ข่าว
Gogolook ผู้พัฒนา Whoscall ตั้ง สนง.ใหญ่ แห่งที่ 2 ในไทย มุ่งให้บริการเทคดนโลยีต่อกรมิจฉาชีพ
บริษัท โกโกลุก (Gogolook) บริษัทชั้นนำระดับโลกที่ให้บริการเทคโนโลยีเพื่อความเชื่อมั่น (TrustTech) ผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน Whoscall ประกาศตั้งสำนักงานใหญ่แห่งที่สองในประเทศไทยเดินหน้าขยายธุรกิจทั่วภูมิภาคมุ่งสู่การเป็นผู้นำในการให้บริการโซลูชันป้องกันการฉ้อโกงครอบคลุมธุรกิจเอสเอ็มอีและองค์กรขนาดใหญ่ในทุกอุตสาหกรรม
สำหรับแนวทางในการขยายธุรกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โกโกลุกพร้อมจับมือกับพันธมิตร ทุกภาคส่วนในประเทศไทยและทั่วภูมิภาค ยกระดับการป้องกันการฉ้อโกงและได้ผนึกความร่วมมือกับ ScamAdviser ให้บริการโซลูชันสำหรับธุรกิจเพื่อปกป้องชื่อเสียงและลดความสูญเสียทางการเงินจากมิจฉาชีพ
นายเจฟฟ์ กัว ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทโกโกลุก กล่าวว่า “ภารกิจหลักของโกโกลุก คือการให้บริการเทคโนโลยีเพื่อความเชื่อมั่น (TrustTech)ผ่านโซลูชันที่ใช้นวัตกรรม AIเพื่อป้องกัน การหลอกลวงและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ใช้งาน รวมไปถึงสร้างความไว้วางใจระหว่างองค์กรและผู้บริโภค ในทุกๆช่องทางการติดต่อ ตั้งแต่การโทรศัพท์ ส่งข้อความ หรือการทำธุรกรรมทางดิจิทัล โซลูชันที่ขับเคลื่อนด้วย AIของเราไม่เพียงตอบโจทย์ทั้งผู้บริโภคและธุรกิจในการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล แต่ยังช่วยบริหารความเสี่ยง ที่เกิดจากภัยดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราเลือกประเทศไทยเป็นทั้งสำนักงานใหญ่แห่งที่สองและศูนย์กลาง การขยายธุรกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเราพร้อมร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการต่อสู้กับการฉ้อโกง ผ่านการรังสรรค์นวัตกรรมเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนด้วยความไว้วางใจและสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่าง ยั่งยืน”
ธุรกิจเผชิญความท้าทายจากมิจฉาชีพมากขึ้น
ผลการศึกษาวิจัยเรื่องต้นทุนที่แท้จริงของการฉ้อโกงในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกประจำปี 2566 (2023 True Cost of Fraud Study Asia Pacific),พบว่า 58% ของบริษัทในภูมิภาคนี้ต้องรับมือกับการฉ้อโกง จากมิจฉาชีพเพิ่มขึ้น บริษัทต้องมีค่าใช้จ่ายที่นำมาใช้ในการแก้ไขปัญหาจากการหลอกลวง เช่น การดำเนินคดี ความกับผู้กระทำความผิด และค่าชดเชย เฉลี่ยอยู่ที่ 100 บาท (4ดอลลาร์สิงคโปร์) ต่อทุกๆ 25บาท (1ดอลลาร์สิงคโปร์) ที่สูญเสียไป โดยบริษัทค้าปลีกจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเฉลี่ยประมาณ 80 บาท ต่อทุกๆ 25บาท หรือ (3.07 ดอลลาร์สิงคโปร์) ในขณะที่สถาบันการเงินจะมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยสูงถึง 128 บาท ต่อทุกๆ 25 บาท หรือ (4.59 ดอลลาร์สิงคโปร์)
นอกจากนี้รายงานสถานการณ์การหลอกลวงจากมิจฉาชีพในภูมิภาคเอเชียประจำปี 2567 (Anti-Scam Asia Report 2024)ที่จัดทำโดย องค์กรต่อต้านกลโกงระดับโลก Global Anti-Scam Alliance (GASA)ร่วมกับScamAdviserได้ประเมินมูลค่าความเสียหายที่ประชากรและธุรกิจได้รับจากการหลอกลวงทางไซเบอร์ใน 13ประเทศทั่วภูมิภาคสูงถึง 688.42 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยการปรากฎตัวและการแพร่กระจายของเทคโนโลยี AI เป็นหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้สถานการณ์การหลอกลวงในภาคธุรกิจมีความน่าเป็นห่วงมากขึ้น เพราะมิจฉาชีพได้ใช้ ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI เพื่อก่ออาชญากรรมอย่างแพร่หลาย อาทิเช่น การขโมยข้อมูลส่วนบุคคล (identity thef) การแอบอ้างเป็นบุคคลอื่นในรูปแบบต่างๆ (impersonation scams) รวมถึงการนำเทคโนโลยี AI มาใช้เพื่อหลีกเลี่ยงกระบวนการยืนยันตัวตนลูกค้า(Know Your Customer or KYC) ส่งผลให้มีการคาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมต่อต้านการหลอกลวงทั่วโลกจะมีมูลค่าสูงถึง 129.2 พันล้านเหรียญ สหรัฐ ภายในปี 2572 จากความต้องการของรัฐบาลและธุรกิจทั่วโลกในการแสวงหาเครื่องมือเพื่อปกป้องภัย จากมิจฉาชีพ
