ข่าว
ETDA เปิดวิสัยทัศน์ปี 2569 มุ่งสร้าง Digital Trust เดินหน้า 3 งานใหญ่ ยกระดับเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ
สำนักข่าวบริคอินโฟ – สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA (Electronic Transactions Development Agency) ในสังกัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ประกาศวิสัยทัศน์และแผนงานสำหรับปี 2569 โดยมุ่งเน้นการสร้าง Digital Trust หรือความเชื่อมั่นทางดิจิทัล เพื่อขับเคลื่อนประเทศไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัลอย่างยั่งยืน โดยเน้นบทบาทการเป็น Co-Creation Regulator & Facilitator หรือหน่วยงานที่กำกับและส่งเสริมไปพร้อมกัน พร้อมชูธง 3 งานใหญ่ ได้แก่ การเสริมความน่าเชื่อถือของโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล, การผลักดัน AI เพื่อยกระดับศักยภาพของประเทศไทย, และการขยายกลไกร่วมกำกับดูแลบริการแพลตฟอร์มดิจิทัล
ตลอดปี 2568 ETDA ได้แสดงผลงานที่โดดเด่นในการสร้าง Digital Infrastructure & Ecosystem ที่น่าเชื่อถือ โดยการขับเคลื่อน Digital ID ให้เป็นโครงสร้างพื้นฐานระดับชาติ ปัจจุบันมีผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาตแล้ว 26 ราย และมีผู้ใช้งาน Digital ID เพิ่มขึ้นเป็น 151.1 ล้านบัญชี นอกจากนี้ยังได้เพิ่มความเชื่อมั่นให้กับบริการแพลตฟอร์มดิจิทัล ด้วยการออกประกาศใหม่ภายใต้กฎหมาย DPS (Digital Platform Services) เพื่อคุ้มครองผู้ใช้งานและสร้างระบบนิเวศที่ปลอดภัย โดย ณ วันที่ 8 กันยายน 2568 มีแพลตฟอร์มที่แจ้งข้อมูลกับ ETDA แล้ว 1,925 แพลตฟอร์ม และมีศูนย์ช่วยเหลือและจัดการปัญหาออนไลน์ 1212 ETDA ที่รับเรื่องร้องเรียนไปแล้วกว่า 33,181 เรื่อง รวมถึงการผลักดัน AI Governance Center (AIGC) เพื่อส่งเสริมการใช้ AI อย่างมีธรรมาภิบาล

ดร.ชัยชนะ มิตรพันธ์ ผู้อำนวยการ ETDA เปิดเผยว่า ตลอด 15 ปีที่ผ่านมา ETDA ได้มุ่งมั่นขับเคลื่อนธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศให้มั่นคงและน่าเชื่อถือ โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนมูลค่าเพิ่มเศรษฐกิจดิจิทัลต่อ GDP ให้ได้ 30% และติด 30 อันดับแรกของโลกที่มีความสามารถในการแข่งขันทางดิจิทัลให้ได้ภายในปี 2570 พร้อมยืนยันว่า ETDA จะไม่หยุดแค่การกำกับดูแลและส่งเสริม แต่จะร่วมสร้าง Digital Trust เคียงข้างทุกภาคส่วน เพื่อให้คนไทยมีชีวิตที่ดีขึ้นด้วยดิจิทัล
สำหรับปี 2569 ETDA จะมุ่งมั่นสร้างความเชื่อมั่นในโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล โดยตั้งเป้าเชื่อมโยงบริการ e-Service ของภาครัฐไม่น้อยกว่า 1,464 บริการ และขยายการใช้งานไปยังภาคเอกชน รวมถึงส่งเสริมการใช้ e-Document และ e-Signature เพื่อลดการใช้กระดาษและสร้างมาตรฐานในการทำงาน นอกจากนี้ยังเร่งผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้าน AI ในภูมิภาค โดยจะเร่งตั้งศูนย์ปฏิบัติการด้านธรรมาภิบาล AI แห่งภูมิภาค หรือ AIGPC (AI Governance Practice Center) ซึ่งประเทศไทยได้รับเลือกเป็นเจ้าภาพการจัดงาน UNESCO Global Forum on AI Ethics 2025 เป็นครั้งแรกในเอเชียแปซิฟิก และจะขยายกลไกร่วมกำกับดูแล Digital Platform Services เพิ่มเติม โดยจะศึกษาความเสี่ยงและผลกระทบของบริการที่หลากหลายประเภทมากขึ้น
