Connect with us

ข่าว

ทำไม HBO Go ในไทยถึงเปลี่ยนเป็น Max พร้อมมุมมองการขยายตลาดกับพันธมิตรอย่าง AIS

Published

on

แพลตฟอร์ม Max

AIS รุกครองตลาดสตรีมมิงไทย ผนึก Warner Bros. Discovery เปิดตัว Max แพลตฟอร์มสตรีมมิงระดับโลก ยกระดับประสบการณ์ความบันเทิงบนโครงข่ายที่ดีที่สุด สุดเอ็กซ์คลูซีฟ สุดคุ้มทั้งลูกค้าเน็ตบ้านและมือถือ

Jason Monteiro, APAC Streaming Lead, Warner Bros. Discovery ระบุว่า สาเหตุ Warner Bros. Discovery ตัดสินใจเปลี่ยนการทำการตลาดจาก HBO Go เป็นแพบตฟอร์ม Max เพื่อเปิดกว้างคอนเทนท์ให้มากกว่าแค่คอนเทนต์ภายใต้แบรนด์ HBO เพราะ Warner Bros. Discovery ต้องการส่งคอนเทนท์และเนื้อหาต่างๆที่หลากหลายมากยิ่งขึ้นมาสู่สายตาผู้ชมชาวไทยมากยิ่งขึ้น อาทิ Harry Potter, Game of Thrones, Rick and Morty , Last of Us , Friends และคอนเทนต์จากช่อง Cartoon Network , Discovery Channel ที่อยู่ในเครือ Warner Bros.

ซึ่งแพลตฟอร์มทั้งหมดจะถูกแปลลงมาเป็นภาษาไทย รวมถึงคอนเทนท์ต่างๆก็จะถูกนำมาแปลเป็นภาษาไทยไม่ว่าจะในรูปแบบซับไตเติ้ลหรือพากย์ไทยในคอนเทนท์ที่ได้รับความนิยม

“หนึ่งพฤติกรรมที่น่าสนใจ คือ พฤติกรรมของผู้ใช้ในประเทศไทยที่ใช้โทรศัพท์มือถือเป็นจำนวนมาก การเปิดตัวในประเทศไทย จึงมีแพคเกจพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ในประเทศไทยที่นิยมชมบนโทรศัพท์มือถือโดยเฉพาะ”

Jason ระบุว่า อนาคตมีแผนที่จะดันคอนเทนท์ของไทยขึ้นบนแฟลตฟอร์มด้วย แต่ ณ ช่วงเปิดตัวจะเน้นไปที่เนื้อหาของ Warner Bros. ก่อน แม้ว่าละครและภาพยนตร์ไทยจะมีความสำคัญมากๆแต่ก็ยังมีเนื้อหาจากฝั่งตะวันตกที่น่าสนใจเช่นเดียวกัน

แพลตฟอร์ม Max จะเปิดให้บริการในประเทศไทยในวันที่ 19 พ.ย. 2567 โดยไทยเป็น 1 ใน 7 ประเทศและเขตปกครองพิเศษที่ Warner Bros. Discovery เลือกที่จะเปิดให้บริการก่อนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

Advertisement

โดยวิธีการล็อกอิน แพลตฟอร์ม Max จะใช้เพียงหมายเลขโทรศัพท์มือถือเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้ในการลงชื่อเข้าใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย (คล้ายกับ Disney+ Hotstar)

