เนสกาแฟกลับมาขายได้ตามปกติ หลังศาลฯ ยืนยันสิทธิ์เครื่องหมายการค้าในไทย

สำนักข่าวบริคอินโฟ – บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด สามารถกลับมาดำเนินธุรกิจและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ เนสกาแฟ (Nescafé) ในประเทศไทยได้ตามปกติแล้ว ภายหลังศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง มีคำสั่งเมื่อวันที่ 11 เมษายน 2568 ยืนยันว่าเนสท์เล่เป็นผู้มีสิทธิแต่เพียงผู้เดียวในการใช้เครื่องหมายการค้า “Nescafé” และ “เนสกาแฟ” สำหรับสินค้าที่ได้จดทะเบียนไว้ คำสั่งศาลดังกล่าวมีผลบังคับใช้ทันทีตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน 2568

จากคำสั่งศาลล่าสุดนี้ เนสท์เล่ได้แจ้งให้ลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจทราบว่า บริษัทสามารถกลับมารับคำสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ เนสกาแฟ (Nescafé) ได้ตามกระบวนการปกติ ซึ่งถือเป็นการยุติผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการถูกสั่งคุ้มครองชั่วคราวโดยศาลแพ่งมีนบุรีเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา

เนสท์เล่ แสดงความยินดีต่อคำสั่งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางในครั้งนี้ โดยเชื่อมั่นว่าจะช่วยบรรเทาผลกระทบต่อผู้ประกอบการรายย่อย ร้านค้าปลีก คู่ค้าซัพพลายเออร์ และพนักงานที่อยู่ในห่วงโซ่คุณค่าของ เนสกาแฟ (Nescafé) นอกจากนี้ ผู้บริโภคจะสามารถเข้าถึงและบริโภคผลิตภัณฑ์ เนสกาแฟ (Nescafé) ทุกชนิดที่มีวางจำหน่ายในประเทศไทยได้อย่างต่อเนื่อง

“เรารู้สึกยินดีที่ได้รับการยืนยันจากศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ซึ่งทำให้เรากลับมาดำเนินธุรกิจเนสกาแฟได้ตามปกติ” เนสท์เล่ระบุ พร้อมย้ำว่าบริษัทเคารพกฎหมายและปฏิบัติตามเงื่อนไขในสัญญากับบริษัท ควอลิตี้ คอฟฟี่ โปรดักส์ จำกัด (Quality Coffee Products Ltd. – QCP) อย่างเคร่งครัด และมีหลักฐานการปฏิบัติตามสัญญาครบถ้วน โดยก่อนหน้านี้ เนสท์เล่ยังชนะคดีที่ศาลอนุญาโตตุลาการสากล ซึ่งคุณประยุทธ มหากิจศิริ และครอบครัว ในฐานะผู้ถือหุ้นของ QCP ก็ได้เข้าร่วมในกระบวนการไต่สวนด้วยตนเอง

เนสท์เล่ ยังได้แสดงความขอบคุณต่อผู้บริโภคและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วนที่ให้การสนับสนุน เนสกาแฟ (Nescafé) ในช่วงเวลาที่ผ่านมา และยืนยันถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจและลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อประโยชน์ของผู้บริโภค พนักงาน เกษตรกร และพันธมิตรทางธุรกิจ