- เสริมความเชื่อมั่น Digital Infrastructure and Ecosystem ใน 4 เรื่องสำคัญ คือ Digital ID ที่ตั้งเป้าเชื่อมโยง e-Service ภาครัฐ ไม่น้อยกว่า 1,464 บริการ ขยายการเชื่อมต่อในภาคเอกชน เช่น ท่องเที่ยวและแพลตฟอร์มดิจิทัล ขยายผลการใช้งานในนิติบุคคล ต่างด้าว และกลุ่มเปราะบาง ส่งเสริมให้เกิดการใช้งานและผู้ให้บริการ (รัฐ-เอกชน) ของเอกสารรับรองดิจิทัล (VC) และกระเป๋าเอกสารดิจิทัล (Document Wallet) ที่ใช้งานง่าย ปลอดภัย และน่าเชื่อถือ และร่วมผลักดันให้เกิดการดำเนินงานตามเป้า Digital ID Framework ระยะที่ 2 เป็นต้น e-Document ต้องมีกระบวนการเสริมความเชื่อมั่นในความน่าเชื่อถือของเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐและเอกชน ผ่านการตรวจรับรอง e-Document, E-Signature, Timestamp, National Root CA: NRCA และTrust Services อื่น ๆ พร้อมสร้าง Community ขยายการใช้งานอย่างเชื่อมโยง AI & Data Sharing รัฐและเอกชนมีมาตรฐาน แนวทาง กลไกในการแบ่งปันข้อมูลอย่างมีธรรมาภิบาล เกิด Use case การพัฒนาบริการใหม่ที่สร้างมูลค่า (นำร่องกลุ่ม Healthcare Finance Insurance) และ Cloud ที่มุ่งสนับสนุนรัฐ ให้พร้อมรองรับ Digital Government Transformation เปลี่ยนผ่านระบบงานและบริการดิจิทัลขึ้นสู่ระบบ Cloud ที่มีมาตรฐาน สอดคล้องตามนโยบาย Cloud First
- เร่งเครื่อง AI เสริมศักยภาพไทยพร้อมสู่ศูนย์กลางภูมิภาค โดยมุ่งเน้นใน 3 ส่วน ได้แก่ AI Governance ดันมาตรฐาน เสริมศักยภาพการแข่งขันในองค์กร ให้ไทยพร้อมสู่ Regional Hub ผ่านการเร่งตั้งศูนย์ AIGPC เชื่อมโยงกับเครือข่ายความร่วมมือนานาชาติ พร้อมขยายผล AI Governance Framework & Guideline ในหน่วยงาน Regulator อื่นๆ หรือหน่วยงานเฉพาะทาง ร่วมกับ Service provider จัดทำ New Solution Package ที่ตอบโจทย์ ผลักดัน AI Ethics Testing & Sandbox พัฒนาแนวทางทดสอบโมเดล AI โดยเฉพาะ LLM ให้ใช้งานอย่างรับผิดชอบ และประเมินผลกระทบด้านจริยธรรม AI ผ่าน Ethical Impact Assessment (EIA) พร้อมศึกษาและจัดทำข้อเสนอทางกฎหมายใหม่ ๆ รองรับความท้าทายจากระบบอัตโนมัติ AI and Digital Transformation ติดสปีด ‘SMEs-ชุมชน’ สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจดิจิทัลเชิงพื้นที่ มุ่งยกระดับ Digital Capability ของ SMEs และ Service Provider ใน 4 ภูมิภาค ร่วมกับพาร์ทเนอร์ขยายโมเดล ลงพื้นที่เสริมขีดความสามารถ ด้วย AI และ Digital ผ่านกิจกรรม Solution Matching, Workshop และ Training พร้อมผลักดันให้เกิด New Solution โดยเฉพาะ Trust Services