Dusit Central Park คืบหน้ากว่า 70% เตรียมเปิดเฟสใหม่ปี 68 ทุ่มงบกว่า 46,000 ล้านบาท

Dusit Central Park โครงการมิกซ์ยูสใจกลางเมือง ประกาศความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการกว่า 70% โดยในปี 2568 เตรียมเปิดตัวอาคารที่พักอาศัย The Residences at Dusit Central Park, ศูนย์การค้า Central Park Retail และอาคารสำนักงาน Central Park Offices หลังจากที่โรงแรม Dusit Thani Bangkok ได้เปิดให้บริการไปแล้วตั้งแต่เดือนกันยายน 2567 โดยรวมโครงการนี้ใช้งบประมาณการลงทุนกว่า 46,000 ล้านบาท บนพื้นที่ 9 เอเคอร์ มีระยะเวลาก่อสร้างนานกว่า 8 ปี และมีพื้นที่สีเขียวรวมกว่า 11,000 ตารางเมตร

The Residences at Dusit Central Park ตั้งเป้ายอดขาย 85% ภายในปี 2024

The Residences at Dusit Central Park เป็นอาคารสูง 299 เมตร มีทั้งหมด 69 ชั้น กับห้องพัก 406 ห้อง บนพื้นที่ใช้สอย 117,500 ตารางเมตร ได้รับความสนใจจากทั้งลูกค้าชาวไทยและต่างชาติ แบ่งเป็นอัตราส่วน 80% ต่อ 20% ของผู้ที่สนใจ โดยตั้งเป้าหมายยอดขายไว้ที่ 85% ภายในปี 2024 เพื่อเป็นการตอกย้ำความหรูหรา ทางโครงการจึงได้ร่วมมือกับ Arkitektura และ Euro Creations สองผู้นำด้านเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน ในการสร้างสรรค์ 3 Special Edition Show Residences บนพื้นที่จริง โดยนำเสนอแพ็คเกจเฟอร์นิเจอร์ที่หลากหลาย ตั้งแต่แบรนด์ดังจากสหรัฐอเมริกา แบรนด์อิตาลี ไปจนถึงดีไซน์เนอร์ชั้นนำจากยุโรป ซึ่งจะเปิดให้เข้าชมในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2568

Central Park Offices อาคารสำนักงานเกรด A แห่งใหม่

Central Park Offices อาคารสำนักงานเกรด A จำนวน 44 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 130,000 ตารางเมตร ถูกออกแบบภายใต้แนวคิด The Future Work/Life for Global Visionaries เน้นการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีต่อการทำงาน พร้อมพื้นที่ Hybrid Workspace และเชื่อมต่อกับโรงแรมและศูนย์การค้า โดยตั้งเป้าเป็นคอมมูนิตี้ของบริษัทชั้นนำทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มบริษัทต่างชาติ ตัวอาคารได้รับมาตรฐานอาคารเขียว(เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม)ระดับโลก LEED Gold, WELL Platinum และ WiredScore

Central Park Retail ศูนย์การค้าที่ผสาน Park Life

Central Park Retail ศูนย์การค้าขนาด 130,000 ตารางเมตร มีทั้งหมด 7 ชั้น กับ 1 ชั้นใต้ดิน ซึ่งได้มีการส่งมอบพื้นที่ให้กับ CPN เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ชูคอนเซ็ปต์ The New Luxury ผสมผสาน Curated Experience เข้ากับ Park Life นำเสนอประสบการณ์ไลฟ์สไตล์ที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยคัดสรรแบรนด์ชั้นนำทั้งในไทยและระดับโลก ผสานกลิ่นอาย Heritage ของโรงแรมดุสิตธานีเดิม เข้ากับงานออกแบบสถาปัตยกรรมและตกแต่งภายใน พร้อมพื้นที่รองรับ Urban Active Lifestyles คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2568

Dusit Central Park เน้น Sustainability Development

โครงการ Dusit Central Park ให้ความสำคัญกับ Sustainability Development ด้วยการใช้วัสดุและเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อม เช่น Green Concrete, ระบบ Water Treatment, HEPA Filter, กระจกกรอบอาคาร 3 ชั้น เป็นต้น พร้อมกันนี้ยังมี Roof Park สวนสาธารณะลอยฟ้าขนาด 7 ไร่ ที่ออกแบบภายใต้หลัก Universal Design และ Biophilic Design เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงพื้นที่สีเขียวได้อย่างสะดวกสบาย

