Connect with us

ข่าว

รัฐบาลย้ำ! โรคแอนแทรกซ์ไม่ติดต่อคนสู่คน รู้จักวิธีแพร่เชื้อและป้องกัน

Published

on

รัฐบาลไทยยืนยันโรคแอนแทรกซ์ติดต่อจากสัตว์สู่คนเท่านั้น เผย 3 ช่องทางแพร่เชื้อ พร้อมแนะวิธีสังเกตอาการและป้องกันตนเอง อย่าตื่นตระหนก!

สำนักข่าวบริคอินโฟ – รัฐบาลไทยออกมายืนยันถึงสถานการณ์ของ โรคแอนแทรกซ์ (Anthrax) ว่าไม่มีการติดต่อจากคนสู่คนโดยตรง ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก พร้อมให้ข้อมูลเกี่ยวกับช่องทางการแพร่เชื้อและแนวทางการสังเกตอาการ รวมถึงวิธีป้องกันโรคดังกล่าว

นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยข้อมูลจาก กรมควบคุมโรค ว่าโรคแอนแทรกซ์เป็นโรคที่ติดต่อจากสัตว์สู่คน มีสาเหตุจากเชื้อแบคทีเรีย Bacillus anthracis ซึ่งสามารถพบได้ในธรรมชาติ เช่น ดินและน้ำ โดยสปอร์ของเชื้อมีความทนทานสูงและสามารถก่อโรคได้นานหลายสิบปี โดยเฉพาะในดินที่มีซากสัตว์ที่ตายด้วยโรคนี้ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลปัจจุบันยังไม่พบการแพร่เชื้อจากคนสู่คน

สัตว์ที่เป็นพาหะนำโรคส่วนใหญ่ ได้แก่ โค กระบือ แพะ และแกะ ซึ่งจะมีอาการไข้ ซึม ไม่กินอาหาร เจ็บป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุ และอาจเสียชีวิตได้ สำหรับการติดเชื้อในคน มักเกิดจากการสัมผัสโดยตรงกับสัตว์ที่ติดเชื้อ เช่น การชำแหละเนื้อสัตว์ การบริโภคเนื้อสัตว์ดิบหรือปรุงไม่สุก การสัมผัสหนังสัตว์หรือขนสัตว์ที่มีสปอร์ของเชื้อ

โดยเชื้อสามารถแพร่กระจายได้ 3 ช่องทางหลัก ได้แก่

  • การสัมผัส ผ่านบาดแผลหรือรอยถลอกหลังสัมผัสสัตว์ป่วย โดยจะเริ่มมีอาการภายใน 1-7 วัน หรือนานกว่านั้น ลักษณะแผลจะเริ่มจากตุ่มที่ผิวหนัง กลายเป็นตุ่มน้ำใส และแตกออกเป็นแผลหลุมสีดำ หากไม่รักษา เชื้ออาจลุกลามไปยังต่อมน้ำเหลืองและเข้าสู่กระแสเลือดจนเกิดภาวะโลหิตเป็นพิษได้
  • ช่องทางที่สองคือ การรับประทาน เนื้อสัตว์ที่ป่วยดิบหรือปรุงไม่สุก ซึ่งอาจทำให้เกิดการติดเชื้อในทางเดินอาหาร มีอาการไข้สูง ไม่สบายท้อง คลื่นไส้ อาเจียน และหากไม่ได้รับการรักษา เชื้อก็สามารถเข้าสู่กระแสเลือดและเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
  • ช่องทางสุดท้ายคือ การหายใจ เอาสปอร์ของเชื้อที่ปนเปื้อนในบริเวณที่สัตว์ป่วยหรือตาย ซึ่งอาจฝังตัวอยู่ได้นาน ผู้ป่วยจะมีอาการไข้ ปวดเมื่อยตามตัว ไอ หายใจลำบาก หน้าเขียวคล้ำ และอาจเสียชีวิตจากภาวะระบบหายใจล้มเหลว

นายอนุกูล กล่าวเพิ่มเติมว่า “สำหรับการป้องกันโรคแอนแทรกซ์ ขอแนะนำให้ใส่ถุงมือในการชำแหละหรือปรุงเนื้อสัตว์ และล้างมือให้สะอาดจะช่วยลดการปนเปื้อนได้ ส่วนอาหารควรปรุงให้สุกเพื่อทำลายเชื้อแบคทีเรีย และควรเลือกซื้อเนื้อสัตว์จากแหล่งที่น่าเชื่อถือและได้มาตรฐาน หากพบอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์ เนื่องจากโรคนี้สามารถรักษาหายได้ด้วยยาปฏิชีวนะ หรือในกรณีที่สัมผัสเชื้อแต่ไม่มีอาการป่วย แพทย์จะให้ยาป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดอาการรุนแรง หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422

Advertisement