Connect with us

ข่าว

พังงา เจ้าหน้าที่ตำรวจ ลงพื้นที่สอบปากคำญาติจากกรณีลูกโมโหแม่ใช้มีดปลายแหลมแทงดับ

Published

on

เมื่อวันที่ 28 ม.ค. 66 พ.ต.อ.อนันท์ อนุตรเวสารัช ผกก.สภ.คุระบุรี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.คุระบุรี และโต๊ะอิหม่าม ผู้นำศาสนาอิสลามได้ลงพื้นที่บ้านที่เกิดเหตุ ม.7 ต.บางวัน อ.คุระบุรี จ.พังงา เพื่อสอบถามพูดคุยกับญาติผู้เสียชีวิตโดยที่บริเวณบ้านเกิดเหตุได้มีญาติๆที่มาจากต่างจังหวัดและเพื่อนบ้านได้มานั่งพูดคุยกันด้วยความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ เพื่อรอทำพิธีฝั่งศพนางสุนิต้า มาลิกี อายุ 44 ปี ส่วนผู้ก่อเหตุนายณัฐพล เจ๊ะดะระหมาน อายุ 23 ปี ลูกชายผู้เสียชีวิตได้เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวสอบปากคำตั้งแต่เมื่อวานช่วงเย็นที่ สภ.คุระบุรี โดยขณะที่ทางเจ้าหน้าที่สอบปากคำลูกที่ก่อเหตุเมื่อหายจากหาการคุมคลั่งร้องให้ด้วยความเสียใจที่ก่อเหตุใช้มีดปลายแหลมทิ่งแม่ตัวเองชีวิต ซึ่งช่วงเช้าวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำตัวลูกชายก่อเหตุขึ้นรถห้องขังไปส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดตะกั่วป่าพร้อมแจ้งข้อหาฆ่าบุพการีโดยเจตนา

rbt

ทางด้าน นายเรืองสุข ดาราแสง โต๊ะอิหม่าม ผู้นำศาสนาอิสลาม กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุเคยมีประวัติการเล่นยาเสพติดและมีประวัติการรักษา เมื่อปีที่แล้วที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีและพออาการดีขึ้นก็ไปรับกลับมาบ้านมาทำงานแต่ก็กลับมาเล่นยาอีกครั้ง ซึ่งแถวบ้านยาเสพติดมีมากและราคาถูก มีเงิน 100 บาทก็สามารถซื้อได้มาก และ 2-3 วันนี้ถือว่าเล่นยาหนักเพราะจำแม่ละเมียตัวเองไม่ได้ก็เกิดอาการหลอน

โดยก่อนเกิดเหตุทางแม่ที่เสียชีวิตได้มาขอร้องให้ผู้นำศาสนาพาตัวลูกชายไปบำบัดรักษา แต่ก่อนหน้านี้ที่ไปรักษามายาที่ทางโรงพยาบาลให้มาก็ไม่ได้รับประทาน จนเกิดอาการร้อนคนในบ้านไม่ได้นอน ทำให้ทางแม่ที่เสียชีวิตและภรรยาต้องไปนอนบ้านผู้นำศาสนาอยู่ประมาณ 1 คืน แต่ทางคุณแม่เกิดการเกรงใจว่าลูกชายจะตามมาอาละวาดจึงได้ขอนอนเพียง 2-3วัน ซึ่งก่อนเกิดเหตุมีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมาที่บ้าน ผู้ก่อเหตุน่าจะเกิดอาการกลัว เดินไปหยิบมีดปลายแหลม ออกมาจากในบ้านซึ่งขณะนั้นแม่เมื่อเห็นลูกเอามีดออกมา ก็กลัวว่าจะเข้าไปทำร้ายเจ้าหน้าที่จึงได้เข้าไปกอดรัดเพื่อห้ามลูกชายเพื่อป้องกันลูกจนเกิดการกอดรัดฟัดเหวี่ยง จนทำให้คุณแม่ล้มลงบนพื้นดินหน้าบ้านก่อนที่ลูกชายจะใช้มีดจ้วงแทงบริเวณลำตัวหลายแผลจนเสียชีวิต และเมื่อใช้มีดแทงแม่เสร็จเขาได้ทิ้งมีดแล้วตะโกนดังว่าเขาไม่ผิด ด้วยความระแวงเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจมา

อย่างไรก็ตามตนเองขอฝากไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้สร้างจิตสำนึก ที่ทำอย่างไรให้ปัญหายาเสพติดหายไปจากสังคมที่ไม่มีการปล่อยปละละเลยมากเกินไป ที่ต้องเด็ดขาดกับผู้ค้ายาเสพติดให้ได้โดยเร็ววันและจากที่การตั้งปริมาณยากับโทษที่น้อยลง จึงขอให้ทางเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มโทษกับการค้ายาเสพติดต่อไป

Advertisement
Continue Reading
Advertisement