Connect with us

การเมือง

นายกฯ ยัน! ข่าวลวง โบสถ์ยิว อ.ปาย เชียงราย กร่างห้ามไทยเข้า เตรียมส่ง “อนุทิน” ลงพื้นที่สัปดาห์หน้า

Published

on

18 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 11.40 น. ณ บริเวณห้องคอนเวนชั่น ฮอลล์ ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวชาวอิสราเอลที่อาศัยในอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอนหลายพันคน ติดป้ายประกาศห้ามคนไทยเข้าพื้นที่ ซึ่งอาจทำให้ประชาชนเกิดความไม่พอใจ และบานปลายเป็นปัญหาระหว่างประเทศว่า จากการตรวจสอบไม่เป็นความจริงตามที่เป็นข่าว โดยในสัปดาห์หน้า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยจะมีการลงพื้นที่

สำนักข่าวบริคอินโฟ – นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ชี้แจงกรณีข่าวโบสถ์ยิว ชาวอิสราเอล ที่อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ติดป้ายห้ามคนไทยเข้า ยืนยันตรวจสอบแล้วไม่เป็นความจริง พร้อมเตรียมส่ง รมว. มหาดไทย ลงพื้นที่สัปดาห์หน้า

นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา วันนี้ (18 กุมภาพันธ์ 2568) ถึงกรณีข่าวลือ ชาวอิสราเอลจำนวนมากเข้ามาอาศัยในอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมติดป้ายประกาศห้ามคนไทยเข้าพื้นที่ ซึ่งอาจก่อให้เกิดความขัดแย้งระหว่างประเทศ โดย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ยืนยันว่าจากการตรวจสอบพบว่าไม่เป็นความจริง

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า ชาวอิสราเอลได้ใช้ร้านอาหารแห่งหนึ่งในอำเภอปาย ทำเป็นสถานที่ประกอบกิจกรรมทางศาสนา หรือ “โบสถ์” ชื่อ ชาบัดเฮ้าส์ปาย (Chabad House Pai) ตั้งอยู่ด้านหลังสถานีตำรวจอำเภอปาย โดยมี รปภ. และเจ้าหน้าที่คนไทยดูแล มีการจัดกิจกรรมทุกวันศุกร์และวันเสาร์ เวลา 18.30-22.00 น. ซึ่งในแต่ละครั้ง จะมีนักท่องเที่ยวอิสราเอลเข้าร่วมประมาณ 100-180 คน ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงปัจจุบัน มีนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลเดินทางเข้าอำเภอปายแล้วกว่า 4,446 ราย

และในสัปดาห์หน้า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จะลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและดูแลสถานการณ์ด้วยตัวเอง

Advertisement

ทั้งนี้ การชี้แจงของนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ ช่วยคลายความกังวลของประชาชนต่อข่าวลือที่เกิดขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม การเปิด “โบสถ์” ของชาวอิสราเอลในอำเภอปาย อาจต้องมีการตรวจสอบและดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต รวมถึง ย้ำถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศไทยกับทั้งอิสราเอลและกัมพูชา