Connect with us

ท่องเที่ยว

Trip.com Group และ Google เปิดรายงาน “Why Travel?” ชี้ 5 เทรนด์หลักการท่องเที่ยวโลกปี 2026: จาก AI สู่การเดินทางเพื่อสุขภาพและวัฒนธรรม

Published

on

อโกด้าเปิดเผยสถิติการท่องเที่ยวครึ่งแรกของปี 2568 พบนักเดินทางจากจีน มาเลเซีย และเกาหลีใต้ ยังคงเดินทางมาไทยมากที่สุด กรุงเทพฯ พัทยา ภูเก็ต และหาดใหญ่ เป็นเมืองยอดนิยม

สำนักข่าวบริคอินโฟ – Trip.com Group และ Google ได้ร่วมกันเปิดเผยรายงานเชิงลึกระดับโลกในชื่อ “Why Travel?” ที่วิเคราะห์พฤติกรรมการท่องเที่ยวและค้นพบ 5 เทรนด์สำคัญ ที่คาดการณ์ว่าจะกำหนดทิศทางการเดินทางของผู้คนในปี 2026 รายงานนี้ได้จากการนำข้อมูลการจองทั่วโลกของ Trip.com Group มาผสานกับข้อมูลการค้นหาและงานวิจัยของ Google เพื่อทำความเข้าใจว่านักเดินทางยุคใหม่กำลังแสวงหาประสบการณ์ที่มีความหมายลึกซึ้งขึ้น ทั้งในมิติของวัฒนธรรม สุขภาพ การเชื่อมโยงทางสังคม และการนำเทคโนโลยีมาช่วยในการวางแผนทริป โดยพบว่า เทคโนโลยี AI กำลังเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในการช่วยวางแผนการเดินทาง แทนที่วิธีการแบบดั้งเดิม

รายงาน “Why Travel?” ได้ระบุ 5 เทรนด์หลักที่กำลังขับเคลื่อนอนาคตการท่องเที่ยว ประกอบด้วย: 1) การเดินทางเพื่อแสดงออกถึงตัวตน (Travel as Expression) ซึ่งพบว่าโซเชียลมีเดียเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจจองทริป โดยเฉพาะในไทย อินโดนีเซีย และอินเดีย ที่นักท่องเที่ยวมากกว่า 75% ดูไลฟ์สตรีมเกี่ยวกับการท่องเที่ยว และผู้ชมมากกว่า 40% (ในบางตลาดสูงถึง 76%) มีแนวโน้มจะจองการเดินทางโดยตรงผ่านลิงก์ในไลฟ์สตรีม 2) การเดินทางเพื่อจุดมุ่งหมายที่มีความหมาย (Travel with Purpose) ที่นักท่องเที่ยวต้องการสัมผัสประสบการณ์ทางวัฒนธรรมอย่างลึกซึ้ง สะท้อนจากยอดการค้นหา “พิธีชงชาญี่ปุ่น” บน Google ที่เพิ่มขึ้น 53% เมื่อเทียบกับปีก่อน 3) การเดินทางเพื่อสุขภาพและการฟื้นฟู (Travel to Heal) ซึ่งเป็นเทรนด์ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่เติบโต โดยพบว่าการค้นหา “กอล์ฟและรีสอร์ทสปา” เพิ่มขึ้นถึง 300% และแพ็กเกจ “สกีและสปา” เพิ่มขึ้น 250% เมื่อเทียบรายปี

เทรนด์ที่สี่คือ การเดินทางเพื่อเชื่อมโยงผู้คน (Travel to Connect) ที่มองว่าการเดินทางคือการแบ่งปันประสบการณ์ โดยคอนเสิร์ตและกีฬากลายเป็นแรงจูงใจหลัก ทำให้นักท่องเที่ยว 2 ใน 3 ยินดีเดินทางไปต่างประเทศเพื่อชมคอนเสิร์ต ขณะที่ “Endurance Tourism” หรือการท่องเที่ยวเพื่อร่วมกิจกรรมความอดทน เช่น วิ่ง ปั่นจักรยาน และแข่งขัน Hyrox เพิ่มขึ้นถึง 5 เท่า ปิดท้ายด้วยเทรนด์ การเดินทางแห่งอนาคตด้วยพลังของ AI (Travel of Tomorrow) ที่ชี้ให้เห็นว่า เทคโนโลยี AI กำลังมีบทบาทสำคัญในการช่วยวางแผนทริป เนื่องจากการค้นหา “ช่วยวางแผนการเดินทาง (Help planning my trip)” เพิ่มขึ้นถึง 190% เมื่อเทียบกับปีก่อน

นายเฝิง หาน รองประธาน Trip.com Group กล่าวถึงรายงานฉบับนี้ว่า “การท่องเที่ยวในปี 2026 จะเป็นมากกว่าการเดินทางไปยังจุดหมายใดจุดหมายหนึ่ง แต่คือการเดินทางที่มีความหมาย เราเห็นนักท่องเที่ยวบินข้ามโลกเพื่อร่วมมาราธอน ชิมอาหารท้องถิ่น หรือแม้แต่จองทริปผ่านโซเชียลมีเดีย การร่วมมือกับ Google ครั้งนี้ช่วยให้เราเข้าใจได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ไม่เพียงว่าผู้คนเดินทางไปที่ไหน แต่ได้ค้นพบเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงตัดสินใจเดินทาง”

Advertisement

สอดคล้องกับนางจอยส์ จาง ผู้อำนวยการจัดการ ทีม Greater China LCS Specialists, Google ที่กล่าวเสริมว่า “เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนในวิธีและเหตุผลที่ผู้คนออกเดินทาง โดยนักเดินทางต่างแสวงหาจุดมุ่งหมายที่ลึกซึ้งและประสบการณ์ที่มีความหมายยิ่งขึ้น เครื่องมือ AI ของ Google เช่น Gemini, AI Mode บน Search และ Google Translate กำลังกลายเป็นผู้ช่วยสำคัญในการวางแผนการท่องเที่ยว ขณะเดียวกันก็ช่วยให้อุตสาหกรรมและพันธมิตรของเราอย่าง Trip.com Group สามารถคว้าโอกาสทางธุรกิจที่รออยู่ในปี 2026 และต่อๆ ไปได้อีกด้วย” เพื่อรองรับการเติบโตของคอมมูนิตี้การท่องเที่ยวที่ขับเคลื่อนด้วย AI, Trip.com Group จึงมุ่งพัฒนาแพ็กเกจ “ทัวร์คอนเสิร์ตแบบครบวงจร” และขยายเครื่องมือช่วยวางแผนการเดินทางที่ขับเคลื่อนด้วย AI เช่น Trip.Planner เพื่อมอบประสบการณ์ที่ตรงใจและราบรื่นยิ่งขึ้น

ติดตามเทรนด์และข้อมูลเชิงลึกที่กำหนดรูปแบบการท่องเที่ยวได้ โดยดาวน์โหลดรายงานฉบับเต็มที่นี่

Continue Reading
Advertisement