Connect with us

ข่าว

บลจ.ทิสโก้ เปิดกลยุทธ์ปี 2568 ชู 2 ธีมเด่น พร้อมชวนลงทุนกองทุนทริกเกอร์

Published

on

บลจ.ทิสโก้, บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด, TISCO Asset Management, กองทุนรวม, กองทุนทริกเกอร์, หุ้นไทย, หุ้นต่างประเทศ

สำนักข่าวบริคอินโฟ – บลจ.ทิสโก้ เดินหน้าสร้างโอกาสรับผลตอบแทนให้ลูกค้า เผยกลยุทธ์ลงทุนปี 2568 ด้วย 2 ธีมเด่นที่น่าจับตา ได้แก่ ธีมที่ได้อานิสงส์จากนโยบายทรัมป์ 2.0 และธีม Laggard Play พร้อมมองหาโอกาสสร้างกำไรด้วยการลงทุนในกองทุนทริกเกอร์

นายสาห์รัช ชัฏสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด (TISCO Asset Management) เปิดเผยว่า ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา บลจ.ทิสโก้ได้รับความไว้วางใจจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยมีมูลค่าสินทรัพย์รวมภายใต้การจัดการ (AUM) เติบโตขึ้น 40% จาก 290,239 ล้านบาท ในปี 2562 เป็น 406,802 ล้านบาท ในปี 2567 หรือเฉลี่ยเติบโต 7% ต่อปี

สำหรับปีนี้ บลจ.ทิสโก้ ยังคงมุ่งเน้นการเติบโต ขยายฐานลูกค้าและ AUM ใน 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กองทุนส่วนบุคคล และกองทุนรวม โดยเฉพาะธุรกิจกองทุนรวมที่มุ่งมั่นขยายฐานลูกค้าผ่านช่องทางตัวแทนและออนไลน์ พร้อมสร้างผลตอบแทนที่ดีอย่างสม่ำเสมอ และนำเสนอกองทุนที่ช่วยเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทน เช่น กองทุนทริกเกอร์ ซึ่งจะเปิดเสนอขายในช่วงที่ตลาดหุ้นผันผวน

ทั้งนี้ บลจ.ทิสโก้ เชื่อมั่นว่ากองทุนทริกเกอร์จะช่วยจับจังหวะสร้างผลตอบแทนระยะสั้นได้เป็นอย่างดี โดยในปี 2567 ที่ผ่านมา กองทุนทริกเกอร์ที่เปิดเสนอขาย 6 กองทุน สามารถบริหารและถึงเป้าหมายได้ทั้งหมด 5 กองทุน โดยกองทุนที่ถึงเป้าหมายได้เร็วที่สุดใช้เวลาเพียง 8 วัน

Advertisement

ทั้งนี้ ณ วันที่ 27 มกราคม 2568 บลจ.ทิสโก้ออกกองทุนทริกเกอร์ฟันด์มาแล้วทั้งหมด 152 กองทุน (ถึงเป้าหมายในระยะเวลา 88 กองทุน และถึงเป้าหมายนอกระยะเวลาลงทุน 32 กองทุน) มีกองทุนที่อยู่ระหว่างลงทุน 1 กองทุน (ยังไม่ถึงเป้าหมายและเกินกว่ากำหนดเวลาลงทุน 11 กองทุน) และกองทุนไม่ถึงเป้าหมายและเลิกกองทุนแล้ว 20 กองทุน

บลจ.ทิสโก้ ยังแนะนำ 2 ธีมกองทุนรวมที่น่าสนใจในปี 2568 ได้แก่

  • ธีมที่ได้ประโยชน์จากนโยบาย 2.0 ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้แก่ กองทุนที่ลงทุนในธุรกิจ AI ของสหรัฐฯ กองทุนหุ้นขนาดใหญ่ที่มีคุณภาพ และกองทุนหุ้นกลุ่มการเงินสหรัฐฯ
  • ธีมกองทุน Laggard Play ได้แก่ กองทุนหุ้นขนาดกลาง-เล็กของสหรัฐฯ กองทุนหุ้นเอเชีย และกองทุนหุ้นเวียดนาม

นายสุพงศ์วร เมี้ยนโภคา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด (TISCO Asset Management) กล่าวว่า ภาพรวมการลงทุนในปี 2568 ยังคงมีความท้าทาย เนื่องจากราคาหุ้นทั่วโลกมีมูลค่าค่อนข้างแพง โดยเฉพาะตลาดประเทศพัฒนาแล้ว ประกอบกับความไม่แน่นอนของนโยบายทรัมป์ที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก

บลจ.ทิสโก้ คาดว่าหุ้นกลุ่มสถาบันการเงินของสหรัฐฯ หุ้นกลุ่มการบริโภคที่เกี่ยวข้องกับสหรัฐฯ และหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ จะเป็นกลุ่มที่สร้างผลตอบแทนได้ดีในปีนี้ นอกจากนี้ ตลาดหุ้นจีนก็น่าจับตามอง เนื่องจากราคาหุ้นอยู่ในระดับต่ำ แต่ยังคงมีความเสี่ยงจากนโยบายของทรัมป์

สำหรับตลาดหุ้นไทย คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 10% แม้เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มเติบโต แต่เป็นการเติบโตในกลุ่มอุตสาหกรรมที่กระจุกตัวอยู่เฉพาะบางอุตสาหกรรมเท่านั้น

ทั้งนี้ ผู้สนใจลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

Advertisement