Connect with us

ข่าว

เทรนด์ท่องเที่ยวมาแรงปี 2568: ฉีกทุกกฎเกณฑ์ เติมเต็มตัวตนไปกับโลกใบใหม่

Published

on

เทรนด์ท่องเที่ยว

Booking.com เผยผลสำรวจเทรนด์การท่องเที่ยวปี 2568 พบว่าแม้เศรษฐกิจผันผวนและความกังวลเรื่องสภาวะโลกร้อน แต่ผู้คนยังคงให้ความสำคัญกับการเดินทางท่องเที่ยว โดยปีนี้จะเน้นการเดินทางเพื่อเติมเต็มตัวตน ฉีกกรอบเดิมๆ เชื่อมโยงกับตัวเองและผู้คนรอบข้าง ผ่านประสบการณ์แปลกใหม่

ผลสำรวจจากผู้เดินทางกว่า 27,000 คนทั่วโลก ชี้ให้เห็น 9 เทรนด์ท่องเที่ยวสุดฮิตในปี 2568 ได้แก่

1. เปิดโลกการเดินทางใหม่ด้วย AI

เทคโนโลยีจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการท่องเที่ยวมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้ AI ช่วยวางแผนทริป ค้นหาจุดหมายปลายทางใหม่ๆ หรือแม้แต่ช่วยให้เข้าถึงประสบการณ์ท้องถิ่นอย่างแท้จริง ผลสำรวจพบว่า 83% ของผู้เดินทางชาวไทยจะใช้เทคโนโลยีเพื่อค้นหาข้อมูลและสัมผัสประสบการณ์แบบท้องถิ่น 75% ใช้เทคโนโลยีค้นหาจุดหมายปลายทางใหม่ๆ และ 54% สนใจใช้ AI ช่วยวางแผนทริป

2. ทริปเที่ยวแบบครอบครัวใหญ่

Advertisement

การเดินทางแบบหลายเจเนอเรชั่น (Multigenerational travel) กำลังมาแรง โดยเฉพาะในกลุ่มเบบี้บูมเมอร์ที่ต้องการใช้เวลากับครอบครัว สร้างประสบการณ์ร่วมกัน และ 40% ของผู้เดินทางชาวไทยก็วางแผนทริปครอบครัวใหญ่ในปี 2568 โดยมองว่าเป็นการสร้างประสบการณ์อันล้ำค่าร่วมกัน มากกว่าการเก็บเงินไว้เป็นมรดก

3. ทริปใหม่แต่ไอเท็มเดิม

ด้วยค่าครองชีพที่สูงขึ้นและความตระหนักรู้เรื่องสิ่งแวดล้อม ผู้เดินทางจึงหันมาสนใจสินค้ามือสองมากขึ้น โดย 76% ของผู้เดินทางชาวไทยสนใจที่จะซื้อเสื้อผ้าระหว่างการเดินทาง และ 53% สนใจที่จะแวะร้านขายของมือสอง ซึ่งนอกจากจะช่วยประหยัดแล้ว ยังเป็นการต่อต้านกระแสฟาสต์แฟชั่นและแนวคิดบริโภคนิยมอีกด้วย

4. ทริปหลบร้อนท่ามกลางแสงดาว

Advertisement

อุณหภูมิที่สูงขึ้นทั่วโลก ทำให้ผู้คนมองหาสถานที่ท่องเที่ยวที่อากาศเย็นสบาย โดยเฉพาะกิจกรรมยามค่ำคืนที่อากาศเย็นกว่า 73% ของผู้เดินทางชาวไทยสนใจท่องเที่ยวในจุดหมายปลายทางที่มืดสงบ พร้อมสัมผัสประสบการณ์ดูดาว เรียนรู้เกี่ยวกับดาราศาสตร์ และ 68% วางแผนเข้าร่วมกิจกรรมกลางคืนเพื่อหลีกเลี่ยงอากาศร้อนในตอนกลางวัน

5. ชะลอใจ ชะลอวัย

การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism) ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ผู้คนมองหาการเดินทางที่ไม่ใช่แค่การพักผ่อน แต่ยังช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิต ฟื้นฟูร่างกายและจิตใจ โดย 81% ของผู้เดินทางชาวไทยยินดี “ซื้อสุขภาพ” ผ่านการท่องเที่ยว และ 69% สนใจกิจกรรมบำบัดเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นระหว่างการเดินทาง

6. ทริปชายแท้ แต่ตีความใหม่

Advertisement

ผู้ชายยุคใหม่ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพกายใจมากขึ้น การเดินทางแบบ “ลูกผู้ชาย” จึงไม่ได้จำกัดอยู่แค่เรื่องอบายมุข แต่เน้นการพัฒนาตัวเอง ดูแลสุขภาพจิต และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนฝูง โดย 62% ของผู้เดินทางชาวไทยสนับสนุนให้ผู้ชายลองไปเที่ยวแบบทริปชายแท้

7. เริ่มต้นเที่ยวได้ แม้ในสนามบิน

ผู้คนเริ่มมองหาความบันเทิงและใช้เวลาในสนามบินให้คุ้มค่ามากขึ้น 82% ของผู้เดินทางชาวไทยรู้สึกดีขึ้นและเครียดน้อยลงหากสนามบินมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย และ 77% สนใจสนามบินที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น โรงแรมแคปซูล ร้านสปา หรือร้านอาหารระดับมิชลิน

