ข่าว
หมอกควันไฟป่าทะลักทั่วเมือง ชาวบ้านวอนใช้ไม้แข็งเจ้าจัดการก่อนหายใจไม่ออก

ผู้สื่อข่าว : วิรัตน์ นันทะพรพิบูลย์ ผู้สื่อข่าวแม่ฮ่องสอน
สถานการณ์ของหมอกควันและไฟป่าในจังหวัดแม่ฮ่องสอนวันนี้ (วันที่ 24 มีนาคม 2566) กลับมาอย่างหนักอีกครั้ง โดยเฉพาะในตัวเมืองแม่ฮ่องสอนที่พบค่าฝุ่นละอองในอากาศ pm2.5 ทะลุไปถึง 211 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรและมีแนวโน้มสูงขึ้นตามลำดับ สาเหตุหลักมาจากมีคนลักลอบจุดไฟกระจายพื้นที่ออกไปเป็นวงกว้างแล้วมีไฟป่าส่วนใหญ่ลุกลามเข้าไปในพื้นที่ป่าอย่างควบคุมไม่ได้ นอกจากนี้ยังพบคนลอบจุดไฟป่าตามแนวทางหลวงอยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งลุกลามไปติดต้นไม้ขนาดใหญ่หรือตอไม้แห้งที่เป็นสาเหตุของกลุ่มควันคละคลุ้งยาวนานขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ
ในส่วนของจังหวัดแม่ฮ่องสอนนั้น แม้ว่าทางผู้ว่าราชการจังหวัดจะสั่งการให้รถน้ำแรงดันสูงของสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแม่ฮ่องสอน ร่วมกับรถน้ำขององค์กรปกครองทุกพื้นที่ทำการฉัดพ่นละอองน้ำเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศวันละหลายครั้ง แต่กลับยังไม่เห็นผลมากนัก เนื่องจากดำเนินการเฉพาะพื้นที่ในเมืองหรือตามเส้นทางหลักของแต่ละ อปท. จนกลายเป็นคำถามกับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบอยู่ในขณะนี้ว่าเกาถูกที่คันแล้วหรือยัง ถึงเวลาที่จะปรับเปลี่ยนมาตรการที่เห็นผลมากกว่านี้หรือไม่
นางนิภา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี ชาวบ้านตำบลปางหมู อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอนรายหนึ่ง ที่มีบุตรหลานอายุระหว่าง 2-5 ขวบ เผยว่า ปัญหาไฟป่ามีมาทุกปี แต่ปีนี้มาเร็วและแล้งเร็วมาก ชาวบ้านเองต้องมานั่งรับผลกระทบจากคนไม่กี่กลุ่มที่สร้างปัญหาไม่หยุดหย่อน แล้วทางการเองก็ไม่เห็นจัดการกับต้นตอที่ก่อปัญหาได้เลย ทำให้ที่บ้านที่มีทั้งคนแก่และเด็ก ทำได้เพียงหลีกเลี่ยงไม่ออกไปนอกบ้านเท่านั้นเอง กิจกรรมอื่นๆ หรือที่จะต้องออกไปไร่นาตอนนี้ก็ต้องหยุด อยากให้เจ้าหน้าที่ใช้มาตรการเด็ดขาดเข้ามาแก้ปัญหาเสียที ก่อนที่ชาวบ้านทั่วไปจะไม่มีอากาศหายใจ
ในขณะที่นายพรเทพ เจริญสืบสกุล ผู้อำนวยการสำนักบริหารจัดการในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ที่ 16 สาขาแม่สะเรียง เปิดเผยว่า ถึงวันนี้ต้องระดมความร่วมมือทั้งจากเจ้าที่สังกัดกรมอุทยานฯ กรมป่าไม้ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ไฟป่า ทหารพรานจากกรมทหารพรานที่ 36 แม่สะเรียง เข้าจัดการกับพื้นที่เกิดไฟป่าซ้ำซาก ทั้งทางบก ทางเรือและทางอากาศ เท่าที่ผ่านมานั้นก็ส่งกำลังของเสือไฟเข้าจัดการมาโดยตลอด แต่ด้วยสภาพพื้นที่ที่กลายเป็นอุปสรรคสำคัญทำให้กำลังของเจ้าหน้าที่ทำงานได้ยากขึ้นไปอีก ยิ่งตอนนี้จะเห็นว่าหมอกควันไม่ได้ปกคลุมแค่ในตัวเมืองเท่านั้น เพราะแม้แต่ตามแนวชายแดน ริมฝั่งแม่น้ำสาละวินก็มีกลุ่มควันทั่งจากบ้านเราและเพื่อนบ้านปกคลุมอยู่ตลอดเวลา สิ่งที่น่าวิตกอีกส่วนก็คือหากฝนทิ้งช่วงนานก็ยิ่งทำให้ปัญหายังคงเกิดขึ้นยาวนานไปอีก
สำหรับสถิติของไฟป่าและหมอกควันของจังหวัดแม่ฮ่องสอนตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 เป็นต้นมา จนถึงวันที่ 23 มีนาคมนี้ พบจุดเกิดไฟไปแล้วถึง 4,077 จุด มีผลกระทบจากสภาพอากาศ pm2.5 ไปแล้วกว่า 42 วัน กระทบทั้งสุขภาพอนามัยของชาวบ้าน การท่องเที่ยวชะงักเป็นวงกว้าง