นางสาวรุ่งทิพย์ จารุศิริพิพัฒน์ หัวหน้าส่วนงาน AIS PLAY กล่าวว่า “ในฐานะผู้ให้บริการดิจิทัล เรามีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนา Digital Infrastructure เพื่อเป็นรากฐานในการส่งมอบประสบการณ์ดิจิทัล และยกระดับเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ โดยในปัจจุบัน เครือข่ายของ AIS 3BB Fibre 3 ครอบคลุมแล้วมากกว่า 13 ล้านครัวเรือน ด้วยฐานลูกค้ากว่า 4.9 ล้านราย และ เครือข่าย AIS 5G ที่ครอบคลุมแล้วมากกว่า 95% ของพื้นที่ประชากรกับฐานลูกค้ากว่า 46.3 ล้านราย โดยมีลูกค้า 5G ที่ 11 ล้านราย ซึ่งกลุ่มลูกค้าทั้งหมดนั้นมีความชื่นชอบคอนเทนต์ที่หลากหลาย ที่ผ่านมาเราจึงมุ่งเน้นคัดสรรคอนเทนต์คุณภาพจากพันธมิตรทั้งในระดับ Local และ Global ผ่าน AIS PLAY ในฐานะ Streaming Platform ที่ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ที่ดีในการรับชมตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทางบนเครือข่ายคุณภาพ ทั้งเน็ตบ้านและมือถือ”

“ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในไทย แบ่งเป็น ใช้จากโทรศัพท์มือถืออยู่ที่ราว 63% และอีกครึ่งหนึ่งเป็นคอมพิวเตอร์และอื่นๆ โดยเป็นไปตามพฤติกรรมของผู้ใช้ในภูมิภาคนี้ แต่ก็นับว่าแตกต่างจากฝั่งตะวันตกที่อยู่ที่ราว 50% อย่างไรก็ตามมูลค่าการใช้จ่ายบริการผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลเฉลี่ยต่อหัวในประเทศไทยยังถือว่าต่ำอยู่ นั่นเท่ากับว่าผู้ใช้ยังคงดูแพลตฟอร์ม Streaming แบบฟรีเป็นหลัก” นางสาวรุ่งทิพย์ ระบุ

“วันนี้พฤติกรรมของผู้ใช้เปลี่ยนแปลงไป ไม่ได้ดูแค่เฉพาะภาพยนตร์เป็นเรื่อง หรือซีรี่ส์เป็นตอนตลอดไป แต่ยังมีความหลากหลายในการดูรายการและช่องโทรทัศน์อื่น ๆ เพิ่มมากขึ้นด้วย จึงทำให้ภูมิภาคนี้เป็นที่น่าสนใจและจับตามองจากผู้ให้บริการทางต่างประเทศ”

ขณะที่ นายปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าทั่วไป บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส ระบุว่า หากโครงข่ายอินเทอร์เน็ตครอบคลุมทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ มากขึ้นเท่าไหร่ก็จะสามารถทำให้ธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง อย่างแพลตฟอร์มสตรีมมิง แข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันก็จะสามารถทำให้ผู้ให้บริการจากฝั่งตะวันตกที่มีเนื้อหาจำนวนมากสามารถที่จะนำมาสู่สายตาคนไทยได้อย่างเปิดกว้างมากขึ้น

“ส่วนตัวมองว่า ในอนาคตจะสามารถเพิ่มค่าใช้จ่ายรายหัวบนโลกดิจิทัลจาก 17-18% ของผู้เข้าถึงอินเทอร์เน็ต ในไทยไประดับ 30% ได้ เพราะเมื่อเทียบกับค่าครองชีพอื่นๆ ค่าใช้จ่ายส่วนนี้ไม่ได้ถือว่าสูงเกินไปและ ความพรีเมี่ยมของคอนเทนท์ต่างๆจะดึงดูดให้คนจับจ่ายใช้สอยมากยิ่งขึ้น”

Advertisement

ขณะเดียวกันมองว่าในอนาคตอินเทอร์เน็ตบ้านจะเติบโตมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามก็จะแปรผกผันต่อสภาพเศรษฐกิจด้วย เพราะฉะนั้นตอนนี้ ในฐานะผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐาน จะต้องวางโครงข่ายให้ครอบคลุมมากที่สุดพร้อมต่อการเติบโตและทำให้อินเทอร์เน็ตกลายเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างรายได้ของคนไทย