ตั้งเป้าให้ SMEs ไม่น้อยกว่า 1,000 รายใน 4 ภูมิภาคใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในธุรกิจสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจในพื้นที่ไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท รวมถึง ขับเคลื่อนยกระดับชุมชนสู่การสร้างรายได้ และพัฒนาทักษะ AI & Digital Skill ให้คนไทยกว่า 10,000 คน พร้อมเร่งส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมด้วยข้อมูลที่สนับสนุนการมองภาพอนาคตดิจิทัลที่สำคัญสะท้อนความสามารถในการแข่งขัน เพื่อให้เทคโนโลยี AI เสริมธุรกิจ SMEs และชุมชน สู่พลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยทั้งระบบ AI Literacy & Protection สร้างภูมิคุ้มกัน ‘คนไทย-กลุ่มเปราะบาง-คนพิการ’ รู้ทันดิจิทัล ครอบคลุมทุกพื้นที่ ผ่านเครือข่าย EDC Trainers กว่า 2,000 คน ครอบคลุม 878 อำเภอ ส่งต่อความรู้สู่ประชาชนทุกกลุ่ม ไม่น้อยกว่า 60,000 คน พร้อมจัดกิจกรรมเสริมภูมิคุ้มกันภัยดิจิทัลผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ที่เพิ่มการเข้าถึงไม่น้อยกว่า 5 ล้านครั้ง พร้อมพัฒนาหลักสูตร e-Learning & Specialized ครอบคลุม 4 โมดูล ของ EDC plus (Digital Use, Communication, Security, AI Literacy) เป็นต้น
- ขยายกลไกร่วมกำกับ Digital Platform Services เพื่อบริการที่ทุกคนมั่นใจในทุกคลิก โดยจะเร่งเดินหน้าจัดทำมาตรฐานการกำกับดูแลแพลตฟอร์มดิจิทัลเพิ่มเติม เพื่อให้เป็น Best Practices สร้าง Self-Regulation ที่เหมาะสม พร้อมศึกษาความเสี่ยงและผลกระทบของบริการที่หลากหลายประเภทยิ่งขึ้น และเพิ่มกลไก Incentive จูงใจแพลตฟอร์มดิจิทัลให้ปฏิบัติตามกฎหมาย DPS เช่น การออกเครื่องหมายรับรองและเปิดพื้นที่บูรณาการการทำงานร่วมกันทุกภาคส่วน เพื่อขยายผล Implement กฎหมายลูก ภายใต้กฎหมาย DPS ยกระดับกลไกการกำกับดูแลบริการแพลตฟอร์มที่ทุกคนมีส่วนร่วม ผนวก 1212 ETDA เสริมความเชื่อมั่นแพลตฟอร์มดิจิทัล รองรับการร้องเรียน ให้คำแนะนำ จัดเก็บ–วิเคราะห์ข้อมูล พัฒนาแนวทางกำกับดูแล ขยายความร่วมมือทั้งในและต่างประเทศ เชื่อมโยงการรับเรื่อง แลกเปลี่ยนข้อมูล และจัดการปัญหา ตั้งแต่ เรื่องร้องเรียน แจ้งความออนไลน์ สินค้าไม่ได้มาตรฐาน จนถึงการ Take Down เนื้อหาเสี่ยง เป็นต้น
การดำเนินงานยังครอบคลุมถึงการสนับสนุนภาคธุรกิจและชุมชน โดยมีเป้าหมายให้ SMEs ไม่น้อยกว่า 1,000 ราย ใน 4 ภูมิภาค ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในธุรกิจเพื่อสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจในพื้นที่ไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท และมุ่งพัฒนาทักษะดิจิทัลให้แก่คนไทยกว่า 10,000 คน พร้อมสร้างภูมิคุ้มกัน AI ให้แก่ประชาชนและกลุ่มเปราะบาง รวมถึงการขยายเครือข่ายโค้ชดิจิทัลชุมชน (ETDA Local Digital Coach) หรือ ELDC เพื่อสร้างรายได้และความยั่งยืนทางเศรษฐกิจให้แก่ชุมชนต่าง ๆ ทั่วประเทศ