Dusit Thani Bangkok โรงแรม 5 ดาว โฉมใหม่

Dusit Thani Bangkok โรงแรม 5 ดาว ส่วนแรกของโครงการ Dusit Central Park ที่เปิดให้บริการแล้ว ได้รับการตอบรับที่ดีจากคนไทยและนักท่องเที่ยว โดยมียอดเข้าพักและใช้บริการห้องจัดเลี้ยงเป็นไปตามเป้าหมาย แม้จะมีจำนวนห้องพักน้อยลง แต่ทุกห้องถูกออกแบบให้มองเห็นวิวของกรุงเทพมหานครได้อย่างสวยงาม รวมถึงห้องประชุมต่างๆ ก็มีความพร้อมที่จะรองรับการจัดงานต่างๆ ใจกลางกรุงเทพมหานคร ล่าสุดได้เปิดให้บริการเพิ่มเติม 4 ส่วน ได้แก่ ห้องอาหาร Cannubi by Umberto Bombana ร้านอาหารอิตาเลียนไฟน์ไดนิ่ง, Sky Lobby ชั้น 39, Spire Rooftop Bar บาร์วิวเมืองมุมสูง และ 1970 Bar

ความท้าทายในการก่อสร้าง Dusit Central Park

คุณละเอียด โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วิมานสุริยา จำกัด ผู้พัฒนาโครงการ Dusit Central Park ระบุว่า ความท้าทายของโครงการนี้คือการพัฒนาพื้นที่ชั้นใต้ดินที่ลึกเกือบ 20 เมตร ซึ่งปริมาณดินที่ถูกขุดออกมาเพื่อพัฒนาชั้นใต้ดินนับว่าเป็นปริมาณมหาศาล จึงมีความท้าทายมาก ส่วนช่วงระยะเวลาที่ทำให้การก่อสร้างมีระยะเวลานาน เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ด้วย

“Dusit Central Park เป็นโครงการมิกซ์ยูสที่ไม่มุ่งหวังเพียงแค่สร้างผลกำไร แต่ต้องการสร้างมาตรฐานใหม่ในการพัฒนาโครงการ และยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน ด้วยการสร้างระบบนิเวศและนิเวศเมืองที่ดี เรามั่นใจว่า Dusit Central Park จะเป็น A World-class Complete Mixed-use Development ที่มีความเป็นเลิศในทุกมิติ” คุณละเอียด กล่าว

การออกแบบสถาปัตยกรรม Dusit Central Park

การออกแบบของโรงแรมดุสิตธานีเดิม ได้รับแรงบันดาลใจมาจากปรางค์ของวัดอรุณ ซึ่งตัวอาคารที่เป็นเรสซิเดนซ์ก็ยังคงได้แรงบันดาลใจจากปรางค์วัดอรุณเช่นเดิม ขณะที่รูปแบบการออกแบบสถาปัตยกรรมได้อ้างอิงรูปแบบของฮวงจุ้ย ซึ่งไม่ได้ถูกจำกัดแค่เฉพาะความเชื่อ แต่เป็นการอ้างอิงหลักวิทยาศาสตร์เพื่อส่งเสริมการใช้ชีวิตมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการหันตึกไปยังทิศตะวันออกเพื่อรับแสงอาทิตย์ในยามเช้า รวมถึงการออกแบบทิศทางลมของตึกสูงในเมือง

“แม้ว่าการแข่งขันอาคารสูงในปัจจุบันจะยังคงแข่งกันที่ความสูงเพื่อท้าทายความสามารถด้านวิศวกรรม แต่ส่วนตัวมองว่าปัจจุบันการแข่งขันตึกสูงถูกเพิ่มอีกหนึ่งปัจจัยขึ้นมา คือ การเพิ่มพื้นที่สีเขียวและธรรมชาติมาผสมกับตึกสูงได้มากกว่ากัน ซึ่งส่วนตัวมองว่าการแข่งขันสร้างตึกสีเขียวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในประเทศไทยยังคงมีน้อยอยู่ ซึ่งเทียบกับในระดับภูมิภาค อย่างสิงคโปร์ ที่นำไปก่อนหน้านี้แล้ว” คุณละเอียด กล่าวเสริม