ราคาค่าบริการแพลตฟอร์ม Max

Mobile Package ราคาพิเศษที่ AIS เท่านั้น เพียง 99บาท/เดือน และ 890 บาท/ปี

  • สตรีมบนอุปกรณ์ 1 เครื่อง
  • ความละเอียดวิดีโอมาตรฐาน HD
  • รับชมได้เฉพาะบนโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ต
  • ดาวน์โหลดได้ 15 รายการเพื่อรับชมได้ทุกที่ทุกเวลา

Standard Package 199 บาท/เดือน และ 1,390 บาท/ปี

  • สตรีมพร้อมกันบนอุปกรณ์ได้ 2 เครื่อง
  • ความละเอียดวิดีโอ Full HD
  • รับชมได้บนอุปกรณ์ที่หลากหลายขึ้น รวมถึงทีวี
  • ดาวน์โหลดได้ 30 รายการเพื่อรับชมได้ทุกที่ทุกเวลา
  • รับชม 5 ช่องพรีเมียมบน AIS PLAY ได้แก่ HBO, HBO Signature, HBO HITS, HBO Family, Cinemax

Ultimate Package 299 บาท/เดือน และ 2,090 บาท/ปี

  • สตรีมพร้อมกันบนอุปกรณ์ได้ 4 เครื่อง
  • ความละเอียด 4K UHD และ Dolby Atmos (ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ที่รองรับ)
  • รับชมได้บนอุปกรณ์ที่หลากหลายขึ้น รวมถึงทีวี
  • ดาวน์โหลดได้ 100 รายการเพื่อรับชมได้ทุกที่ทุกเวลา (จำกัดจำนวน)
  • รับชม 5 ช่องพรีเมียมบน AIS PLAY ได้แก่ HBO, HBO Signature, HBO HITS, HBO Family, Cinemax

และเตรียมสัมผัสประสบการณ์ความบันเทิงบน Max พร้อมฟีเจอร์ใหม่อย่างไร้ข้อจำกัด ทุกที่ทุกเวลา

  • สร้างโปรไฟล์ได้ไม่ซ้ำกันถึง 5 โปรไฟล์ (Multiple user profiles) และปรับแต่งได้ตามใจด้วยตัวละครโปรด  เป็นอวตาร์ประจำตัว
  • การแนะนำคอนเทนต์เฉพาะบุคคล (Personalized Recommendations)
  • ปรับฟีเจอร์การค้นหาให้มีประสิทธิภาพ ราบรื่น รู้ใจผู้ใช้งานมากขึ้น (Improved Search Functionality)
  • ปรับแต่งโปรไฟล์สำหรับเด็ก ซึ่งคัดสรรเนื้อหาที่เหมาะสมกับวัยภายใต้การควบคุมของผู้ปกครอง (Parental controls)
  • แฟนๆ สามารถเก็บเนื้อหาที่ชื่นชอบไว้ใน My List ได้ หรือโหมดดูอย่างต่อเนื่องในรายการที่เปิดค้างไว้ หลังออกจากแอป

นางสาวรุ่งทิพย์ กล่าวย้ำในตอนท้ายว่า “การทำงานร่วมกับ Warner Bros. Discovery ต้อนรับ บริการ Max สู่เมืองไทย ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการเชื่อมต่อประสบการณ์ดิจิทัลให้กับลูกค้า โดยใช้ศักยภาพโครงข่ายสื่อสารอัจฉริยะทั้ง บรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต และ 5G ที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ พร้อมตอกย้ำความเป็น Entertainment HUB หรือ ศูนย์กลางการรับชมคอนเทนต์ความบันเทิงชั้นนำที่ใหญ่ที่สุดในไทยของ AIS ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานทุกกลุ่ม อันจะเป็นการร่วมผลักดันการเติบโตของบริการ Streaming ในเมืองไทยได้อีกด้วย”