Connect with us

ข่าว

การ์ทเนอร์ เผย 5 เทรนด์สำคัญในอุตสาหกรรมยานยนต์ปี 2568 รถยนต์ไฟฟ้าโต 17%

Published

on

automotive-industry-trends-2025

กรุงเทพฯ, 24 ม.ค. 68 – สำนักข่าวบริคอินโฟ – การ์ทเนอร์ (Gartner) บริษัทวิจัยและให้คำปรึกษาชั้นนำระดับโลก เผยถึง 5 แนวโน้มสำคัญในอุตสาหกรรมยานยนต์ปี 2568 ซึ่งได้รับแรงกดดันจากกฎระเบียบการปล่อยมลพิษและการเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในจีน โดย เปโดร ปาเชโก รองประธานฝ่ายวิจัยของการ์ทเนอร์ กล่าวว่า “ซอฟต์แวร์และการใช้พลังงานไฟฟ้าจะยังคงเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลักในการเปลี่ยนแปลงของภาคยานยนต์”

1. รถยนต์ไฟฟ้าเติบโต 17%

อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตรถยนต์จะต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนในเรื่องกฎระเบียบการปล่อยมลพิษและความตึงเครียดทางการค้าที่เพิ่มขึ้นระหว่างจีนกับชาติตะวันตก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า การ์ทเนอร์ประเมินว่ายอดการจัดส่งรถยนต์ไฟฟ้า (ประเภทรถโดยสาร รถยนต์ รถตู้ และรถบรรทุกขนาดใหญ่) จะเติบโต 17% ในปี 2568 และคาดว่าในปี 2573 มากกว่าครึ่งของรถยนต์ทั้งหมดที่วางจำหน่ายจะเป็นรถยนต์ไฟฟ้า

2. ภูมิรัฐศาสตร์ฉุดรั้งการนำเทคโนโลยี CASE

ในขณะเดียวกัน อุปสรรคทางการค้าที่สหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป (EU) กำหนดกับรถยนต์ไฟฟ้าของจีนจะทำให้การนำเทคโนโลยี CASE (การเชื่อมต่อ ความเป็นอิสระ ซอฟต์แวร์ และการใช้พลังงานไฟฟ้า) มาใช้ในทั้งสองภูมิภาคนี้ล่าช้าลง เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้าจีนถือเป็นประเภทยานพาหนะที่มีความก้าวหน้าที่สุดในอุตสาหกรรม

บิล เรย์ รองประธานอาวุโสของการ์ทเนอร์ กล่าวว่า “ผู้ผลิตโดรนและบริษัทโทรคมนาคมจีนกำลังรับรู้ถึงผลกระทบจากมาตรการแทรกแซงทางการค้าระหว่างประเทศ และรายต่อไปก็คือผู้ผลิตหุ่นยนต์”

Advertisement

3. ผู้ผลิตรถยนต์จีนได้เปรียบด้านซอฟต์แวร์และระบบไฟฟ้า

นอกจากนี้ ผู้ผลิตรถยนต์จากจีนยังได้เปรียบในการแข่งขันในด้านซอฟต์แวร์และระบบพลังงานไฟฟ้า แต่ อุปสรรคทางการค้าที่เพิ่มขึ้นอาจลดทอนข้อได้เปรียบนี้

4. OEM ผลิตรถยนต์ขยายความร่วมมือด้านซอฟต์แวร์กับจีน

ขณะที่ผู้รับจ้างผลิตชิ้นส่วนและส่วนประกอบกำลังประสบปัญหาในการพัฒนาความสามารถด้านซอฟต์แวร์ภายในองค์กร ส่งผลให้หลายรายหันมาทำข้อตกลงกับผู้ผลิต OEM จากจีน เพื่อเข้าถึงสถาปัตยกรรมไฟฟ้า/อิเล็กทรอนิกส์ (E/E) ของยานพาหนะ ทำให้พึ่งพาความสามารถด้านซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ของผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนมากยิ่งขึ้น

5. กำลังการผลิตส่วนเกินกระตุ้นให้โรงงาน OEM ปิดตัว

สุดท้าย การ์ทเนอร์คาดการณ์ว่า กำลังการผลิตส่วนเกิน เป็นความท้าทายสำหรับโรงงานผลิตรถยนต์หลายแห่งในยุโรปและอเมริกาเหนือ ซึ่งอาจนำไปสู่การปิดตัวหรือขายโรงงานผลิตรถยนต์หลายแห่งที่มีอัตราการใช้งานต่ำให้กับผู้ผลิตรถยนต์รายอื่น ๆ และส่งผลกระทบต่อเนื่องไปยังซัพพลายเออร์

Advertisement
Continue Reading
Advertisement