จับมือ ScamAdviser ต่อยอดโซลูชันป้องกันการหลอกหลวงองค์กร
โกโกลุกได้ผนึกการให้บริการโซลูชันสำหรับธุรกิจร่วมกับ ScamAdviser เพื่อต่อยอดโซลูชันที่ออกแบบมาสำหรับ องค์กรขนาดใหญ่ ไปจนถึงธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ให้สามารถรับมือกับภัยคุกคามที่ เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ภายใต้กลยุทธ์นี้ทำให้บริษัทมีข้อมูลต่อต้านการหลอกลวงคุณภาพสูงที่ใหญ่ที่สุด ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและเอชียตะวันออกเฉียงใต้ ประกอบด้วยหมายเลขโทรศัพท์กว่า 2,600 ล้านเลขหมาย รวมถึง โดเมน (domain) ที่อันตราย รายชื่อ URL ลิงก์ที่มีความเสี่ยง ลิสต์สกุลเงินดิจิทัล และกระเป๋าเงินดิจิทัล กว่า60 ล้านรายการ ที่นอกจากช่วยให้บริษัทสร้างฐานข้อมูลในการต่อต้านการหลอกลวงทางดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุด ในโลกแล้ว ยังช่วยให้บริษัทสามารถนำข้อมูลเหล่านี้มาผสานเข้ากับความเชี่ยวชาญด้าน AI มาวิเคราะห์และจำลอง รูปแบบการหลอกลวง เพื่อพัฒนาซอฟต์แวร์ที่จะช่วยป้องกันการหลอกลวงองค์กรที่เหนือระดับและขยายโอกาส ในการดำเนินธุรกิจไปยังภูมิภาคต่างๆทั่วโลก
ปัจจุบันโซลูชันสำหรับธุรกิจประกอบด้วยAnti-Scam Intelligence (ASI Solutions), บริการ Watchmen Reputation Protection Serviceและบริการ Identity Suiteที่ช่วยปกป้องชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือ ของธุรกิจในทุกอุตสาหกรรม
โซลูชันสำหรับธุรกิจในประเทศไทย Watchmen Reputation Protection Service
- Whoscall Verified Business Number หรือ VBN ช่วยยืนยันเบอร์โทรศัพท์ของธุรกิจ เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจในความถูกต้องของสายเรียกเข้า ธุรกิจสามารถใช้โซลูชันนี้เพื่อเสริมสร้าง การสื่อสารกับลูกค้า ปกป้องภาพลักษณ์ ของแบรนด์ และป้องกันความเสียหายต่อชื่อเสียงจากการ ถูกแอบอ้าง โดยเบอร์โทรศัพท์ที่ได้รับการยืนยันแล้วจะแสดงชื่อ โลโก้ จุดประสงค์ของการติดต่อ และเครื่องหมายการยืนยัน
- ระบบเตือนภัยล่วงหน้าเกี่ยวกับการฉ้อโกง (Fraud Early Warning System) เป็นระบบอัจฉริยะ ที่ให้บริการครบวงจร ทั้งการตรวจสอบ การแจ้งเตือนล่วงหน้า และการป้องกันจากการโทร ข้อความ โดเมน URL หรือโซเชียลที่อาจเป็นภัยต่อองค์กร
นายแมนวู จู ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โกโกลุก ประเทศไทย กล่าวว่า “เรามุ่งมั่นในการส่งมอบโซลูชัน สำหรับองค์กรที่ล้ำสมัยและสอดคล้องกับมาตรฐานการกำกับดูแลสากล ซึ่งนอกจากจะสนับสนุนธุรกิจในการ ป้องกันภัยให้แก่ผู้บริโภคแล้ว ยังช่วยลดความเสี่ยงจากภัยมิจฉาชีพให้แก่ธุรกิจด้วย ตัวอย่างเช่น บริการWhoscall Verified Business Numberและ Fraud Early Warning Systemที่เมื่อใช้ร่วมกันจะช่วยให้ธุรกิจสร้างความน่าเชื่อถือ ตรวจสอบ และปกป้องชื่อเสียงผ่านช่องทางการสื่อสารต่างๆ ทำให้ผู้บริโภคเกิดความมั่นใจและธุรกิจได้รับการปกป้องในทุกช่องทาง”
ปัจจุบันมีลูกค้าองค์กรและเอสเอ็มอีในภาคส่วนต่างๆ ตั้งแต่โลจิสติกส์ สถาบันการเงิน ประกันภัย และอสังหาริมทรัพย์ กว่า 100บริษัทลงทะเบียนเพื่อยืนยันหมายเลขธุรกิจบน บริการ Whoscall Verified Business Number
สำหรับแผนงานในอนาคตของบริษัท โกโกลุกมีแผนที่จะขยายบริการไปยังภาคเทคโนโลยีทางการเงิน และนำเสนอ โซลูชันเพื่อป้องกันภัยจากอาชญกรรมไซเบอร์ให้เข้ากับความต้องการของภาคธุรกิจต่างๆ ทั้ง สถาบันการเงิน โทรคมนาคม และผู้ให้บริการทั้งหมดบนอินเทอร์เน็ต