ข่าวบันเทิง
Lady Gaga ปล่อยซิงเกิลใหม่ Disease การกลับมาในรอบ 4 ปีแบบสมมง Mother Monster ที่แฟนๆ ทั่วโลกรอคอย!
Lady Gaga (เลดี้ กาก้า) ป็อปไอคอน Mother Monster เจ้าของ 13 รางวัลแกรมมี่ ปล่อยซิงเกิลใหม่ที่เหล่าแฟนๆ หรือ Little Monsters ทั่วทุกมุมโลกต่างรอคอยกันมาอย่างยาวนานถึง 4 ปี นับตั้งแต่อัลบั้มเต็มชุดล่าสุด Chromatica ที่ปล่อยออกมาเมื่อปี 2020 ที่ผ่านมาแฟนๆ สามารถรอติดตามชมมิวสิควิดีโอ “Disease” ได้เร็วๆ นี้
“Disease” มาในแนวอิเล็กทรอนิกส์ป็อปที่ผสมผสานกับดนตรีสังเคราะห์ และมีกลิ่นอายของความดาร์ก แบบที่ Lady Gaga เคยทำเอาไว้กับหนึ่งในอัลบั้มที่ประสบความสำเร็จที่สุดอย่าง Born This Way (2011) นอกจาก Lady Gaga จะแต่งเพลงและโปรดิวซ์เพลงนี้เองแล้ว ยังได้ Andrew Watt, Henry Walter, Michael Polansky คู่หมั้นของเธอมาร่วมแต่งเพลง รวมถึง Cirkut ที่เคยร่วมงานกับ Katy Perry, Sam Smith และ The Weeknd มาร่วมโปรดิวซ์เพลงนี้อีกด้วย
“Disease” เป็นซิงเกิลแรกจากอัลบั้มเต็มชุดที่ 7 ที่เรียกกันอย่างไม่เป็นทางการว่า LG7 ที่จะเตรียมปล่อยให้ฟังกันเต็มๆ ในฤดูใบไม้ผลิปี 2025 สานต่อจากความสำเร็จของเพลงบัลลาดสุดฮิตอย่าง “Die With a Smile” ร่วมกับ Bruno Mars ที่ยังคงรักษาอันดับ 1 บนชาร์ต Billboard Global 200 เอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่นติดต่อกันถึง 8 สัปดาห์ ทำให้เพลงนี้เป็นเพลงที่ครองอันดับ 1 บนชาร์ตได้ยาวนานที่สุดในปี 2023 นี้ พร้อมกับยอดสตรีมจากทั่วทุกแพลตฟอร์ตมากถึง 1.06 พันล้านครั้งนับตั้งแต่วันแรกที่ปล่อยเพลง และยังติดอันดับที่ 3 ในชาร์ตเพลงที่คนฟังบ่อยที่สุดใน Spofity และยังเป็นหนึ่งใน 5 ศิลปินในประวัติศาสตร์ที่มียอดสตรีมเพลงประจำเดือนเกิน 100 ล้านครั้งอีกด้วย
นอกจาก “Die With a Smile” Lady Gaga ยังปล่อยอัลบั้ม Harlequin ที่เป็นอัลบั้ม companion จากภาพยนตร์เรื่อง Joker: Folie à Deux ที่เธอร่วมแสดง อัลบั้มนี้เปิดตัวได้อย่างสวยงามที่อันดับ 1 บนชาร์ต Billboard Jazz และอันดับที่ 20 บนชาร์ต Billboard 200
นิตยสารดนตรีชื่อดังอย่าง Rolling Stone พูดถึงอัลบั้มนี้ว่า “เป็นอัลบั้มที่อัดแน่นไปด้วยเพลงแจ๊สแนวสวิงที่เรียบเรียงได้สวยงามในจุดที่ลงตัวกับสไตล์ของเธอได้พอดิบพอดี” ในขณะที่ The New York Times บอกว่า “Lady Gaga เอาอยู่ได้อย่างสบายๆ กับแนวดนตรีแบบโรงละคร แต่นอกจากนี้เธอยังเพิ่มพลังดนตรีในด้านใหม่ๆ ให้กับ ‘The Joker’ โดยเพิ่มดนตรีร็อกลงไปในการเรียบเรียงเพลง และปิดท้ายด้วยเสียงกีตาร์อีเล็กทริก และเสียงร้องคำรามที่กระแทกหูสไตล์พังก์ในแบบของเธอ” รวมถึงสื่อดังอย่าง USA Today กล่าวชมว่า “เป็นอัลบั้มที่ยอดเยี่ยมและประณีตพิถีพิถันที่สุดของเธอจนถึงตอนนี้” และ “Harlequin เป็นอัลบั้มที่เพิ่มความภาคภูมิใจในฐานะนักร้อง และนักแสดงของเธอได้อย่างเต็มที่”
นอกจากผลงานภาพยนตร์แล้ว ในปี 2024 ที่ผ่านมา Lady Gaga ยังได้ทำโปรเจกต์ Sweet Sounds of Heaven ร่วมกับ The Rolling Stones และยังมีภาพยนตร์คอนเสิร์ต GAGA: CHROMATICA BALL ที่ได้รับคำวิจารณ์อย่างดีจากหลายๆ สื่อชั้นนำทั่วโลกอีกด้วย เชื่อว่าในปี 2024-2025 ที่จะถึงนี้ จะเป็นปีที่น่าจับตามองของ Lady Gaga อีกเช่นเคยอย่างแน่นอน