Connect with us

ข่าว

สำนักงาน กสทช. เผยยอดลงทะเบียนซิมเกิน 6 เลขหมายแล้วกว่า 1.28 ล้านเลขหมาย คาดยอดลงทะเบียนต่อเนื่องก่อนระงับใช้ซิม

Published

on

พล.ต.อ.ดร.ณัฐธร เพราะสุนทร กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และประธานอนุกรรมการบูรณาการบังคับใช้กฎหมายความผิดทางเทคโนโลยีและความมั่นคงของรัฐ เปิดเผยว่า หลังจากที่ สำนักงาน กสทช. กำหนดให้ผู้ถือครองซิมจำนวนมาก ตั้งแต่ 6 เลขหมายขึ้นไปมายืนยันตัวตน โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 16 ม.ค.2567

จากข้อมูลผู้ใช้บริการยืนยันตัวตนที่สรุปจากผู้ประกอบการทุกราย ณ วันที่ 28 มกราคม 2567 มีผู้ที่ถือครองซิมตั้งแต่ 6 เลขหมายขึ้นไป มายืนยันตัวตนแล้วจำนวนทั้งสิ้น 1,285,855 เลขหมาย ซึ่งคาดว่าจะมีผู้มาลงทะเบียนซิมอีกต่อเนื่อง

สำหรับรายละเอียดการยืนยันตัวตน แบ่งเป็น ผู้ถือครองตั้งแต่ 6-100 เลขหมาย จำนวน 68,414 เลขหมาย จากจำนวนทั้งหมดที่ต้องมายืนยันตัวตน จำนวน 3,848,378 เลขหมาย โดยกลุ่มดังกล่าวสามารถมายืนยันตัวตนได้ถึงวันที่ 13 กรกฎาคม 2567

ส่วนผู้ที่ถือครอง 100 เลขหมายขึ้นไป มายืนยันตัวตนแล้ว 1,217,441 เลขหมาย จากจำนวนทั้งหมด 7,110,513 เลขหมาย โดยกลุ่มที่ถือครอง 100 เลขหมายขึ้นไป จะต้องมายืนยันตัวตนภายในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 หากไม่มีการยืนยันตัวตนภายในระยะเวลาที่กำหนด จะถูกระงับการใช้งาน และถูกเพิกถอนไปในที่สุด

Advertisement

พล.ต.อ.ดร.ณัฐธร กล่าวว่า ปัจจุบันแก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้เครื่อง GSM Gateways (Simbox) เป็นเครื่องแปลงสัญญาณโทรศัพท์แบบใส่ซิมการ์ด ที่สามารถจุซิมได้จำนวนมากทำให้โทรได้จำนวนมาก ซึ่งมาตรการยืนยันตัวตนดังกล่าวจะเป็นการกำจัดเบอร์ที่น่าสงสัยว่าอาจเป็นมิจฉาชีพออกจากเบอร์ใช้งานปกติ ป้องกันมิจฉาชีพนำไปใช้ในการก่ออาชญากรรมออนไลน์ทั้งแก๊งคอลเซนเตอร์ บัญชีม้า และภัยจากออนไลน์ทุกรูปแบบที่ต้องผ่านการใช้ซิมโทรศัพท์ จำนวนมากดังนั้นหากผู้ที่เข้าข่ายถือครองซิมจำนวนดังกล่าวไม่มายืนยัน ตัวตน เบอร์เหล่านี้ก็จะโดนระงับและเคลียร์ออกจากระบบ

“กสทช. และ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรม ทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ได้มีการทำงานร่วมกันเพื่อหาแนวทางป้องกัน รวมทั้งร่วมจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์อยู่ตลอด แต่เนื่องจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์สรรหาวิธีหลอกลวงใหม่ๆ มาหลอกลวงประชาชน จึงขอความร่วมมือประชาชนให้ระวังหากมีเบอร์แปลกโทรมา อย่าโอนเงินโดยไม่ตรวจสอบให้ดี อย่าคุยกับคนไม่รู้จัก และติดตามข้อมูลข่าวสารขององค์กรที่น่าเชื่อถือ เหล่านี้จะเป็นกำแพงป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้” พล.ต.อ.ดร.ณัฐธร กล่าว

นอกจากนี้ ขอฝากประชาชนให้ระมัดระวังการหลอกลวงจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และภัยออนไลน์ในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งการแอบอ้างว่าเป็นหน่วยงานรัฐ และองค์กรต่าง ๆ การหลอกให้โอนเงิน การให้ข้อมูลส่วนบุคคล การลงทุนในรูปแบบต่างๆ รวมทั้งการกดลิงก์จาก sms โดยหากต้องการตรวจสอบข้อมูลที่ถูกต้องสามารถโทรกลับไปยังหน่วยงานที่ถูกแอบอ้างเพื่อสอบถามข้อมูลที่ถูกต้อง หรือสังเกตเบอร์ที่โทรเข้ามา หากมี +697 นำหน้าเบอร์ที่โทรเข้ามา จะเป็นสายจากต่างประเทศทีโทรผ่านอินเทอร์เน็ต และหากมี +698 หรือ +66 นำหน้าสายที่โทร จะเป็นเบอร์โทรศัพท์ของไทย ที่ใช้บริการโรมมิ่งโทรกลับมาจากต่างประเทศ หากไม่มีธุระหรือคนรู้จักอยู่ต่างประเทศ สามารถปฏิเสธการรับสายดังกล่าว รวมทั้งการกด 138 แล้วโทรออก เพื่อบล็อกสายจากต่างประเทศ และ137 แล้วโทรออก เพื่อปฏิเสธ SMS โฆษณา