8. การเดินทางที่พิเศษของคนที่มีความต้องการพิเศษ

Advertisement

ผู้ที่มีความต้องการพิเศษ โดยเฉพาะผู้มีความหลากหลายทางระบบประสาท (Neurodivergent People) จะหันมาใช้เทคโนโลยีเพื่อช่วยเหลือและสร้างประสบการณ์การเดินทางที่ดีขึ้น ลดความวิตกกังวล เช่น AI ที่สรุปข้อมูลการเดินทางแบบเรียลไทม์ และห้องกิจกรรมบำบัด (Sensory Stimulation Rooms) ในสนามบินและโรงแรม

9. ท้าทายขีดจำกัดเรื่องอายุ

กลุ่มเบบี้บูมเมอร์ยุคใหม่ ไม่ยอมให้อายุเป็นอุปสรรคในการเดินทาง พวกเขาพร้อมเปิดรับประสบการณ์ใหม่ๆ และมองหาการผจญภัยที่ท้าทาย โดย 21% ของผู้เดินทางกลุ่มนี้สนใจการท่องเที่ยวแบบผจญภัย เช่น ขี่ม้า ล่องเรือแคนู เดินป่า และโต้คลื่นบนทราย

“ปี 2568 ผู้คนจะเดินทางเพื่อค้นหาตัวเอง เสริมสร้างความสัมพันธ์ และเชื่อมต่อกับโลกใบนี้” คุณมิเชล เกา ผู้จัดการประจำภูมิภาคประจำกลุ่มลุ่มแม่น้ำโขงและจีนของ Booking.com กล่าว “Booking.com มุ่งมั่นที่จะใช้เทคโนโลยีช่วยให้ทุกคนออกไปสัมผัสโลกกว้างในแบบของตัวเองได้ง่ายขึ้น”

Advertisement

รายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บข้อมูล

*Booking.com เป็นผู้มอบหมายให้จัดการสำรวจข้อมูลเพื่อคาดการณ์การเดินทางในปี 2568 โดยได้สอบถามกลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ใหญ่ซึ่งวางแผนที่จะเดินทางทริปธุรกิจหรือทริปพักผ่อนในช่วง 12-24 เดือนข้างหน้า ผู้เข้าร่วมการสำรวจมีจำนวนทั้งหมด 27,713 คนใน 33 ประเทศและดินแดน (จากอาร์เจนตินา 1,016 คน ออสเตรเลีย 1,002 คน ออสเตรีย 502 คน เบลเยียม 1,003 คน บราซิล 1,002 คน แคนาดา 1,006 คน จีน 1,007 คน โคลอมเบีย 1,005 คน โครเอเชีย 501 คน เดนมาร์ก 501 คน ฝรั่งเศส 1,011 คน เยอรมนี 1,009 คน ฮ่องกง 1,004 คน อินเดีย 1,002 คน ไอร์แลนด์ 506 คน อิสราเอล 501 คน อิตาลี 1,014 คน ญี่ปุ่น 1,008 คน เม็กซิโก 1,013 คน เนเธอร์แลนด์ 1,011 คน นิวซีแลนด์ 1,003 คน โปรตุเกส 504 คน สิงคโปร์ 508 คน เกาหลีใต้ 1,004 คน สเปน 1,008 คน สวีเดน 509 คน สวิตเซอร์แลนด์ 500 คน ไต้หวัน 507 คน ไทย 1,009 คน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 503 คน สหราชอาณาจักร 1,012 คน สหรัฐอเมริกา 1,006 คน และเวียดนาม 1,016 คน) ผู้เข้าร่วมได้ทำแบบสอบถามทางออนไลน์ในเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม 2567

**การรวบรวมข้อมูลของ Booking.com อ้างอิงจากการค้นหาบนแพลตฟอร์ม Booking.com ระหว่างวันที่ 1 มกราคม ถึง 31 มีนาคม 2567 จากผู้เดินทางจาก 11 ประเทศในเอเชียแปซิฟิก ได้แก่ ออสเตรเลีย จีน ฮ่องกง อินเดีย ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ไต้หวัน ไทย และเวียดนาม โดยกําหนดเวลาเช็คอินระหว่าง 1 เมษายน ถึง 31 ธันวาคม 2567 ส่วนจุดหมายปลายทางยอดนิยมพิจารณาจากปริมาณการค้นหาในปี 2567 นอกจากนี้จุดหมายปลายทางที่กําลังเป็นที่นิยมถูกระบุด้วยการวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงปริมาณการค้นหาแบบปีต่อปีระหว่างปี 2566 ถึง 2567 โดยใช้ตัวกรองช่วยยกเว้นเมืองที่มีการค้นหาน้อยกว่า 500 ครั้งในปีที่แล้ว เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลมีความสําคัญและความสมบูรณ์ ข้อมูลเพิ่มเติมถูกรวบรวมจาก GWI Core ซึ่งเป็นการสำรวจผู้ใช้อินเทอร์เน็ตอายุ 16-64 ปี และ GWI Travel ที่เน้นศึกษาผู้เดินทางในช่วงอายุเดียวกัน เพื่อวิเคราะห์ปัจจัยที่สร้างหรือทำลายประสบการณ์การเดินทางของพวกเขาในเอเชียแปซิฟิก

Advertisement