ข่าว
Ericsson มองคลื่น 850 MHz ไม่มีคนประมูลอาจเป็นเพราะเรื่องความคุ้มทุน พร้อมเผยแพร่รายงาน Mobility Report 2025 พบผู้ใช้จะโตแตะ 6.3 พันล้านรายในปี 2030
สำนักข่าวบริคอินโฟ – อีริคสัน ประเทศไทย (Ericsson Thailand) เปิดเผยรายงาน Ericsson Mobility Report 2025 ฉบับเดือนมิถุนายน ระบุว่า เทคโนโลยี 5G ในประเทศไทยได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันแล้ว แม้ว่าความครอบคลุมของเครือข่ายจะสูงถึง 95% ของพื้นที่ประชากร แต่จำนวนผู้ใช้งานแพ็กเกจ 5G ยังคงอยู่ในระดับต่ำเพียง 25% ซึ่งนับว่าไทยยังคงเป็นผู้นำในภูมิภาคนี้ เมื่อเทียบกับประเทศที่การประมูลคลื่นความถี่มีความล่าช้า อย่างไรก็ตาม การบริโภคคอนเทนต์ของคนไทยที่สูงขึ้น ถือเป็นความท้าทายสำหรับผู้ให้บริการในการปรับตัวและสร้างรายได้จากแอปพลิเคชันใหม่ ๆ

รายงานของ อีริคสัน ระบุว่า ในไตรมาสแรกของปี 2025 มีผู้ใช้งาน 5G ทั่วโลกแล้ว 2,400 ล้านคน และคาดการณ์ว่าในปี 2027 จำนวนผู้ใช้งาน 5G จะแซงหน้า 4G ก่อนที่จะเห็นการใช้งาน 6G มากขึ้นในปี 2030 นอกจากนี้ ปริมาณการใช้ดาต้าบนเครือข่ายมือถือทั่วโลกยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มขึ้น 19% จากไตรมาสแรกของปี 2024 แม้อัตราการเติบโตจะลดลง แต่คาดการณ์ว่ายอดการใช้ดาต้ามือถือจะเพิ่มขึ้นกว่าสองเท่าภายในปี 2030
- ย้อนอ่าน : เปิดประวัติ แอนเดอร์ส เรียน (Anders Rian) ประธานบริษัท Ericsson ประเทศไทย คนใหม่
- ย้อนอ่าน : อีริคสัน ไทย เผย จากปี 2024 ในอีก 5 ปี ยอดผู้ใช้ 5G จะเติบโตต่อเนื่อง พร้อมช่วยองค์กรดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน
- อ่าน : ทูตสวีเดนเยี่ยมชม 5G Studio ของอีริคสัน กระชับสัมพันธ์ไทย-สวีเดน
คลื่น 850 MHz ไม่มีคนประมูลอาจเป็นเพราะเรื่องความคุ้มทุน
นายแอนเดอร์ส เรียน (Anders Rian) ประธานบริษัท อีริคสัน ประเทศไทย แสดงความคิดเห็นถึงการประมูลคลื่น 850 MHz ที่ไม่มีผู้เข้าร่วมว่า อาจเป็นเพราะความคุ้มค่าทางธุรกิจ เนื่องจากผู้ให้บริการมีคลื่น 700 และ 900 MHz อยู่แล้ว และในอนาคตจะมีการยุติการใช้งาน 3G สำหรับประเทศไทยจึงอยู่ในตำแหน่งที่อาจไม่คุ้มทุน ในขณะที่ประเทศอย่างออสเตรเลียยังมีการใช้งานอยู่บ้าง
นอกจากนี้ การพัฒนา 5G Standalone (SA) ที่เพิ่มขึ้น จะเป็นรากฐานสำคัญสำหรับการใช้งานใหม่ ๆ ทั้งในภาคธุรกิจและผู้บริโภค เนื่องจากอุปกรณ์ Generative AI (GenAI) และแอปพลิเคชัน AI มีความซับซ้อนมากขึ้น ผู้ให้บริการแอปพลิเคชันและผู้ให้บริการด้านการสื่อสารจึงต้องให้ความสำคัญกับความสามารถในการอัปลิงก์ (Uplink) และระยะเวลาแฝงในการรับ-ส่งข้อมูล (Latency) มากขึ้น Ericsson Mobility Report ยังกล่าวถึงนวัตกรรม 5G อื่น ๆ นอกเหนือจาก GenAI เช่น แว่นตาอัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วย AI และการนำ Differentiated Connectivity มาใช้ในแอปพลิเคชันใหม่ ๆ ซึ่งจะเป็นกุญแจสำคัญในการมอบประสบการณ์คุณภาพสูงให้ผู้ใช้งาน

เมื่อสิ้นปี 2024 เครือข่าย 5G รองรับการใช้ดาต้าเน็ตมือถือทั่วโลกถึง 35% และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเกินกว่า 80% ภายในสิ้นปี 2030 สำหรับประเทศไทย เครือข่าย 5G เป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนการบริโภคข้อมูลและการเพิ่มรายได้เฉลี่ยต่อผู้ใช้งาน (ARPU) โดยนายแอนเดอร์ส เรียน กล่าวว่า “เราอยู่ในจุดเปลี่ยนสำคัญ ที่เครือข่าย 5G และระบบนิเวศมีความพร้อมที่จะปลดปล่อยคลื่นแห่งนวัตกรรม ด้วยความก้าวหน้าของเครือข่าย 5G Standalone (SA) ประกอบกับพัฒนาการในอุปกรณ์ที่รองรับ 5G ได้นำไปสู่ระบบนิเวศที่พร้อมสำหรับการปลดล็อกโอกาสเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ ในการเชื่อมต่อไอเดียสร้างสรรค์ และเพื่อให้ 5G ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ สิ่งสำคัญที่จะต้องดำเนินการคือการนำเครือข่าย 5G SA มาใช้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสร้างฐานย่านความถี่ Mid-Band เพิ่มเติม”

อีริคสัน ประเทศไทย มุ่งมั่นที่จะร่วมขับเคลื่อนการทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันของประเทศไทย โดยอาศัยความเป็นผู้นำระดับโลกด้านเทคโนโลยี 5G ซึ่งได้เปิดให้บริการเครือข่าย 5G แล้ว 187 เครือข่ายทั่วโลก นายแอนเดอร์ส เรียน กล่าวปิดท้ายว่า “วิสัยทัศน์หลักของเรา คือ การสร้างเครือข่ายการเชื่อมต่อที่มีประสิทธิภาพสูง เชื่อถือได้ และยั่งยืน เพื่อเร่งการขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัล…เราเชื่อว่าการร่วมมือที่เข้มแข็งในระบบนิเวศเป็นสิ่งสำคัญช่วยปลดล็อกศักยภาพของเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลได้เต็มที่ ด้วยการทำงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานภาครัฐ พันธมิตรในอุตสาหกรรม และชุมชนต่าง ๆ เราตั้งเป้าส่งเสริมนวัตกรรม สร้างความเท่าเทียม และการเติบโตระยะยาวให้กับประเทศไทย”
