ครม. ไฟเขียวร่าง กฎหมายกาสิโน พ.ร.บ. เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เตรียมชงเข้าสภา

โฆษกรัฐบาลเผย ครม. เห็นชอบร่าง พ.ร.บ. เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ (Entertainment Complex) แล้ว โดยเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ยืนยันไม่ได้เห็นแย้งหรือเห็นต่าง เพียงแต่มีข้อสังเกตเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล ด้านนายกฯ ชี้ สัดส่วนกาสิโนมีเพียง 10% ส่วนที่เหลือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและบันเทิงครบวงจร หวังดึงดูดนักท่องเที่ยวและสร้างรายได้เข้าประเทศ

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2568 ว่า ที่ประชุม ครม. มีมติเห็นชอบในหลักการต่อร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ…. ของกระทรวงการคลัง โดยนายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ชี้แจงว่า กฤษฎีกาไม่ได้เห็นแย้งหรือไม่เห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ เป็นเพียงข้อสังเกตที่สามารถนำไปปรับแก้เพิ่มเติม เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งเน้นการสร้าง “แมนเมดเดสติเนชั่น” (Man-made Destination) หรือสถานที่ท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เสนอสาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ. ประกอบด้วย การกำหนดให้มีคณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร คณะกรรมการบริหาร การจัดตั้งสำนักงานกำกับการประกอบสถานบันเทิงครบวงจร และกำหนดหลักเกณฑ์การอนุญาตให้ประกอบสถานบันเทิงครบวงจร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและกำกับดูแลธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรให้ได้มาตรฐาน เพื่อรองรับการท่องเที่ยวและส่งเสริมการลงทุนในประเทศ

ด้านนายกรัฐมนตรี ให้ข้อสังเกตว่า ขอให้พิจารณาต้นแบบในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกที่ทำศูนย์กลางท่องเที่ยวและเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ในรูปแบบนี้จนประสบผลสำเร็จ รวมถึงพิจารณาผลดีที่คณะกรรมการศึกษา เนื่องจากเรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่ของประเทศไทยที่ต้องอธิบายให้ประชาชนเข้าใจ

ทั้งนี้ ที่ประชุม ครม. ได้แสดงความคิดเห็นว่า สัดส่วนของกาสิโนมีเพียงแค่ 10% เท่านั้น ส่วนที่เหลือจะเป็นเอ็นเตอร์เทนเมนต์และศูนย์ท่องเที่ยวและบันเทิงครบวงจร เช่น การจัดการประชุม การจัดนิทรรศการระดับโลก การจัดคอนเสิร์ต หรือสถานที่ท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ที่มนุษย์สร้างขึ้น เช่น สวนน้ำสวนสนุกในรูปแบบสมัยใหม่

อย่างไรก็ตาม หลังจาก ครม. อนุมัติหลักการร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ….. แล้ว จะส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา จากนั้นรัฐบาลจะนำเสนอร่าง พ.ร.บ.ฯ ฉบับนี้ เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภาต่อไป