ข่าว

โตชิบา ไทยแลนด์ ผลประกอบการ ปี 67 ยอดขายโต 24% ทุบสถิติ ตั้งเป้าปี 68 โตต่อ 25% ดึง ทาคาชิ โซริมาจิ เป็นแบรนด์แอมฯ

โตชิบา ไทยแลนด์ ประกาศผลประกอบการปี 2567 เติบโตแข็งแกร่ง 24% สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ พร้อมรุกตลาดปี 2568 ตั้งเป้าเติบโต 25%

Published

2 สัปดาห์ ago

22 มกราคม 2025

นพฤทธิ์ กมลสุวรรณ

กรุงเทพฯ, 22 ม.ค. 68 (บริคอินโฟ) – โตชิบา ไทยแลนด์ (Toshiba Thailand) ประกาศความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ ด้วยผลประกอบการปี 2567 ที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งถึง 24% สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยมีปัจจัยหลักมาจากการพัฒนาสินค้าใหม่ๆ ที่เน้นฟังก์ชั่น คุณภาพ และความหลากหลาย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ภายใต้แนวคิด “Details Matter ใส่ใจในทุกรายละเอียด” พร้อมเดินหน้ารุกตลาดปี 2568 ตั้งเป้าเติบโต 25%

ผลประกอบการโตแกร่ง ทุบสถิติ 5 ปีซ้อน

มร.อเล็กซ์ มา รองประธานบริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด เปิดเผยว่า “ปี 2567 ถือเป็นปีแห่งความสำเร็จของโตชิบา ไทยแลนด์ ที่สามารถสร้างการเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง ด้วยยอดขายที่เพิ่มขึ้น 24% ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยมีปัจจัยสำคัญมาจากการพัฒนาสินค้าใหม่ๆ ที่เน้นฟังก์ชั่น คุณภาพ และความหลากหลาย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ภายใต้แนวคิด “Details Matter ใส่ใจในทุกรายละเอียด” รวมถึงความเชื่อมั่นในแบรนด์ที่บริษัทฯ ทำกิจกรรมต่อเนื่องมาตลอด โดยเฉพาะปี 2567 ที่ผ่านมา ที่ได้คุณหมาก ปริญ สุภารัตน์ มาช่วยสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ และขยายฐานไปยังกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ มากขึ้น”

“นอกจากนี้ ด้วยคุณภาพและมาตรฐานผลิตภัณฑ์โตชิบา ซึ่งเป็นที่ยอมรับในกลุ่มผู้บริโภคและคู่ค้า ในแง่ของความทนทาน ดีไซน์ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ รวมไปถึงแนวความคิดในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ใส่ใจในรายละเอียด และความต้องการของผู้บริโภคเป็นหลัก ทำให้ผลิตภัณฑ์โตชิบาได้รับการตอบรับที่ดีขึ้นในทุกๆ ปี มากไปกว่านั้น เรามีพันธมิตรทางการค้าที่ดี ที่เชื่อมั่นในโตชิบา ทำให้บริษัทฯ สามารถขยายช่องทางการจัดจำหน่ายไปยังกลุ่มเป้าหมายได้ครอบคลุม ทั่วถึง และมีการจัดการบริหารงานภายใน ทั้งในเรื่องซัพพลายเชน และการทำงานเป็นทีมเวิร์คได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น”

ตลาดไทยเป็นตลาดที่สำคัญและแข่งขันมากที่สุด

อเล็กซ์ มา ระบุว่า ความท้าทายปัจจุบันมีอยู่มากมายหลากหลายปัจจัยไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ การเปลี่ยนแปลงไปยังรวดเร็วของเทคโนโลยี วัฏจักรของการทำธุรกิจ และสภาพแวดล้อม ซึ่งหลายหลายประเทศก็มีมาตรการในการผลักดันเศรษฐกิจอย่างประเทศไทยก็คือเงินดิจิทัลและทั่วโลกต่างให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น ตลาดรวมปีนี้ ของเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน จะเติบโตประมาณ 5% ตามการเติบโตของ GDP ซึ่งในภาพรวมทั้งตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านไม่ได้โดดเด่นมากนักด้วยสภาวะเศรษฐกิจด้วย ซึ่งภาพรวมของโตชิบาเองนั้นเติบโตกว่าตลาด ซึ่งปัจจัยส่วนหนึ่งมาจากพฤติกรรมของผู้บริโภคของไทยที่แตกต่างจสกภูมิภาคอื่น ๆ ซึ่งนับว่ามีการแข่งขันมากที่สุด ทั้งราคาและผลิตภัณฑ์ โดยแบรนด์ต่างๆในระดับโลกก็มาแข็งขันที่ประเทศไทยเกือบทั้งหมด

ขณะเดียวกันพฤติกรรมของผู้บริโภคเองสิ่งที่โตชิบามองเห็นคือ พฤติกรรมของผู้ซื้อ เปลี่ยนแปลงไป โดยนโยบายของรัฐบาลทำให้เห็นได้ชัดว่า กำลังจ่ายนั้นยังมี แต่ผู้ซื้อระมัดระวังในการจ่ายมากขึ้น จากนโยบาย Easy E-Receipt 2.0 เพราะยอดขายช่วง 1-15 ม.ค. ก่อนนโยบายเริ่มมีผล ยอดขายแทบจะไม่มีเลย ส่วนรูปแบบการเช่าใช้รายเดือน (Subscription) แม้จะมีคู่แข่งของโตชิบาได้เริ่มกิจกรรมส่งเสริมการขายนี้ไปแล้ว แต่ส่วนตัวยังมองว่ารูปแบบการขายแบบนี้ยังไม่ได้รับความนิยมในประเทศไทย

ตู้เย็น : ยอดขายเติบโต 20%

ตู้เย็น เป็นกลุ่มสินค้าที่สร้างรายได้สูงสุด มีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ในอันดับ 2 ที่ 15.9% โดยมียอดขายเติบโต 20% โดยเฉพาะตู้เย็นไซด์บายไซด์ และตู้เย็น 4 ประตู ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าที่ตลาดมีความต้องการสูง โตชิบาสามารถสร้างยอดขายเติบโตได้ถึง 200% และตู้เย็นโตชิบารุ่น GR-RS600 ขึ้นแท่นเป็นตู้เย็นไซด์บายไซด์ที่ขายดีที่สุดในประเทศไทย

เครื่องซักผ้า : ยอดขายเติบโต 39%

เครื่องซักผ้า เป็นอีกหนึ่งกลุ่มสินค้าที่สร้างยอดขายเติบโตอย่างโดดเด่น มีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ในอันดับ 3 ที่ 11.1% โดยมียอดขายเติบโตสูงถึง 39% โดยเฉพาะเครื่องซักผ้าฝาบนความจุ 12 กิโลกรัมขึ้นไป มียอดขายเติบโตถึง 70%

ไมโครเวฟ : ยอดขายเติบโต 21%

ไมโครเวฟ เป็นกลุ่มสินค้าที่โตชิบาครองส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 29% และในปี 2567 มียอดขายเติบโต 21%

หม้อหุงข้าว : ยอดขายเติบโต 10%

หม้อหุงข้าว เป็นอีกหนึ่งกลุ่มสินค้าที่โตชิบาครองส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 2 ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 9% และในปี 2567 มียอดขายเติบโต 10%

กลุ่มเครื่องทำน้ำร้อน

โดยในปีที่ผ่านมาด้วยปัจจัยด้านสภาพอากาศ จึงทำให้กลุ่มเครื่องทำน้ำร้อนไม่ได้เติบโตมากนัก โดยส่วนแบ่งการตลาดยังคงอยู่ในอันดับที่ 6 คิดเป็น 7% ของตลาด

ก้าวสู่ปี 2568 ด้วยเป้าหมายเติบโต 25%

สำหรับปี 2568 โตชิบาตั้งเป้าเติบโต 25% พร้อมรุกตลาดสินค้ากลุ่ม Mid to High และเปิดตัวสินค้าใหม่ 53 รุ่น โดยมี ทาคาชิ โซริมาจิ นักแสดงชื่อดังชาวญี่ปุ่น เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยเน้นเจาะตลาดผู้ใช้กลุ่ม Mid to High ที่ให้ความสำคัญเรื่องดีไซน์ และคุณสมบัติสินค้ามากขึ้น พร้อมเดินหน้าทำการตลาดแบบ 360 องศา ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นายเอกดนัย ตันติภูมิอมร ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา โตชิบาวางกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ไว้ 3 แกนคือ

เจาะตลาดแมส (Mass Segment) โดยสรรหาผลิตภัณฑ์ที่ทุกบ้านต้องมี โดยส่งผลิตภัณฑ์คุณภาพ ในราคามิตรภาพเพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคในวงกว้าง
ขยายฐานไปยังกลุ่มระดับกลางถึงบน (Mid to High Segment) ที่เติบโตขึ้นในทุกปี กลุ่มนี้จะมีความต้องการมากขึ้นในเชิงต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีขนาดความจุใหญ่ขึ้น และ/หรือ สเปคบางอย่างที่มาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของเขา อาทิ ต้องการความสะดวกสบาย ต้องการประหยัดเงิน
เจาะเข้าตลาดเฉพาะกลุ่ม (Niche Market) โดยส่งผลิตภัณฑ์ที่มีความโดดเด่นในแต่ละเรื่องแตกต่างกัน ทั้งในเรื่องดีไซน์ สเปค หรือเทคโนโลยี สำหรับปี 2568 นี้ เรามีแผนขยายสินค้าใหม่มากถึง 53 รุ่น โดยแบ่งเป็นกลุ่มตู้เย็น 11 รุ่น กลุ่มเครื่องซักผ้า 19 รุ่น กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องครัว 16 รุ่น และกลุ่มเครื่องใช้ในบ้านอีก 7 รุ่น

นางสาวธัญปภัสส์ อริยะวรวัฒน์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวเสริมถึงกลยุทธ์ทางการตลาดว่า “ในปี 2567 ที่ผ่านมา นอกจากจะเป็นการเฉลิมฉลอง โตชิบาครบรอบ 55 ปีแล้ว เราประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงจากการสร้างแบรนด์ โดยใช้กลยุทธ์แอมบาสเดอร์มาร์เก็ตติ้ง คุณหมาก ปริญ สุภารัตน์ ช่วยทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้น โดยขยายฐานลูกค้ากลุ่มเดิมเข้าสู่กลุ่มคนรุ่นใหม่ อีกทั้งยังช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์ ทำให้แบรนด์ดูทันสมัย เข้าถึงง่าย และดูเป็นมิตรมากขึ้น ซึ่งจากผลสำรวจของบริษัทฯ พบว่า หลังจากใช้กลยุทธ์นี้ ทำให้ผู้บริโภครู้สึกอยากซื้อสินค้ามากขึ้น และยังช่วยสร้างการรับรู้ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุดมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ซึ่งปีนี้ เราได้ “ทาคาชิ โซริมาจิ” นักแสดงหนุ่มชื่อดังชาวญี่ปุ่น มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ เพื่อขยายฐานลูกค้าไปสู่ประเทศอื่นๆ ในเอเชียแปซิฟิก ซึ่งเรามั่นใจว่า จะช่วยสร้างการรับรู้ และทำให้แบรนด์โตชิบาเป็นที่รู้จักมากขึ้นอย่างแน่นอน”

“สำหรับกิจกรรมทางการตลาดในปี 2568 บริษัทฯ ยังคงเน้นการทำตลาดแบบ 360 องศา ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ โดยมีการใช้งบประมาณเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว เพื่อให้ครอบคลุมทุกช่องทาง และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น โดยช่องทางหลักๆ ยังคงเป็น Facebook, Instagram, TikTok และ YouTube รวมถึงการเพิ่มสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ อาทิ ป้ายโฆษณา สื่อ ณ จุดขาย และสื่อออนไลน์ต่างๆ นอกจากนี้ เรายังมีแผนจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย โรดโชว์ และกิจกรรมพิเศษต่างๆ เพื่อให้ผู้บริโภคได้สัมผัส ทดลองใช้สินค้า และรับโปรโมชั่นสุดพิเศษมากมาย โดยเน้นการจัดกิจกรรมในห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางออนไลน์ต่างๆ อาทิ Shopee และ Lazada อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า โดยการจัด Experience Store เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัส ทดลอง และเรียนรู้การใช้งานสินค้าอย่างเต็มที่ ก่อนตัดสินใจซื้อ และมีการพัฒนาบริการหลังการขายให้ดียิ่งขึ้น เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า” ธัญปภัสส์ กล่าวทิ้งท้าย

นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวว่า “ปี 2567 ที่ผ่านมา เป็นปีแห่งการเฉลิมฉลองครบรอบ 55 ปี ของการดำเนินธุรกิจของโตชิบา ไทยแลนด์ ซึ่งตลอดปี บริษัทฯ มีกิจกรรมการการตลาดและแคมเปญที่หลากหลาย ซึ่งช่วยให้เราเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายทั้งลูกค้ากลุ่มเดิมและกลุ่มใหม่ได้เป็นอย่างดี ความสำเร็จนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ หากขาดทีมงานชาวอิฐแดงทุกคนที่ทุ่มเทแรงกาย แรงใจ เปรียบเสมือนอิฐแต่ละก้อนที่รวมกันเป็นกำแพงที่แข็งแรง รวมถึงพาร์ทเนอร์ ตัวแทนจำหน่ายที่ให้การสนับสนุนโตชิบาเป็นอย่างดี และลูกค้าที่ให้ความไว้วางใจในผลิตภันฑ์แบรนด์ TOSHIBA จนบริษัทฯ เดินทางมาถึงปีที่ 55 ได้อย่างมั่นคง อย่างไรก็ตาม ปีนี้จะเป็นอีกปีที่เราต้องเผชิญกับความท้าทายจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจไทย

บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่น “นำสิ่งที่ดีสู่ชีวิต” ให้กับคนไทย ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมใหม่ๆ มาตรฐานประเทศญี่ปุ่น เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของใช้งานของทุกคน เพิ่มความสะดวกสบาย เสริมสร้างสุขภาพที่ดี และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โตชิบา ไทยแลนด์ มุ่งมั่นที่จะเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมกับส่งเสริมการเติบโตของคู่ค้าและดีลเลอร์ให้เติบโตไปด้วยกัน และที่ขาดไม่ได้ คือการตอบแทนสังคม ด้วยกิจกรรมเพื่อสังคมต่างๆ เพื่อที่โตชิบา ไทยแลนด์จะได้เติบโตอย่างยั่งยืนไปด้วยกันกับสังคมไทย