ชร รองผู้บัญชาการกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า พร้อม พล.ต.ถนัดพล โกศัยเสวีย์ ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง เตรียมขึ้น ฮ.ท.212 เพื่อลาดตระเวน และเข้าตรวจสอบเขตรอยต่อของจังหวัดเชียงใหม่และเชียงรายในการเพิ่มความเข้มข้นการลาดตระเวนจุดที่มีความเสี่ยงระหว่างจังหวัดต่อไป.

Advertisement
Continue Reading
Advertisement