ข่าว
กกพ. จับมือ 3 การไฟฟ้า เปิดขาย “ไฟฟ้าสีเขียว” ครั้งแรกในไทย

กรุงเทพฯ, 23 ม.ค. 68 – สำนักข่าวบริคอินโฟ – สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ร่วมกับ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ประกาศเปิดให้บริการ “ไฟฟ้าสีเขียว” ครั้งแรกในประเทศไทย โดยใช้ชื่อว่า “อัตราค่าบริการไฟฟ้าสีเขียวแบบผู้ใช้ไฟฟ้าไม่เจาะจงแหล่งที่มา (Utility Green Tariff แบบที่ 1: UGT1)” เพื่อเป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการใช้พลังงานสะอาด โดยมีการกำหนดอัตราค่าบริการ UGT1 เพิ่มเติมจากค่าไฟฟ้าปกติหน่วยละ 6 สตางค์
การเปิดตัว UGT1 ในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของประเทศไทยในการให้บริการไฟฟ้าสะอาดที่ได้รับการรับรองแหล่งที่มาตามมาตรฐานสากล โดย ดร.พูลพัฒน์ ลีสมบัติไพบูลย์ เลขาธิการสำนักงาน กกพ. กล่าวว่า UGT1 จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจไทยในตลาดโลก ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ และสนับสนุนนโยบาย Net-zero emissions ของรัฐบาล ปัจจุบัน กฟผ. และการไฟฟ้าฝ่ายจำหน่าย (กฟน., กฟภ.) ได้เตรียม UGT1 ไว้รองรับความต้องการกว่า 2,000 ล้านหน่วยต่อปี พร้อมออกเอกสารรับรอง I-REC ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับระดับสากล โดยตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค. 68 ที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการลงทะเบียนใช้บริการแล้วกว่า 600 ล้านหน่วย ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และธุรกิจการเงินการธนาคาร
นายธวัชชัย สำราญวานิช รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ กฟผ. กล่าวว่า กฟผ. ได้พัฒนา UGT Platform ขึ้นเพื่อรองรับการจัดสรรและบันทึกข้อมูลการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน โดยผู้ใช้บริการจะได้รับใบรับรอง REC ตามมาตรฐาน I-REC ซึ่งรวมอยู่ในค่าไฟฟ้าแล้ว ด้าน นายพิศณุ ตันติถาวร รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์องค์กรและความยั่งยืน กฟน. เสริมว่า กฟน. พร้อมให้บริการ UGT1 แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภท 3, 4 และ 5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ นนทบุรี และสมุทรปราการ โดยผู้สนใจสามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ www.mea.or.th หรือแพลตฟอร์ม eservice.mea.or.th/ugt/ ได้ตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค. 68
การเปิดให้บริการไฟฟ้าสีเขียว UGT1 ในครั้งนี้ นับเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานของประเทศไทย เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดอย่างยั่งยืน โดยในอนาคตจะมีการขยายบริการไฟฟ้าสีเขียวรูปแบบอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น UGT2 และ Direct PPA เพื่อรองรับความต้องการที่หลากหลายของภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม